กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--124 คอมมูนิเคชั่น
นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ผู้ประกอบการธุรกิจด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบเปิดชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2549 ได้มีมติให้บริษัททำการเพิ่มทุน เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ในการขยายโครงการพัทยา และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2550-2551 ซึ่งคาดว่าการขยายโครงการดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทมีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นถึง 50,000 ตร.ม.ต่อปี และมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาทต่อปี
สำหรับรายละเอียดของการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทจะทำการเพิ่มทุนจำนวน 424.14 ล้านบาท โดยขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 84.82 ล้านหุ้นในราคา 5 บาท ซึ่งจะทำการจัดสรรหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ กำหนดการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและชำระเงินค่าหุ้นในวันที่ 7-11 ส.ค. 2549
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 23 มิ.ย. 2549 โดยจะมีการจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 ก.ค. 2549 และทำการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในวันที่ 25 ก.ค. 2549
“บริษัทเชื่อมั่นว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และทำกำไรให้กับบริษัทมากขึ้น เนื่องจากเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำมาเพื่อลงทุนในโครงการใหม่ โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในโครงการ The Avenue Pattaya ซึ่งจะเป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ กลางเมืองพัทยาบนถนนสาย 2 ซึ่งจะประกอบด้วยบูติกโฮเต็ล โรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่งขนาด 24 เลน ฟิตเนส วิลล่ามาร์เก็ต และร้านค้าชื่อดังอื่น ๆ อีกมากมาย “นายสมนึก กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ จะทำการเปิดศูนย์การค้าอีกไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง ประกอบด้วย The Avenue แจ้งวัฒนะ โครงการ ลา วิลล่า พหลโยธิน และ Esplanade รัชดาภิเษก ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการศูนย์ทั้ง 3 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทำให้บริษัทมีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารรวม 27 แห่ง คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 185,000 ตร.ม. และเมื่อรวมโครงการ The Avenue Pattaya แล้ว บริษัทจะมีศูนย์การค้ารวม 28 แห่ง พื้นที่เช่า รวม 207,000 ตร.ม
นายสมนึก กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งเป็นปีแรกที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารจำนวน 14 แห่ง คิดเป็นพื้นที่เช่า 27,000 ตร.ม. และในปี 2548 ศูนย์การค้าภายใต้การบริหารมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 24 แห่ง คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 96,800 ตร.ม. หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 260% และคาดว่าเมื่อสิ้นสุดปี 2549 บริษัทจะมีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารรวม 27 แห่ง คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 185,000 ตร.ม. เติบโตขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 91%
ขณะเดียวกันผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1 ปี 2549 บริษัทมีรายได้รวม 204.73 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 132.44 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 183% และมีกำไรสุทธิ 69.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.26 ล้านบาท หรือ 1170% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
“ที่ผ่านมา SF ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า บริษัท ได้ทุ่มเทกับการทำงาน และสามารถทำได้เกินกว่าที่คาดหวัง ศูนย์ฯ ที่เปิดไปก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Lifestyle Center กลางใจเมืองอย่างที่เรามีที่ ทองหล่อถึง 2 ศูนย์ คือ มาร์เก็ตเพลส ทองหล่อ, เจ อเวนิว ทองหล่อ หรือ พาวเวอร์เซ็นเตอร์ เอกมัย ที่มีผู้เช่ารายใหญ่อย่าง Big C และ Index Living Mall แม้แต่ศูนย์ฯ ที่อยู่รอบนอกเมืองซึ่งเป็นแหล่งชุมชนใหญ่อย่างเพชรเกษม ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ทำให้พื้นที่เช่าในศูนย์การค้าเปิดใหม่ของเรามีผู้เช่าให้ความสนใจเป็นอย่างสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ มีอัตราเช่าเต็ม 100% โดยผู้เช่าล้วนเป็นร้านที่เป็นที่นิยม หรือมีความน่าสนใจมาก เพราะเราสามารถเลือกผู้เช่าที่มีคุณภาพและเหมาะสมต่อลักษณะของแต่ละศูนย์ฯ ได้เป็นอย่างดี”นายสมนึก กล่าว
เกี่ยวกับสยามฟิวเจอร์
บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพื่อดำเนินงานด้านพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบเปิด (Open-Air Shopping Center) ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ฯ หลายรูปแบบ อาทิ ศูนย์การค้าชุมชน (Neighborhood Shopping Center) จำนวน 8 แห่ง คือที่บางบอน ประชาอุทิศ สุขาภิบาล 3 สุขุมวิท71 (คลองตัน) ทองหล่อ ทุ่งมหาเมฆ แจ้งวัฒนะ และ ปิยรมณ์ เพลส สุขุมวิท ศูนย์สะดวกซื้อ (Convenience Center) 4 แห่ง ที่รามอินทรา กม. 2 วังหิน ลาดพร้าว 120 และ ตลาดวังหิน ร้านค้าปลีก (Stand-alone Retail Store) 8 แห่ง ที่ รัชดา-ห้วยขวาง รัชดา-พระราม 3 สาทร พัฒนาการ ท่าพระ บางแค เหม่งจ๋าย และพหลโยธิน กม. 27 ศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ย่านชานเมือง (Urban Entertainment Center) 1 แห่ง ที่ เอสเอฟ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ฉะเชิงเทรา ศูนย์รวมสินค้าเฉพาะอย่าง (Power Center) 2 แห่งที่ เพชรเกษม พาวเวอร์เซ็นเตอร์ และ เอกมัย พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (Lifestyle and Entertainment Center) 4 แห่ง คือ เจ อเวนิวทองหล่อ 15 และที่จะเปิดภายในปีนี้คือ ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ, ลา วิลล่า พหลโยธิน, และเอสพลานาดรัชดาภิเษก