กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--IR PLUS
“บี เตชะอุบล” ประกาศเดินหน้าไม่หยุด พร้อมผลักดัน บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS สุดตัว หลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับผู้ถือหุ้น พลิกมีกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี คุยเป็นผลมาจากการเตรียมพร้อมและวางแผนด้านการดำเนินธุรกิจมาอย่างดี ระบุพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเต็มสูบ จากฐานทุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยปัจจุบันมีแคปปิตอลฟันด์มากกว่า 2,500 ล้านบาท จากนี้ CGS จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ควบคู่กับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลประกอบการเพื่อสร้างความพอใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
นายบี เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เปิดเผยถึงผลประกอบการรอบปี 2552 ว่าพลิกมีกำไรสุทธิ 19.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.19% เมื่อเปรียบเทียบกับ ผลประกอบการในปี 2551 ที่ขาดทุนสุทธิ 317.79 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ของ CGS ที่สามารถพลิกผลประกอบการเป็นบวกได้สำเร็จและทำให้ ณ วันที่ 31ธันวาคม 2552 บริษัทมีกำไรสะสม จำนวน 192.26 ล้านบาท นอกจากนั้น ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 2.3% ในปี 2551 เป็นประมาณ 6.0% ในปี 2552 โดยติดอันดับ 1 ใน 3 ของบริษัทหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์สูงสุด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ CGS มีความพร้อมอย่างมากที่จะขยายธุรกิจเพิ่มเติมออกไป เนื่องจากมีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งมากโดยมีฐานเงินที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 2,600 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคตและผลักดันให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ และสำหรับปี 2553 บริษัทยังคงตั้งเป้า ส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ที่ประมาณ 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับประมาณ 6% และยังติดอันดับ Top 3 ต่อไป
“ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่ CGS พลิกมีกำไรได้สำเร็จในรอบหลายปีที่ผ่านมา นั่นเป็นผลมาจากการวางแผนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในช่วงที่ผ่านมา ผนวกกับความมุ่งมั่นของคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนซึ่งมีเป้าหมายที่ต้องการจะพัฒนาให้ บล.คันทรี่ กรุ๊ป มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะในด้านผลประกอบการ สำหรับปี 2553 ยังมีแนวโน้มจะขยายตัวในทิศทางที่ดีด้วย เนื่องจาก CGS มีสาขามากที่สุดถึง 50 สาขา และครอบคลุมทั่วประเทศพร้อมทั้งทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำงาน รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ดีคอยสนับสนุนให้การทำงานเป็นไปอย่างคล่องตัว และที่สำคัญคือเรามีผลิตภัณฑ์ด้านการเงินให้ลูกค้าเลือกใช้บริการได้อย่างครบวงจร”
สำหรับผลประกอบการรอบปี 2552 ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 106.19% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 340.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.21 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมจำนวน 556.73 ล้านบาท โดยเฉพาะรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 756.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343.36 ล้านบาท หรือร้อยละ 83.17 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 412.82 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจากการขยายทีมงานการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมสำหรับปี 2552 จำนวน 877.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 3.33 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.38 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ จำนวน 874.52 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2553 มีมติ ให้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 ในวันอังคารที่ 27 เมษายน 2553 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องโลตัส ชั้น LL โรงแรมโนโวเทล โลตัส เลขที่ 1 ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ และให้กำหนดวันที่กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมและออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 (Record Date) ในวันที่ 29 มีนาคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 30 มีนาคม 2553
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
IR PLUS : คุณหัสยา ศรีเฟือง (โหน่ง) Tel. 02-554-9353 E-mail : hadsaya@irplus.in.th