กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
สรุปยอดรวมคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2005 ทะลุเป้าหมาย 1,000 ล้านบาท โน้ตบุ๊ก ยอดรวม 356 ล้านบาท ตามติดด้วยกล้องดิจิตอล 182 ล้านบาท ผู้จัดงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ย้ำปีหน้ายังคงเน้นหนักกลุ่มลูกค้าอินเทรนด์ คอนซูเมอร์ อีเล็กทรอนิกส์เป็นหลักและเตรียมคิดกลยุทธ์ดึงดูดงานให้คนเข้าชมวันธรรมดามากขึ้น โดยไฮไลน์ของงานยังเน้นเทคโนโลยี Gadgets ใหม่ ๆ เหมือนเดิม
นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ เปิดเผยถึง ภาพรวมของการจัดงาน "คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2005” ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 26-29 พฤษภาคม 2548 ที่ผ่านมาว่า จำนวนผู้เข้าชมงานในครั้งนี้ใกล้เคียงที่วางไว้ที่ประมาณ 500,000 คน ถึงแม้ว่าในสองวันแรกของการจัดงานจะได้รับผลกระทบจากการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกระหว่างเอซี มิลานและลิเวอร์พูล รวมไปถึงการถ่ายทอดสดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 แต่จำนวนผู้เข้าชมงานก็เพิ่มมากขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ ทำให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ในส่วนของยอดขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ นั้นสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายเกิน 1,000 ล้านบาทได้สำเร็จ โดยยอดรวมอันดับ 1 จะเป็นโน้ตบุ๊ก จำนวน 356 ล้านบาท อันดับ 2 กล้องดิจิตอล จำนวน 182 ล้านบาท อันดับ 3 เครื่องเล่นเอ็มพี 3 , อันดับ 4 จอแอลซีดี อันดับ 5 เครื่องพรินเตอร์ และสินค้าอื่น ๆ อาทิ Thumb Drive, สายเคเบิ้ล, เครื่องไร้ท์ ซีดี เครื่องซีดี, แผ่นซีดี ต่าง ๆ โดยทั้งนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคโดยภาพรวมเป็นไปตามเป้าหมายของการจัดงาน ในเรื่องของเพื่อต้องการกระตุ้นตลาดสินค้าอินเทรนด์ คอนซูเมอร์ อีเล็กทรอนิกส์ ให้มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าในสองวันแรกผู้เข้าชมงานยังเป็นกลุ่มเดิม ๆ ที่เป็นแฟนประจำงานคอมมาร์ตที่มาในวันแรก ๆ ก็ตาม แต่ในวันเสาร์-อาทิตย์ นั้นเป็นไปตามเป้าหมายซึ่งผู้เข้าชมงานจะมาชมงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน เป็นครอบครัว โดยจะเลือกซื้อสินค้าประเภทคอนซูมเมอร์ อีเล็กทรอนิกส์ ต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มนี้เป้าหมายที่เราตั้งไว้
สำหรับผู้บริโภคโดยภาพรวมแล้ว งานนี้จะเน้นความร้อนแรงของเทคโนโลยีใหม่ ๆ และต้องการซื้อสินค้าที่มีประสิทธิภาพดีและทันสมัยขึ้น ทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป อินเทล โซโนม่า มีราคาขายไม่ถึง 37,000 บาท ซึ่งแต่เดิมราคาของโซโนม่าจะตกเครื่องละประมาณ 80,000 บาท ตลาดโน้ตบุ๊กในงานจึงขายดีมาก ๆ เฉพาะในงานนี้ราคาเฉลี่ยของโน้ตบุ๊กจะอยู่ประมาณ 45,000 บาท โดยยอดรวมการซื้อสินค้าประมาณ 8,000 เครื่อง ซึ่งแตกต่างจากงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2005 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่มีราคาเฉลี่ย 35,000 บาทและจำหน่ายได้เพียง 7,000 กว่าเครื่องเท่านั้น นอกจากนี้สำหรับจอพลาสม่า กลายเป็นสินค้าที่ขายดีพอสมควร โดยเฉพาะขนาด 42 นิ้ว ก่อนหน้านี้จอพลาสมา มีราคา 130,000 บาท ขึ้นไป แต่มาในครั้งนี้ราคาขายต่ำลงมาเหลือเพียง 80,000 บาทเท่านั้น
นายปฐม กล่าวต่อว่า ด้วยภาพลักษณ์ของงานและกลุ่มผู้ชมงานเป็นกลุ่มคอนซูมเมอร์ อีเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นกลุ่มผู้ค้าแต่ละรายจำเป็นต้องมีการปรับตัวค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม หรือโปรโมชั่น ซึ่งจะไม่เหมือนกับงานคอมมาร์ตเดิม ๆ แต่งานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ก็มีผู้ค้าหลาย ๆ ราย ที่สามารถทำยอดทะลุเป้า อย่างเช่น ผู้ค้าเครื่องเล่น MP 3 หลาย ๆ ราย ให้ข้อมูลว่ามีอัตราการเติบโตมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับงานคอมมาร์ตที่จัดไปเมื่อ 2 เดือนก่อน ส่วนโน้ตบุ๊ค นั้นถือเป็นแฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยม มีอัตราเติบโตไม่ผิดความคาดหมาย สำหรับตลาดกล้องดิจิตอลยังคงรักษาอัตราส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ ซึ่งในงานนี้ยังไม่หวือหวาเท่าที่ควร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าผู้บริโภคยังไม่อยากขยับจาก 5 ล้านพิกเซล มาเป็น 8 ล้านพิกเซล แต่จะหันไปเน้นรุ่น 5 ล้านพิกเซล ที่เป็นแฟชั่น เช่นรุ่นบาง สวยหรือเล็กกระทัดรัด มากกว่า
" เมื่อเทียบกับงานต้นปี สินค้าบางอย่างโตขึ้นมาก อย่างโน้ตบุ๊ค โตขึ้นมา เอ็มพี 3 ก็มีอัตราเติบโตสูงขึ้น ที่ตกลงมาก็เป็นเครื่องพีซี ซึ่งในงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ยอดไม่ค่อยดีนักและสินค้าจะมีให้เลือกน้อยมาก เมื่อเทียบกับงานคอมมาร์ต เมื่อเดือนมีนาคมแล้วพีซีอยู่อันดับ 3 แต่ในงานนี้อยู่เป็น อันดับ 5 ซึ่งเป็นเพราะผู้ค้าต้องการนำเสนอโน้ตบุ๊คมากกว่า " นายปฐมกล่าวและว่าในส่วนไฮไลน์ของงานที่เป็น Gadgets นั้นได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานค่อนข้างมาก แม้กระทั่งในวันธรรมดาก็มีผู้สนใจ บางคนอยากที่จะซื้อเลยก็มี แต่เรามีกติกาไว้ต้องประมูลตอนเย็น อย่าง I-dog ก็ประมูลได้ในราคาประมาณ 3,600 — 3,800 บาท และขอยืนยันว่าในงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน 2006 จะมี Gadgets ใหม่ ๆ มาอย่างนี้อีก ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะเป็นสินค้าแบบใด สำหรับช่วงเวลาของการจัดงานนั้นจะจัดช่วงเวลานี้เหมือนเดิม
สำหรับงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ ในปีต่อไปนั้นแนวโน้มยังคงเน้นในเรื่องของคอนเซ็ปต์ คอนซูมเมอร์ อีเล็กทรอนิกส์ เอาไว้เหมือนเดิม ซึ่งงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน นั้นโปรโมชั่นไม่ได้ดึงดูดใจและร้อนแรงเท่างานคอมมาร์ตในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่อยู่ที่เน้นในเรื่องโปรดักส์ใหม่ ๆ ที่มาเสนอให้ลูกค้าและมีราคาที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อมากกว่า อย่างไรก็ตามทางผู้จัดงานจะต้องปรับกิจกรรมในเรื่องการประชาสัมพันธ์ เพื่อดึงผู้เข้าชมงานให้มากขึ้น ซึ่งในฐานะผู้จัดงานอยากที่จะเฉลี่ยวันให้ผู้เข้าชมงาน เข้ามาชมสินค้าและผลิตภัณฑ์ในวันธรรมดาให้มากขึ้น ซึ่งในครั้งหน้า จะพยายามใช้กลยุทธ์เพื่อดึงคนเข้ามาชมในวันธรรมดาให้มากขึ้นกว่านี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณ ธนศักย์ อุทิศชลานนท์ (โป้ง) ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัดโทร.02-439-4600 ต่อ 8202
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--