กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
วันนี้ อินเทลได้มีการเปิดตัวโปรเซสเซอร์แบบดูอัลคอร์ในตระกูล อินเทล? ซีออน? โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ 5100 ซึ่งเดิมใช้ชื่อรหัสว่า “Woodcrest” โปรเซสเซอร์ซีรี่ส์นี้ออกแบบมาเพื่อรองรับตลาดระดับสูงทั้งในกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ เวิร์กสเตชั่น ระบบการสื่อสาร การจัดเก็บข้อมูล และตลาดกลุ่ม embedded โปรเซสเซอร์ดังกล่าวนี้พัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรมย่อย อินเทล? คอร์? ที่พลิกโฉมหน้าของวงการโปรเซสเซอร์ครั้งใหม่ ผสานกับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่เหนือชั้นด้วยสมรรถนะ ระบบประหยัดพลังงาน และความคุ้มค่า1 โดยขณะนี้ได้เริ่มมีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อการออกแบบเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชั่นรวมแล้วกว่า 200 รุ่นจากผู้ผลิตกว่า 150 ราย แล้ว
แพท เกลซิงเกอร์ รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มดิจิตอลเอ็นเตอร์ไพรซ์ของอินเทล กล่าวว่า “สถาปัตยกรรมย่อย อินเทล? คอร์? เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพอันน่าทึ่งนี้ และยังเป็นตัวผลักดันเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีสมรรถนะการทำงานของดูอัลคอร์ 64 บิตในระดับที่น่าตื่นตาตื่นใจ”
โปรเซสเซอร์ดูอัลคอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่นี้ นับเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นแรกที่ใช้สถาปัตยกรรมย่อย อินเทล คอร์ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่โดดเด่นด้านการประหยัดพลังงานโดยเฉพาะ รวมทั้งยังรวมเอานวัตกรรมที่โดดเด่นอีกหลายตัวเข้าไว้ด้วยกันเพื่อสมรรถนะที่เพิ่มสูงขึ้น
อินเทล? ซีออน? โปรเซสเซอร์ แบบดูอัลคอร์ ซีรี่ส์ 5100 ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 1352 รวมทั้งยังลดการใช้พลังงานลงจากเดิมสูงสุดถึงร้อยละ 403 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ของอินเทลในรุ่นก่อน และให้ผลเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทดสอบจากแอพพิลเคชั่นที่ใช้งานจริงและโปรแกรมทดสอบที่เป็นที่ยอมรับในตลาดหลายสิบตัวในปัจจุบันอีกด้วย1 การผสานกันระหว่างประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะการทำงานที่เหนือชั้นทำให้ผู้ผลิตเครื่องนำความสามารถด้านการประมวลผลเหล่านี้มาใช้ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้ข้อจำกัดด้านขนาดและพื้นที่ภายในของเครื่องที่ต้องการให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้เอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์การสื่อสาร การเก็บสำรองข้อมูล และแอพพลิเคชั่นแบบ embedded
และด้วยความสามารถในกระบวนการผลิตชั้นนำระดับโลกจากอินเทลรวมถึงความเป็นผู้นำในด้านกระบวนการผลิตขนาด 65 นาโนเมตร ยังช่วยให้สามารถลดขนาดทรานซิสเตอร์และการสิ้นเปลืองพลังงานลงได้มากแต่กลับเพิ่มความเร็วในการทำงานให้สูงขึ้น โดยที่โปรเซสเซอร์ซีรี่ส์ 5100 นั้นยังสามารถทำงานเป็นส่วนหนึ่งของแพล็ตฟอร์ม “Bensley” ของอินเทล อีกทั้งยังรองรับกับการใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ในหลากหลายระดับได้อีกด้วย ซึ่งแพล็ตฟอร์ม Bensley นั้นมีเทคโนโลยีระดับเซิร์ฟเวอร์ล่าสุดออกมาใช้งานรวมไปถึงการใช้หน่วยความจำที่เร็วกว่าและมีเสถียรภาพมากกว่าในรูปแบบของ FB-DIMMs, Intel Virtualization Technology, Intel Active Server Manager และ Intel I/O Acceleration Technology อีกด้วย
ขณะนี้ บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำชั้นนำหลักเกือบทุกบริษัทได้นำ FB-DIMMs ออกสู่ตลาดทั่วโลกแล้ว โดยมีราคาในระดับที่ทัดเทียมกับหน่วยความจำ DIMMs ที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งทั้งอินเทลและบริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำได้ร่วมมือกันในโครงการต่างๆ เพื่อนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งาน
อินเทลเตรียมส่ง อินเทล? ซีออน? โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ 5100 ที่มีความเร็วระดับต่างๆ ไปจนถึง 3.0 กิกะเฮิร์ตซ์ ระบบฟรอนท์ไซด์บัสความเร็วสูงกว่า 1333 เมกะเฮิร์ตซ์ และมีแคช L2 แบบใช้ร่วมกันหรือสภาพแวดล้อมหน่วยความจำระหว่างคอร์ทั้งสองขนาด 4 เมกะไบต์มาให้ภายใน สำหรับในรุ่นที่มีความเร็ว 3 GHz นั้นจะมาพร้อมกับ Thermal Design Point (TDP) ขนาด 80 วัตต์ ขณะที่รุ่นอื่นๆ นั้นจะอยู่แค่เพียง 65 วัตต์เท่านั้น และแม้แต่ในเวอร์ชั่นที่ใช้แรงดันต่ำกว่าซึ่งมีแผนจะออกสู่ตลาดในอนาคตที่ความเร็ว 2.33 GHz ก็ยังมาพร้อมกับ TDP ที่ 40 วัตต์เช่นกัน Woodcrest ประกอบด้วยคุณสมบัติทางเทคนิคที่ทำให้มีสมรรถนะด้านการจัดการพลังงานในระดับสูงสุด ซึ่งช่วยให้การใช้พลังงานทั้งแพลตฟอร์มลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ระบบที่ใช้แพลตฟอร์ม Bensley ยังมีสมรรถนะที่ล้ำหน้าในด้านการใช้พลังงานอีกด้วย
โปรเซสเซอร์ตัวแรกที่ใช้ สถาปัตยกรรมย่อย อินเทล? คอร์? สถาปัตยกรรมย่อยตัวนี้จะทำให้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ๆ มีสมรรถนะสูง และยังเป็นฐานรากสำหรับผลิตภัณฑ์โมบายล์และเดสก์ท้อปรุ่นใหม่ๆ ของอินเทลที่จะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า อินเทล? คอร์? 2 ดูโอ
บางส่วนจากการนวัตกรรมหลายๆ ด้านที่ออกแบบมาสำหรับสถาปัตยกรรมแบบมัลติคอร์นี้ยังรวมไปถึง Intel? Wide Dynamic Execution ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งชุดคำสั่งต่อรอบได้มากขึ้น ทุกๆ คอร์ที่ประมวลผลยังมีขนาดกว้างขึ้น ช่วยให้แต่ละคอร์สามารถประมวลผลได้สูงสุดเต็ม 4 ชุดคำสั่งพร้อมกันโดยการใช้ pipeline แบบ 14 ระดับที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งผ่านข้อมูลและแน่นอนว่าผลที่ได้คือประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
นอกจากนี้แล้วโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ยังมี Intel? Advanced Smart Cache ที่ช่วยให้หนึ่งในสองหน่วยประมวลผล หรือคอร์สามารถใช้สภาพแวดล้อมหน่วยความจำได้ทั้งหมดในเวลาที่จำเป็น ในขณะที่อีกคอร์หนึ่งนั้นว่างจากการทำงาน และด้วย Intel? Smart Memory Access ยังสามารถลดลาเทนซีและคอขวดของหน่วยความจำได้อีกด้วย
เมื่อรวมประสิทธิภาพทั้งหมดแล้ว เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้โปรเซสเซอร์จากอินเทลสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแน่นอนว่าจะสัมพันธ์กับราคาและพื้นที่ รวมถึงระบบลดความร้อนและระบบไฟฟ้าที่ต้องการภายในห้องเซิร์ฟเวอร์สำหรับผู้ดูแลระบบไอที ในขณะที่ยังช่วยเพิ่มอัพไทม์ ความสามารถและ การตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
อินเทลคาดว่า เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของอินเทล โดยที่ราคาจำหน่ายของโปรเซสเซอร์ซีรี่ส์ 5100 เมื่อซื้อในปริมาณ 1,000 ตัว จะมีระดับราคาตั้งแต่ 209 เหรียญจนถึง 851 เหรียญขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละรุ่น ทั้งนี้ อินเทลจะให้บริการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในระยะ 5-7 ปีสำหรับลูกค้าในกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์สำรองข้อมูลและกลุ่ม embedded
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมซิลิกอน อินเทลได้พัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และริเริ่มสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงานและการดำรงชีวิตของผู้คน ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
ติดต่อ:
คุณนฑาห์ บุญประสิทธิ์ คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 648-6022 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail: natha.boonprasit@intel.com e-Mail: kanpirom.ungpakorn@carlbyoir.com.hk