กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค
เดินหน้า ผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยให้สอดรับกับการใช้ชีวิตในโครงการ เอสซี แอสเสท
“ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ” โชว์วิสัยทัศน์ความเป็นมืออาชีพทางธุรกิจ คุมพอร์ตอสังหาฯ เอสซี แอสเสท มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Convergence” เสริมทัพธุรกิจ เน้นผสมผสานความทันสมัย ของไอทีเข้ากับที่อยู่อาศัย พร้อมนำ CRM มาสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้สอดรับพฤติกรรม ผู้บริโภคให้มากขึ้น เพื่อตอกย้ำภาพผู้นำบ้านนวัตกรรม i-home ต่อเนื่อง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงทิศทางและแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่ายังคงให้ความสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทอย่างมีเสถียรภาพ จากปัจจุบันที่ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวบางกอก บูเลอวาร์ด,โครงการคอนโดมิเนียมเซ็นทริค ซีน และ โครงการทาวน์โฮมวิสต้า ปาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ในหลายๆ ทำเล โดยรูปแบบและการพัฒนายังคงมุ่งเน้นการผนวกนวัตกรรมของเทคโนโลยีหลากหลายเข้าไว้ในโครงการภายใต้แนวคิด “ i-home ” อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังพร้อมเติมรายละเอียดอื่นๆ ด้วยการนำกลยุทธ์ “Convergence” เพื่อผสมผสานความทันสมัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้รวมเข้ากับรายละเอียดต่างๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดพลังงาน การออกแบบ และความปลอดภัย พร้อมทั้งการนำ CRM เข้ามาใช้มากขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่าง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยในโครงการของเอสซี แอสเสท นอกจากนี้ยังมีแผนงานที่จะร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ ในการนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า อาทิ ด้านการเงิน ด้านการตกแต่ง ด้านงานก่อสร้าง และระบบอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน เป็นต้น
”การเข้ามาบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเอสซี แอสเสท ครั้งนี้พร้อมที่จะนำจุดแข็งจากประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจด้านไอที-เทเลคอมเข้ามาเสริม และปรับใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของเอสซี แอสเสท ให้มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น นับจากนี้ไปภาพลักษณ์บ้านของเอสซี จะมีการเติมเต็มความต้องการของผู้พักอาศัยที่ชัดเจนมากขึ้น การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยให้เข้ากับที่อยู่อาศัยและบริการ จะสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างลงตัว โดยมีโจทก์หลักของการพัฒนาโครงการอยู่ที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น” นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว
สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การเมือง ผลกระทบจากภาวะน้ำมันขึ้นราคา การปรับราคาขึ้นของวัสดุก่อสร้าง และการปรับของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจในการซื้อที่อยู่อาศัย และส่งผลให้การขยายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมลดลงบ้าง แต่ก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นและปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยภาพรวมก็ได้มีการปรับตัวอย่างเหมาะสม และสามารถคาดการณ์ได้ถึงทิศทางที่ชัดเจนมากกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ต่าง ๆที่มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯนั้น แผนการดำเนินงานยังเป็นไปในทางเดียวกับเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยยังคงให้ความสำคัญต่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ โดยมีรายได้ที่เติบโตจากทั้งธุรกิจที่อยู่อาศัย และรายได้จากอาคารสำนักงานให้เช่า และบริษัทฯยังพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อสร้างความแตกต่างและจุดขายที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งโครงการ ที่สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายเส้นทางคมนาคมที่สำคัญๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ต่อเนื่องไปถึงมูลค่าเพิ่มของการเข้ามาใช้ชีวิตในโครงการที่เอสซีฯ ได้พัฒนาขึ้นภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วย
ส่วนแผนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ จะมีการกระจายออกไปในหลายๆทำเล โดยจะเน้นพัฒนาโครงการประเภทแนวราบมากยิ่งขึ้น สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาในขณะนี้ ประกอบด้วย 3 แบรนด์หลัก ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮ้าส์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 6 โครงการ ได้แก่
1) โครงการบ้านเดี่ยว ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ บางกอก บูเลอวาร์ด ” ได้แก่ 1.โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-วงแหวน-นวมินทร์ บนเนื้อที่ 74 ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา ระดับราคา 6.7 — 14.5 ล้านบาท จำนวน 223 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท 2.โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด พระราม 5 บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น โคโลเนียล จำนวน 242 ยูนิต ขนาด 52-140 ตรว. ระดับราคา 4.9 - 12 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,630 ล้านบาท และ 3.โครงการบางกอก บูเลอวาร์ดแจ้งวัฒนะ บนเนื้อที่ 31-0-98.3 ไร่ ระดับราคา 5.79 - 12 ล้านบาท จำนวน 116 ยูนิต มูลค่าโครงการ 840 ล้านบาท
2) โครงการทาวน์โฮม ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ Vista Park ” ได้แก่ 1.โครงการวิสต้า ปาร์ค วัชรพล ทาวน์โฮมหรู 3 ชั้น บนเนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน ระดับราคา 2.7 — 3.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 380 ล้านบาท และ 2.โครงการ วิสต้า ปาร์ค วิภาวดี ทาวน์โฮมหรู บนเนื้อที่ 23 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา ระดับราคา 4.23 — 6.97 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 880 ล้านบาท
3) โครงการอาคารชุดพักอาศัย ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ Centric Scene ” ได้แก่ โครงการเซ็นทริค ซีน พหลโยธิน ซอย 9 คอนโดระดับหรูย่านใจกลางเมือง เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา สูง 24 ชั้น จำนวน 206 ยูนิต ขนาด 45-114 ตรม. ราคาเริ่มต้น 2. 56 — 7.15 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 731 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อคุณภัทธิรา บุรี ,คุณอุทัยวรรณ ชูชื่น
บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์
โทร.0-2937-4518-9 โทรสาร. 0-2937-4596
Email : patthira@pr-one , utaiwan@pr-one.com