กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ มีนาคมที่ผ่านมา นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิด “อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นอาคารแห่งการเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่เรียกว่าบันเทิงศึกษา เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลความรู้ทางประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมของยุคกรุงรัตนโกสินทร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครบนถนนราชดำเนินกลางอีกด้วย โดยพิธีเปิดอย่างเป็นทางการนั้น จัดขึ้น ณ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งอยู่ติดกับอาคารดังกล่าว เป็นการจำลองบรรยากาศเสมือนหนึ่งอยู่ในงานสมโภชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อครั้งในอดีต
กว่าจะมาถึงวันงานพิธีเปิดอาคารนั้น ได้มีการเตรียมงานมาอย่างยาวนาน เริ่มบูรณะอาคารตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ในวันนี้เมื่อนิทรรศการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงอยากเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าชื่นชมกับมรดกของแผ่นดินอันทรงคุณค่า ซึ่งพร้อมให้บริการกับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่วันอังคารที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป
นายจิรายุ กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์นั้น เกิดจากความตั้งใจที่ดีเพื่อสังคม เป็นการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ ถือเป็นของขวัญจากการพัฒนาพื้นที่ถนนราชดำเนิน ตามนโยบายของคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน (กบพร.) และเป็นความตั้งใจที่ดีของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเข้ามาต่อยอดการพัฒนาพื้นที่ถนนราชดำเนิน เป็นจุดต่อยอดที่เกื้อกูลประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม มีการรวบรวมผู้ทรงคุณวุฒิ มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและความเหมาะสมของเนื้อหา แต่ความรู้ไม่เคยหยุดนิ่ง ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงขอฝากไปยังผู้เข้าชมหรือสื่อมวลชนทุกท่าน หากมีความรู้ว่า ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน ขอให้ช่วยติชม เพื่อนำไปปรับปรุง ให้เยาวชนได้รับความรู้ที่ถูกต้อง โดยกลุ่มเป้าหมายของที่นี่ มีหลายกลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกคือกลุ่มเยาวชน การรวบรวมความรู้ที่มีการนำเทคโนโลยีและเทคนิคที่ทันสมัยเข้ามาให้กับเยาวชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทำให้เยาวชนเกิดความสนใจ เข้าใจได้ง่ายขึ้น เป็นการสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้กับเยาวชน กลุ่มที่สองคือครอบครัว เยาวช
นที่มากับครอบครัว จะเกิดความอบอุ่นเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว กลุ่มเป้าหมายที่สามคือชาวต่างชาติ บริเวณตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวมาเดินเยอะ ปีหนึ่งประมาณ ๔-๕ ล้านคน การที่มีศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราจะได้รับความนับถือจากชาวต่างชาติว่าเป็นชาติที่มีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ที่น่าเชิดชู และกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มของชุมชนชาวราชดำเนิน ซึ่งในอาคารนี้มีการให้บริการห้องสมุดเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ คนที่น่าจะได้ใช้ประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็นเยาวชนในชุมชนราชดำเนิน”
สำหรับในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์แห่งนี้ ถือเป็นการสะท้อนถึงเจตนารมย์และความตั้งใจในการสนับสนุนทางด้านการศึกษา และการท่องเที่ยวรวมไปถึงเยาวชน เพราะมีพื้นที่ใช้สอยให้กับเยาวชนมากขึ้น เป็นแหล่งความรู้ที่ดีที่สุด ที่จะทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองแห่งบันเทิงศึกษาหรือ Edutainment ที่มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ในรูปแบบที่สัมผัสได้จริง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บนถนนราชดำเนินกลาง ช่วยตอบโจทย์ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะชาวต่างชาติ จะรู้จักประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น
นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ ผู้อำนวยการอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ว่า “อาคารแห่งนี้ต้องการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่ดีของประเทศไว้ แต่วิธีการนำเสนอที่นี่จะใช้มัลติมีเดียเทคโนโลยีสมัยใหม่ นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีแบบนี้มาใช้ในประเทศไทย มีจอ LED SCREEN ขนาดใหญ่บริเวณพื้นที่ต้อนรับด้านล่าง และในส่วนของนิทรรศการมีการใช้เทคโนโลยีนำเสนอให้สอดคล้องกับเนื้อหา ไม่เน้นให้มายืนอ่านบอร์ดนิทรรศการ อยากให้ผู้ชมเรียนรู้ผ่านสื่อตลอดเวลาแบบไม่รู้ตัว เป็นการเปลี่ยนมุมมองการชมนิทรรศการจากรูปแบบเดิมๆ”
พื้นที่จัดแสดงภายในอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ แบ่งเป็น ๓ ชั้น ประกอบไปด้วย
๑. ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ ร่วมย้อนกลับไปสู่เมื่อครั้งแรกเริ่มสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยสื่อผสม ๔ มิติ ตื่นตาตื่นใจทั้งภาพ เสียง กลิ่น และสัมผัส
๒. ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม ชื่นชมความงดงามของหุ่นจำลองพระบรมมหาราชวังที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย ครั้งแรกที่จะได้ชมพระแก้วมรกตในเครื่องทรงครบทั้ง ๓ ฤดูในคราวเดียว ลัดเลาะประตูย่ำค่ำเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งถือเป็นโอกาสเดียวที่ผู้ชายมีสิทธิ์เข้าชมเขตพระราชฐานชั้นในได้อย่างใกล้ชิดที่นี่
๓. ห้องเรืองนามมหรสพศิลป์ ย้อนยุคไปชมบรรยากาศมหรสพสมโภช เสมือนได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองเมื่อ ๒๐๐ กว่าปีก่อนในมุมมอง ๓๖๐ องศา เรียนรู้ภาษาท่าทางโขน และทดลองเชิดหุ่นกระบอก
๔. ห้องลือระบิลพระราชพิธี ชมความงดงามตระการตาของเรือพระที่นั่งในรูปแบบ เมจิก วิชั่น (Magic Vision)
๕. ห้องสง่าศรีสถาปัตยกรรม ชื่นชมรูปแบบสถาปัตยกรรมของไทย ทั้ง วัง วัด บ้าน และร่วมสนุกกับการขี่ม้าชมเมือง พายเรือชมสวน ขับรถชมบ้านเรือนกรุงเก่า ในแบบนิทรรศน์รัตนโกสินทร์
๖. ห้องดื่มด่ำย่านชุมชน ชื่นชมผลงานการรังสรรค์จากชุมชนต่างๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งบางชิ้นหาชมได้ยากในปัจจุบัน ผ่านเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟ อันทันสมัย
๗. ห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง ประสบการณ์ใหม่ที่คุณจะได้เข้าไปเป็นตัวละครหลัก ในภาพยนตร์แอนนิเมชั่น โลดแล่นท่องเที่ยวไปทั่วกรุง
“จุดเด่นของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ที่แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ มี ๓ ประเด็นด้วยกัน นั่นคือ หนึ่งถือเป็นไนท์มิวเซียมแห่งแรกของเมืองไทย เพราะเปิดให้บริการถึง ๒ ทุ่มเนื่องจากต้องการให้คนที่เลิกงาน หรือเลิกเรียนได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมอาคารในช่วงค่ำๆ ไม่จำเป็นต้องรอมาเที่ยวเฉพาะวันหยุด นักเรียนนักศึกษา เลิกเรียนแล้วก็เข้ามาค้นคว้าหาความรู้ที่นี่ได้ สองนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ถูกสร้างมาให้เป็นอาคารแห่งการเรียนรู้ในลักษณะ Revisit นั่นคือมาเที่ยวแล้วมาเที่ยวอีกได้ ทุกครั้งที่มาเที่ยวที่นี่ จะรู้สึกเสมือนว่า มาเที่ยวที่ใหม่อยู่เสมอ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมนิทรรศการหมุนเวียนทั้งภายในและภายนอกอาคารอยู่เสมอๆ ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตและก็ไม่หยุดนิ่ง สามที่นี่มีแผนการตลาด ที่เรียกว่า Proactive คือ ไม่นั่งรอผู้มาเยี่ยมชมเท่านั้น แต่จะเข้าไปหากลุ่มเป้าหมายเชิญชวนให้มาเยี่ยมชมที่นี่ อย่างเช่นการไปประชาสัมพันธ์ตามโรงเรียนต่างๆ เชิญชวนให้นักเรียนนักศึกษามาทำกิจกรรมที่นี่ เป็นต้น” นายอุปถัมป์ชี้แจงเพิ่มเติม
อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินกลาง ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ โดยในวันอังคารถึงวันศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐-๒๐.๐๐ น. ส่วนวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้บริการตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐-๒๐.๐๐ น. อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ ทั้งคนไทยและต่างชาติ คนละ ๒๐๐ บาท เด็กคนละ ๕๐ บาท ส่วนนักเรียนและนักศึกษาในเครื่องแบบหรือแสดงบัตรนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์และสามเณร ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เข้าชมฟรี ทั้งนี้ในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ ตั้งแต่วันอังคารที่ ๙ มีนาคมถึงวันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ อัตราค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ทั้งคนไทยและต่างชาติ เหลือเพียง คนละ ๑๐๐ บาท ส่วนเด็กลดเหลือคนละ ๓๐ บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมี ห้องสมุดนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งอยู่บริเวณชั้นลอยของอาคาร จะเป็นศูนย์รวบรวมหนังสือหายาก หนังสือทรงคุณค่า ตลอดจนสื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกรุงรัตนโกสินทร์ในทุกด้าน ผู้สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก เสียค่าบริการรายปี ปีละ ๑๐๐ บาท สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก เสียค่าบริการวันละ ๒๐ บาท ส่วนนักเรียนและนักศึกษาในเครื่องแบบหรือแสดงบัตรนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์และสามเณร ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ใช้บริการได้ฟรี หรือเข้าชมข้อมูลบริการและกิจกรรมต่างๆ ได้ ทาง www.nitasrattanakosin.com
อาจกล่าวได้ว่า อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับกลุ่มเยาวชนไทยได้ศึกษาถึงรากเหง้าของความเป็นไทย เพื่อปลูกฝังและสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้กับเด็กและเยาวชน โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มเด็กและเยาวชนเข้าชมฟรีหรือสถาบันการศึกษาแห่งใด สนใจจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ก็สามารถติดต่อขอทำกิจกรรมยังพื้นที่อาคารแห่งนี้ได้ ที่เบอร์โทรศัพท์ ๐๒ ๖๒๑ ๐๐๔๔ หรือโทรสาร ๐๒ ๖๒๑ ๐๐๔๓ ซึ่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่นี่ จะทำให้เยาวชนสนุกสนานและตื่นเต้นไปกับการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ขณะเดียวกันก็ดื่มด่ำไปกับความวิจิตรตระการตาของศิลปะและวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า สมดั่งคำกล่าวที่ว่า นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ คุณค่าแห่งยุคสมัย สัมผัสได้ในหนึ่งวัน
โดย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
โทรสาร 02 801 1702 หรือ 02 575 2418 Email : Rattanahall@gmail.com