กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่
นายเสน่ห์ กรรณสูตร ผู้เลี้ยงไก่ไข่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาไข่ไก่ในขณะนี้ยังคงตกลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นตลอดเวลา เช่น ข้าวโพดที่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 7 บาท ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ไก่เสียหาย เกิดเป็นต้นทุนการเลี้ยงของเกษตรกรอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ลำพังต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ก็บอบช้ำแล้ว แต่ขณะนี้ยังถูกซ้ำเติมด้วยอัตราบริโภคที่ลดลง ทั้งจากการปิดเทอมของนักเรียนและสถานการณ์การเมือง ก่อให้เกิดสต๊อกไข่ไก่สะสมในระบบเป็นจำนวนมาก ราคาไข่ไก่จึงตกต่ำลงไม่หยุด ทำให้เกษตรกรอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ใครที่สายป่านยาวอาจยืดอายุฟาร์มของตนเองต่อไปได้อีกสักระยะ แต่รายย่อยที่ทุนน้อยอาจต้องเลิกกิจการไป”
นายเสน่ห์กล่าวอีกว่า ความร่วมมือในกลุ่มเกษตรกรด้วยกันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยกันลดปริมาณผลผลิตในช่วงนี้ ซึ่งน่าจะช่วยดึงเสถียรภาพราคาไข่ไก่ได้บ้าง โดยได้ขอวอนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกคนเสียสละเพื่อส่วนรวม ด้วยการปลดแม่ไก่ยืนกรงลงก่อนกำหนด 72 สัปดาห์อย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ระดับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มในสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 2.50 บาท แต่ ณ ปัจจุบัน ตกลงมาอย่างมากอยู่ที่ฟองละ 2.30 บาท และมีแนวโน้มตกต่ำลงอีก หากเกษตรกรทั้งหมดไม่ร่วมมือกันควบคุมปริมาณผลผลิต
อนึ่ง มาตรการปลดแม่ไก่ยืนกรงนี้ เป็นมาตรการระยะสั้นในการช่วยเหลือตนเองของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่เห็นผลเร็วที่สุด นับเป็นความพยายามในการแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด ก่อนที่จะเรียกร้องความช่วยเหลือจากภาครัฐ