กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
รวมพลช่างภาพครั้งยิ่งใหญ่ ในหนังสือภาพถ่าย “Thailand : 9 Days in the Kingdom” เพื่อเฉลิมฉลอง ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระชนมายุ ครบ 80 พรรษา
สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ประธานโครงการจัดทำหนังสือภาพถ่าย “ไทยแลนด์ ไนน์ เดย์ อิน เดอะ คิงดอม” (Thailand : 9 Days in the Kingdom) จัดงานแถลงข่าวการเตรียมจัดทำหนังสือดังกล่าว ซึ่งเป็นหนังสือภาพถ่าย แง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศไทย ที่รังสรรค์จากฝีมือของช่างภาพระดับแนวหน้าทั้งในและต่างประเทศรวม 50 ชีวิตเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา ในปี 2550 ณ ห้องศาลาแดง โรงแรมดุสิตธานี โดยได้รับการสนับสนุนจาก การบินไทย, โรงแรมดุสิตธานี, ธนาคารไทยพาณิชย์, โอสถสภา และสปา แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง รายได้จากการจำหน่าย จำนวน 9,000,000 บาท จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย ซึ่งหนังสือจะวางจำหน่ายในปลายเดือนพฤศจิกายน 2550
หลายคนคงยังจำกันได้ว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว มีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญเกิดขึ้น การรวมพลของเหล่าช่างภาพ ฝีมือระดับแนวหน้า ที่มาร่วมรังสรรค์หนังสือภาพถ่าย Thailand : 7 Days in the Kingdom เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา ซึ่งหนังสือนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก และถูกตีพิมพ์มากกว่า 100,000 เล่มทั่วโลก และนำไปแปลเป็นภาษาอื่น ๆ อีก 4 ภาษาได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งในปี 2550 เหตุการณ์นั้นก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ในฐานะประธานโครงการจัดทำหนังสือภาพถ่ายฯ กล่าวว่า “ไทยแลนด์ ไนน์ เดย์ อิน เดอะ คิงดอม” (Thailand : 9 Days in the Kingdom) เป็นความตั้งใจที่เราจะจัดทำขึ้นเพื่อให้เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับสะสมไว้เป็นที่ระลึกอันล้ำค่า เป็นหนังสือภาพที่สวยงาม หรูหรา เหมาะสำหรับเป็น coffee table book” และในวาระพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา และเพื่อเผยแพร่ประเทศไทยให้ทั่วโลกรู้จักในรูปแบบใหม่ ที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่ รวม 50 ช่างภาพชั้นนำของไทยและต่างประเทศ อาทิ สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์, ไกรพิทย์ พันธุ์วุฒิ, ณัฐ ประกอบสันติสุข, นัท สุมนเตมีย์, มานิตย์ ศรีวานิชภูมิ, Robert Mcleod, Bruno Barbey (ช่างภาพข่าวในสงครามเวียดนาม สำนักพิมพ์ Magnum), Michael Freeman (ช่างภาพชื่อดังชาวอังกฤษ: ผู้ถ่ายภาพหนังสือนครวัด และ Palaces of The God), Luca Invernizzi-Tettoni (ช่างภาพชื่อดังชาวอิตาเลียนด้าน Art & Culture), Mike Yamashita (ช่างภาพจาก National Geographic) มาร่วมโชว์ฝีมือ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริม และกระตุ้นการท่องเที่ยวสำหรับนักเดินทางทั่วโลก ที่จะมาเยือนประเทศไทย”
“ไทยแลนด์ ไนน์ เดย์ อิน เดอะ คิงดอม” จะถูกนำเสนอในคอนเซ็ปต์ วิชัวร์ ไทม์ แคปซูล (visual time capsule) รวมหลากหลายเรื่องราวของประเทศไทย ที่ได้คัดเลือกมุมสวย ๆ ผ่านจอเลนส์ของช่างภาพ อาทิ ศิลปวัฒนธรรมไทย, วิถีชีวิต ความเป็นอยู่, การค้า และการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นต้น กว่า 150,000 ภาพแล้วนำไปคัดสรรภาพเพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพ สะท้อนให้เห็นประเทศในทุกแง่มุมที่ดี พร้อมเนื้อหาที่บันทึกเรื่องราวความสำคัญ ที่เกิดขึ้นใน รัชสมัยของพระองค์ท่าน หนังสือเล่มนี้ นอกจากจะมีรูปภาพสวยที่มีผลดีมากกว่าการใช้คำบรรยาย ซึ่งภาพจะมีส่วนช่วยทำให้ติดตา ตรึงใจ มีคำบรรยายภาพที่ได้ใจความเติมเต็มรูปภาพ ให้ได้อรรถรสจากการทำงานของช่างภาพและสไตล์ลิส ทำให้มีรายละเอียดเนื้อหาอย่างถ่องแท้ สะท้อนให้เห็นภาพลักษณ์ของเมืองไทยที่ทั่วโลกจะได้รู้จักมากยิ่งขึ้น
ไกรพิทย์ พันธุ์วุฒิ หัวหน้าช่างภาพที่ร่วมงานในครั้งนี้ กล่าวถึงการทำงาน ของเหล่าช่างภาพว่า ”การถ่ายภาพจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 9 วันทั่วไทยในเดือนมกราคม 2550 ประกอบด้วยช่างภาพทั้งหมด 50 คน มีทั้งที่เคยร่วมงานกันมาในเล่มแรก และช่างภาพหน้าใหม่ เพื่อเป็นการเปิดมุมมองให้ได้อะไรที่แปลกใหม่ จะมีทั้งช่างภาพชายหญิงมาร่วมงานครั้งนี้ และความพิเศษอีกอย่างคือ ช่างภาพทุกคนจะมีผลงานของตนเองได้เลือกลงคนละ 1 รูปนอกจากรูปที่ได้คัดเลือกไปแล้ว ส่วนในด้านของกระบวนการทำงานจะมีการแบ่งการถ่ายภาพออกเป็นหมวดต่าง ๆ ตามความชำนาญของช่างภาพแต่ละคน และอุปกรณ์ที่ใช้ก็จะมีทั้งกล้องดิจิตอล และแบบฟิล์มตามความต้องการของแต่ละคน โดยการเลือกถ่ายภาพนั้น จะไม่มีการจำกัด ขอบเขตของเนื้อหา แต่เวลาคัดเลือกจะดูที่ความเหมาะสม สำหรับตัวเองนั้นเลือกที่จะไปถ่ายภาพทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง เพราะที่นั่น ศิลปะ วัฒนธรรม ผู้คน ความเป็นอยู่ ดูสวยงามกว่าที่อื่น ส่วนทางภาคใต้จะใช้ช่างภาพชาวมาเลเซีย ที่เป็นมุสลิม เพราะเขาจะสื่อสาร ใช้ภาษากันรู้เรื่องได้ดี ผมมองว่าสิ่งที่ช่างภาพทุกคนรู้สึกในขณะนี้คือ ความภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่ง ในการจัดทำหนังสือเล่มนี้”
นอกจากนี้ นัท สุมนเตมีย์ ช่างภาพใต้น้ำฝีมืออันดับหนึ่ง ที่ได้รับการคัดเลือกมาร่วมทำงานในครั้งนี้ เผยความรู้สึกว่า “ตอบตกลงมาร่วมงาน โดยไม่คิดมากเลย เพราะสมัยที่เป็นเด็ก ก็เคยเห็นหนังสือ Thailand : 7 Days in the Kingdom แล้วฝันไว้ว่า สักวันหนึ่งอยากจะได้ทำงานร่วม และครั้งนี้โอกาสนั้นก็เป็นของผม ซึ่งผมก็จะเลือกถ่ายภาพในมุมที่ผมถนัด ก็คือภาพโลกใต้น้ำ ชีวิตสรรพสัตว์ ธรรมชาติความงามของท้องทะเลไทย ในอันดามัน ซึ่งการถ่ายภาพแนวเดิมมาตลอด ไม่เรียกว่ารัก ก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรแล้ว และด้วยเป็นปีที่ในหลวงของเราอายุครบ 80 ปี ก็อยากจะถ่ายภาพให้สื่อถึงท่าน นั่นคือ ความงามของแผ่นดินไทย ที่ท่านปลูกฝังให้พวกเรารักและหวงแหน ทรัพยากรธรรมชาติ”
หนังสือภาพ ไทยแลนด์ ไนน์ เดย์ อิน เดอะ คิงดอม มีขนาด 255X355 มม.ใช้กระดาษอย่างดีและพิมพ์ด้วยสีคุณภาพ จำนวน 256 หน้า หุ้มด้วยปกแข็ง ตกแต่งอย่างสวยงาม ทั้งยังจะมีการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ อาทิ อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และอิตาลี เป็นหนังสือภาพที่เหมาะสำหรับนักสะสม และผู้ที่ชื่นชอบการภาพถ่าย วางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วโลก ในราคาเล่มละ 1,750 บาท พร้อมวางจำหน่ายปลายเดือนพฤศจิกายน 2550 จึงถือได้ว่า หนังสือภาพ ไทยแลนด์ ไนน์ เดย์ อิน เดอะ คิงดอม ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ควรจะมีไว้เป็นเจ้าของ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. 0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net