เอซคอน ทุ่ม 15 ล้าน จับมือพันธมิตรจัดงานThailand Baby & Kid Best Buy 2007 ครั้งที่ 2จับพ่อแม่กระเป๋าหนัก จ่ายไม่อั้นเพื่อลูก พร้อมกิจกรรมพัฒนาเด็กและเยาวชน

ข่าวทั่วไป Tuesday November 14, 2006 12:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--โฟร์ฮันเดรท
พฤติกรรมพ่อแม่ยุคใหม่ยังจ่ายหนักเพื่อลูก แถมแนวโน้มสินค้าเด็กดีต่อเนื่อง หลังพ่อแม่ยุคใหม่มีบุตรน้อยลง เอซคอน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจแม่และเด็กสบช่องรวมตัวกันจัดงาน Thailand Baby & Kid Best Buy 2007 ครั้งที่ 2 ต่อยอดความสำเร็จทั้งจากยอดขายและคำชม เน้นปีนี้ต้องดีกว่าเก่า ทั้งด้านความรู้ และสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการเลี้ยงดูบุตร พร้อมมุมสินค้าราคาพิเศษ
นางขวัญชนก ภควลีธร ผู้อำนวยการประชาสัมพันธ์และฝ่ายขาย บริษัท เอซคอน จำกัด ผู้จัดงาน Thailand Baby & Kid Best Buy 2007 กล่าวถึงความสำเร็จของการจัดงานในครั้งที่ผ่านมาว่า แม้จะเป็นครั้งแรกของการจัดงานเกี่ยวกับแม่และเด็กที่ครบวงจรที่สุดของเมืองไทย แต่ก็ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างมาก โดยในระยะเวลาการจัดงาน 4 วัน มีผู้ร่วมชมงานถึง 200,000 คน และมียอดใช้จ่ายของพ่อแม่ ผู้ปกครองถึง 65 ล้านบาท สร้างความพอใจให้กับผู้ร่วมออกแสดงสินค้าภายในงานเป็นอย่างมาก สำหรับผลตอบรับในส่วนของผู้เข้าร่วมชมงานนั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากกิจกรรมภายในงานเน้นหนักที่การให้ความรู้และพัฒนาเด็กในรูปแบบต่างๆ พร้อมนำสินค้าราคาพิเศษมาจำหน่ายแก่ผู้สนใจ
ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับบริษัทและร้านค้าที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับแม่และเด็ก จัดงาน Thailand Baby & Kid Best Buy 2007 ขึ้นในวันที่ 1 - 4 กุมภาพันธ์ 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยการจัดงานในครั้งนี้จะมีร้านค้าเข้าร่วมงานถึง 300 บู๊ธ ซึ่งขณะนี้ผู้ร่วมออกงานเดิมตอบรับการร่วมงานแล้วเกือบ 100% และผู้ร่วมออกงานซึ่งเป็นรายใหม่อีกจำนวนมาก โดยทางบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณการจัดงานในครั้งนี้กว่า 15 ล้านบาท เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
สำหรับพันธมิตรที่ร่วมการออกงานในครั้งนี้ ต่างให้มุมมองด้านการเติบโตของสินค้าในกลุ่มแม่และเด็กไว้อย่างน่าสนใจ โดย นายสรพงษ์ ตั้งวิริยโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ม. อมร กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับเด็กแรกเกิดประเภท เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มและเครื่องนอนภายใต้แบรด์ PAPA และของใช้สำหรับเด็กแบรด์ FARLIN กล่าวถึงการเติบโตของตลาดสินค้าเด็กว่าเกิดจากการที่พ่อแม่ให้ความรักและความสำคัญต่อลูกมาก ฉะนั้นการเลือกสินค้าที่นำมาใช้กับลูก จึงมีการค้นหาข้อมูลและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม โดยจะเลือกที่คุณภาพมากกว่าราคา
ซึ่งความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ นายไพฑูรย์ เสถียรภาพอยุทธ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท มุ่งพัฒนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบนด์ พีเจ้น ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า พ่อแม่ยุคใหม่ เป็นผู้บริโภคที่ฉลาดเลือก มีการศึกษาสูง มีการหาข้อมูลความรู้ และระมัดระวังในการคัดกรองสินค้าให้เหมาะสมกับลูก สินค้าที่มีกลุ่ม เป้าหมายเป็นพ่อแม่ยุคใหม่จึงต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีการคิดค้นวิจัย (Innovation) เพื่อที่สามารถตอบสนองการใช้งานและความต้องการได้ ทั้งยังต้องสามารถอำนวยความสะดวกในการเลี้ยงลูกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพ่อแม่ยุคใหม่มีเวลาจำกัดมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่ทำงานนอกบ้านทั้งสองคน ส่วนผู้ที่ประกอบธุรกิจในกลุ่มนี้ก็จำเป็น ต้องมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสนองความต้องการของพ่อแม่ให้ได้มากที่สุด (Offering Product Verities)
ด้าน นางสาวลดารินทร์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรี แอล เอ็น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับแม่และเด็กแบรด์ Mothercare จากประเทศอังกฤษกล่าวว่านอกจากตลาดสินค้าเด็กจะมีการเติบโตมากแล้ว การแข่งขันในปัจจุบันก็มีสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่การแข็งขันเฉพาะด้านราคาเท่านั้น แต่แข่งกันที่มาตรฐาน ซึ่งสินค้าของ Mothercare นั้นเป็นมาตรฐานเดียวกับของประเทศอังกฤษ จึงมีความปลอดภัยสูง นอกจากนั้นยังสร้างความมั่นใจบริการหลังการขาย โดยพนักงานของบริษัทฯ จะได้รับการอบรมเป็นอย่างดี เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
นำเสนอข่าวโดยบริษัท โฟร์ฮันเดรท จำกัด รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร. 02-510-5514-5 หรือ 081-913-1291
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ