กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--บีโอไอ
เอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ เดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทในเครือเบทาโกร ขยายกิจการผลิตอาหารสัตว์ 412 ล้านบาท พานาโซนิค มอเตอร์ ลงทุนผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ 367 ล้านบาท เกร๊ทเทอร์ฟาร์ม่า ผลิตยาเม็ด ยาแคบซูล และยาน้ำ 90 ล้านบาท และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลงทุนถึง 902.3 ล้านบาท
นายสุชาติ พิศิษฐวานิช ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ว่า คณะอนุกรรมการเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการต่างๆ รวม 9 กิจการ คิดเป็นเงินลงทุน 2,397.1 ล้านบาท ดังนี้
บริษัท เบทาโกรนอร์ธเทอร์น จำกัด BETAGRO NORTHERN CO., LTD. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเบทาโกรของคนไทย ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตอาหารสัตว์ ปีละประมาณ 216,000 ตัน เพื่อจำหน่ายให้กับฟาร์มสุกรและไก่ของบริษัทในเครือเป็นหลัก และจำหน่ายแก่ผู้เลี้ยงสัตว์รายย่อยทั่วไป โดยจะใช้วัตถุดิบในประเทศกว่าร้อยละ 80 ประกอบด้วย ข้าวโพด รำสด และกากถั่วเหลือง ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 412.3 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานไทย 117 คน โดยโรงงานจะอยู่ที่จังหวัดลำพูน
บริษัท พานาโซนิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด PANASONIC MOTOR (THAILAND) CO., LTD. ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนไทยร้อยละ 40 และต่างชาติร้อยละ 60 ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ ปีละประมาณ 2,920,000 ชิ้น เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศรายใหญ่ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ พานาโซนิค มิตซูบิชิ ไดกิ้น ฮิตาชิ และชาร์ป โดยจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 367 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานไทย 128 คน และจะตั้งโครงการที่จังหวัดสมุทรปราการ
บริษัท โรงงานเภสัชกรรม เกร๊ทเทอร์ฟาร์ม่า จำกัด GREATER PHARMA MANUFACTURING CO., LTD. ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการ ผลิตยาและหรือสารออกฤทธิ์สำคัญในยา มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 1,870 ตัน แบ่งเป็นยาเม็ด ยาแคบซูล และยาน้ำ โดยจะจำหน่ายในประเทศร้อยละ 95 และในต่างประเทศร้อยละ 5 ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 90 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานไทย 237 คน และจะตั้งโรงงานที่จังหวัดนครปฐม
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการยังพิจารณาให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อีก 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท ไนล์ส (ประเทศไทย) จำกัด NILES (THAILAND) CO., LTD. ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตสวิตช์สำหรับยานพาหนะ คือ สวิตช์สำหรับไฟฉุกเฉิน สวิตช์ที่ติดกับประตูรถยนต์แบบฝังไมโครชิพ และสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย กำลังการผลิตประมาณปีละ 8,000,000 ชิ้น โดยผลิตภัณฑ์ร้อยละ 90 จะส่งออกไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนอีกร้อยละ 10 จะจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 426.3 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทย 350 คน และจะตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี
บริษัท ยานากาว่า เทคโนฟอร์จ (ไทยแลนด์) จำกัด YANAGAWA TECHNO FORGE (THAILAND) CO.,LTD ได้รับการส่งเสริมขยายการลงทุนในกิจการผลิตชิ้นส่วนเหล็กทุบขึ้นรูป (FORGING FARTS) กำลังการผลิตปีละประมาณ 3,600 ตัน โดยจะผลิตจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น เงินลงทุน 320 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทย 21 คนตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์น ซีบอร์ด จ.ระยอง
ส่วนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อีกรายที่ได้รับการส่งเสริม คือ บริษัทในนามของ Mr. Leon Tee Wee Leng ได้รับการส่งเสริมในกิจการผลิตกระจกมองข้างสำหรับยานพาหนะ ปีละประมาณ 200,000 ชิ้น และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานพาหนะ ปีละประมาณ 2,850,000 ชิ้น โดยจะส่งออกร้อยละ 20 อีกร้อยละ 80 จะจำหน่ายให้กับผู้ประกอบรถยนต์ในประเทศ ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 156 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทย 81 คน และจะตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้การส่งเสริมแก่กิจการอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น อีก 3 ราย ประกอบด้วย กิจการเลี้ยงสัตว์ ของบริษัท ศิรธรรมพิทักษ์ จำกัด SIRATAMPITAK CO.,LTD เงินลงทุน 130 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ อำเภอปักธงชัย นครราชสีมา , กิจการผลิตน้ำปลา ของบริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด MARINE RESOURCES DEVELOPMENT CO.,LTD เงินลงทุน 320 ล้านบาท ตั้งโรงงานอำเภอนายายอาม จ.จันทบุรี , กิจการผลิตชุดจ่ายพลังงานสำหรับรถไฟฟ้า ของบริษัท เอคเซลเลนท์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด XCELLENT MANUFACTURING (THAILAND) CO.,LTD เงินลงทุน 175.5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ. ชลบุรี