ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บ. มั่นคงเคหะการ” เป็น “BBB+” จาก “BBB” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 5, 2010 07:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เป็น “BBB+” จาก “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะการเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลงานที่มีมาอย่างยาวนานในตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางถึงต่ำ ความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้มาโดยตลอด และนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวัง โดยที่การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนภายในประเทศและลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่ต่ำต่อไปได้แม้ว่าในปี 2553 บริษัทจะใช้เงินทุนในการจัดหาที่ดินและพัฒนาโครงการใหม่มากขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังคาดว่าความสามารถในการทำกำไรและสภาพคล่องของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้แม้บริษัทจะเตรียมขยายโครงการเพิ่มขึ้นหลังจากเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทมั่นคงเคหะการเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่มีผลงานยาวนาน โดยก่อตั้งในปี 2516 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2533 กลุ่มตระกูลตั้งมติธรรมยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโดย ณ เดือนสิงหาคม 2552 มีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 26% บริษัทเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในระดับราคาเฉลี่ยหลังละ 3.5 ล้านบาทในปี 2552 นอกจากนี้ บริษัทยังจัดสรรที่ดินเปล่าในระดับราคาตารางวาละ 15,000-50,000 บาทด้วย รายได้ของบริษัทในช่วงปี 2550-2552 ส่วนใหญ่มาจากการขายบ้านมากกว่า 79% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากการขายที่ดินเปล่าคิดเป็นประมาณ 12% ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากความสามารถในการบริหารต้นทุนค่าก่อสร้างซึ่งทำให้บริษัทมีอัตรากำไรในระดับที่ดี ยอดขายของบริษัทมั่นคงเคหะการในปี 2551 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 2,271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จาก 2,111 ล้านบาทในปี 2550 แต่เติบโตช้าลงในปี 2552 เป็น 2,295 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1% จากปี 2551 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 9% เป็น 2,158 ล้านบาทในปี 2551 จาก 1,986 ล้านบาทในปี 2550 โดยในปี 2552 รายได้รวมของบริษัทสูงถึง 2,497 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปี 2551 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 39%-41% ในช่วงปี 2551-2552 นอกจากนี้ บริษัทยังมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว 28.1% ในปี 2551 และ 30.7% ในปี 2552 สูงขึ้นจาก 26.0% ในปี 2549 และ 23.1% ในปี 2550 เนื่องจากได้รับประโยชน์จากมาตรการด้านภาษีของรัฐบาลและบริษัทมีการบริหารต้นทุนค่าก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทถือว่าแข็งแกร่งและอยู่ในระดับที่สูงกว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ดีขึ้นและภาระหนี้ที่ลดลงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้กระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น โดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นจาก 17.9% ในปี 2550 เป็น 37.1% ในปี 2551 และปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 71.1% ในปี 2552 ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทก็ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 14.2 เท่าในปี 2552 จาก 5-6 เท่าในช่วงปี 2550-2551 นอกจากนี้ การมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ประมาณ 1,300 ล้านบาทและอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่อยู่ในระดับต่ำที่ 14.2% ณ สิ้นปี 2552 ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวในการหาแหล่งเงินทุน ทริสเรทติ้งกล่าวถึงภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในปีที่ผ่านมาว่าค่อนข้างผันผวนอันเป็นผลมาจากความไม่มีเสถียรภาพของการเมืองภายในประเทศและวิกฤติการณ์ทางการเงินทั่วโลก แม้ตลาดเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 แต่ก็ยังถือว่าชะลอตัวอยู่และถูกครอบงำโดยผู้ประกอบการรายใหญ่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลซึ่งอนุญาตให้ผู้ซื้อบ้านสามารถนำเงินซื้อบ้านในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็สิ้นสุดลงเมื่อเดือนธันวาคม 2552 ฉะนั้น ความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2553 จะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 2553 น่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2552 มากนัก บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) อันดับเครดิตองค์กร: เพิ่มเป็น BBB+ จาก BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่) บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ