กพช. เห็นชอบการแยกหน้าที่ระหว่างกพช.และคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ปรับปรุงสัญญา ราคารับซื้อ

ข่าวบันเทิง Friday February 3, 2006 15:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--กพช.
กพช. เห็นชอบการแยกหน้าที่ระหว่างกพช.และคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ปรับปรุงสัญญา ราคารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ
นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ว่า การประชุม กพช. วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2549) ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเกี่ยวกับกรอบการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้าระหว่างการกำหนดนโยบายทางด้านพลังงานและการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะเป็นผู้พิจารณาและเสนอแนะนโยบายต่อคณะรัฐมนตรีในการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ และกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการกำหนดราคาพลังงาน ส่วนคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า(Regulator)จะทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการไฟฟ้าภายใต้นโยบายของ กพช. หรือแปลงนโยบายไปสู่การปฎิบัติ
โดยอำนาจหน้าที่ของ Regulator จะประกอบด้วย การเป็นผู้ศึกษาและเสนอรายละเอียดของโครงสร้างค่าไฟฟ้าตามที่ กพช. กำหนด การกำหนดวิธีคำนวณค่าไฟ กำกับดูแลการรับค่าเอฟที และกำกับดูแลการทำงานและการลงทุนของการไฟฟ้า ออกประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้า จัดทำข้อเสนอการปรับปรุงค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าที่สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ จะมีการยกเลิกคณะอนุกรรมการที่อยู่ใน กพช. และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกับการทำงานของ Regulator ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการกำกับสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ คณะอนุกรรมการการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า และคณะอนุกรรมการพิจารณาระเบียบการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า
นอกจากนี้ กพช. เห็นชอบการกำหนดบทปรับของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ที่ใช้ระบบความร้อนและไอน้ำร่วมกัน (Cogeneration) โดยลดค่าปรับลง 60 % กรณีที่ไม่สามารถผลิตไอน้ำได้ไม่ถึง 10% และกำหนดบทปรับกรณีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าไม่ถึง 45% เนื่องจากโครงการเหล่านี้ต้องเป็นโครงการที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน กพช. เห็นชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงราคาอ้างอิงถ่านหินสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนโดยให้ใช้ราคาเฉลี่ยของ ABARE และ Barlow Jonker มาใช้แทนราคาถ่านหินจาก Japanese Benchmark Price (JBP) ที่ได้มีการประกาศยกเลิกไป และมอบหมายให้ บมจ. กฟผ. ดำเนินการแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน SPP และ IPP ต่อไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาอ้างอิงดังกล่าวจะทำให้มีราคาถ่านหินที่อ้างอิงชัดเจนและมีเสถียรภาพด้านราคายิ่งขึ้น
กพช. เห็นชอบตามมติ กบง. เพื่อการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนและลดการผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันดีเซลซี่งมีราคาแพงมาก โดยกำหนดการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP เพิ่มเติม เพื่อลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด โดยกำหนดหลักการคิดเงินสำหรับ SPP ประเภทสัญญาระยะยาว หรือ Firm (อายุสัญญา 5-25 ปี) และ SPP ประเภทสัญญาระยะสั้น Non-Firm (อายุสัญญาไม่เกิน 5ปี) ที่ใช้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิง ให้ได้รับอัตราค่าไฟฟ้าเท่ากับราคาที่อิงน้ำมันเตา ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 59 ล้านบาท--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ