กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--คอร์ แอนด์ พีค
แซส ผู้นำด้านบิสซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์ แถลงทิศทางธุรกิจปี 2549 บุกตลาดครอบคลุมทุกพื้นที่ต่อยอดธุรกิจในไทย ส่วนผลประกอบการทั่วโลก มีรายได้พุ่งทะลุเป้า
แซส ประกาศขยายตลาดบิสซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์ปี 2549 หลังประสบความสำเร็จมีอัตราการ เติบโตแบบก้าวกระโดดในไทย โดยเติบโตเป็นอันดับสามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากจีนและอินเดีย เผยเตรียมนำโซลูชั่นใหม่ๆ เข้าทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่องอาทิ Anti Money Laundering (AML), Data Integration Studio Version 1.2 (DI Studio V 1.2), Basel II, Advanced Budgeting and Planning, Marketing Automation เวอร์ชั่นล่าสุดเข้ารุกตลาดต่อยอดธุรกิจ
นายขวัญชัย เลิศจุลัศจรรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำด้านบิสซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของแซสในปี 2548 ที่ผ่านมาว่า ในปีที่ผ่านมาแซสสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดบิสซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์ในประเทศไทยได้สำเร็จ มีอัตราการเติบโตเป็นอันดับสามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากประเทศจีนและอินเดียเท่านั้นและนับเป็นปีที่ดีที่สุดของแซสในประเทศไทย ทั้งนี้มาจาก 4 ปัจจัยด้วยกันคือ
1. การกระจายตลาดที่กว้างขึ้น จากเดิมที่มุ่งลูกค้ากลุ่มธนาคารได้ขยายออกไปยังกลุ่มราชการ, โทรคมนาคม อุตสาหกรรม และตลาดอื่นๆ
2. ลูกค้าตอบรับกับเทคโนโลยีของแซสในการนำไปใช้งานกับธุรกิจอย่างประสบความสำเร็จ
3. ธุรกิจมีการแข่งขันกันมากขึ้น จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อสร้างความได้เปรียบ
4. การสร้างทีมงานดูแลตลาดอย่างใกล้ชิด และเพิ่มบริษัทคู่ค้าให้มากขึ้น
นายขวัญชัย กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ภาคธุรกิจจะให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านบิสซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะภาคการเงินธนาคารที่ได้รับแรงผลักดันจากการเปิดเสรีทางการเงิน และกฎระเบียบข้อบังคับการบริหารความเสี่ยงบาเซิลทู นอกจากนั้นกลุ่มราชการ, โทรคมนาคม, ประกันภัย, อุตสาหกรรม, โรงพยาบาล และค้าปลีก มีแนวโน้มนำบีไอไปใช้มากเช่นกันดังจะเห็นได้จากการขยายตัวของแซสในปี 2548
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของแซสในปี 2549 นายขวัญชัยกล่าวว่า “บีไอเป็นเรื่องการวิเคราะห์ แซสทำโซลูชั่นเฉพาะสำหรับแต่ละธุรกิจบนพื้นฐานบีไอ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นพื้นฐาน คือ SAS?9 Enterprise Intelligence Platform หรืออินเทลลิเจ้นซ์ โซลูชั่นสำหรับธุรกิจที่ครบถ้วนสมบูรณ์ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1) Financial Intelligence (FI), 2) Customer Intelligence (CI), 3) Operation Intelligence (OI) และ 4) Risk Intelligence (RI)”
นอกจากนี้แซสยังจะนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอาทิ ระบบ Anti Money Laundering (AML), Basel II, Advanced Budgeting and Planning และระบบ Marketing Automation เวอร์ชั่นล่าสุดที่จะเข้ามาเจาะตลาดเพื่อขยายธุรกิจต่อยอด พร้อมกันนั้นจะมีการเพิ่มบริษัทคู่ค้าในโซลูชั่นดังกล่าวรวมทั้งขยายทีมงาน Consulting Services เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจและโซลูชั่น
“แซสเป็นบริษัทฯ ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี โดยมีความแตกต่างจากผู้ค้าบีไอรายอื่น กล่าวคือ เราเป็นบีไอรายเดียวที่เสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรและตอบสนองแต่ละธุรกิจที่พร้อมที่สุด ด้วยความเชื่อมั่นในโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพและโอกาสทางธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตกว่าเท่าตัวในปี 2549”
ทั้งนี้ ไอดีซี บริษัทวิจัยด้านไอทีชั้นนำ ได้กล่าวว่า ในปี 2549 เป็นยุคที่สำคัญที่สุดของข้อมูลอัจฉริยะหรือบิสซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์ (บีไอ) ที่คาดว่าจะเติบโตกว่า 10% หรือมูลค่า 316 ล้านเหรียญสหรัฐในเอเชีย แปซิฟิก
จิม กู๊ดไนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ กล่าวว่า “ลูกค้าวางใจใช้ SAS 9 Enterprise Intelligence Platform เพื่อเพิ่มผลกำไรและความพึงพอใจของลูกค้า ความต้องการในเทคโนโลยีโซลูชั่น และความเชี่ยวชาญเฉพาะธุรกิจของแซสที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนทำให้เราต้องปรับตำแหน่งในตลาดให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้”
เกี่ยวกับ บริษัท แซส
แซส เป็นผู้นำตลาดในการจัดหาการบริการและซอฟต์แวร์ด้านบิซิเนส อินเทลลิเจ้นซ์รุ่นใหม่ที่สามารถสร้างระบบอินเทลลิเจ้นท์ให้กับองค์กรอย่างแท้จริง โซลูชั่นของแซสได้มีการใช้แล้วมากกว่า 40,000 ไซต์ใน 96 % ของบริษัทจากการจัดอับดับของฟอร์จูน โกลบอล 500 ในการพัฒนาสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและผู้ผลิตให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสามารถที่ดีขึ้น การตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น และขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจ แซสเป็นบริษัทเดียวที่สามารถรวมดาต้าแวร์ เฮ้าซิ่ง, แอพพลิเคชั่นด้านการวิเคราะห์และ BI (Business Intelligence) เพื่อสร้างระบบอินเทลลิเจ้นซ์จากข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมหาศาลและกว่า 3 ทศวรรษมาแล้วที่แซสเป็นผู้ให้บริการลูกค้าทั่วโลกในแนวคิด The Power to Know The Power to Succeed
สัดส่วนรายได้
เมื่อมองแยกแต่ละธุรกิจ จะเห็นว่าโซลูชั่นสำหรับธุรกิจธนาคารยังคงมาเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 28% ของรายได้ ตามด้วยตลาดค้าปลีก 20% การศึกษา 16% ประกันภัย 12% และราชการ 11% ความต้องการ อินเทลลิเจ้นซ์ โซลูชั่นที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นด้านบริหารการเงิน ทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศ มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชั่น ความเสี่ยง ตลอดจนซัพพลาย เชน ผลักดันให้ยอดขายโซลูชั่นข้ามธุรกิจ (Cross-Industry Solution Sale) เติบโต
รายได้ของแซสมีความสมดุลกันในแต่ละภูมิภาค 46% ของรายได้มาจากการดำเนินงานในอเมริกา 54% มาจากการดำเนินงานของแซส อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น และคุณชนานันท์ คงธนาฤทธิ์
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด
โทร. 0-2-439-4600 ต่อ 8300, 8204 อีเมล์: srisuput@corepeak.com--จบ--