กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก เปิดเผยว่า ในปี 2548 ดีเอชแอล ประเทศไทย ได้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนมากกว่า 3.2 ล้านชิ้น หรือคิดเป็น น้ำหนักรวมกว่า 15 ล้านกิโลกรัม
ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA — International Air Transport Association) ได้ระบุว่า ธุรกิจการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในปี 2548 นั้นมีการเติบโตอย่างเชื่องช้า แต่ถึงแม้ด้วยเหตุดังกล่าว กอปรกับการที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ การระบาดของเชื้อไข้หวัดนก และราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นก็ตาม ดีเอชแอล ประเทศไทย ยังคงรักษาระดับการเติบโตในหลายตลาด
ตัวเลขล่าสุดจากการเปิดเผยของดีเอชแอล ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด โดยมีอัตรามูลค่าของสินค้าไม่คงทน เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 70 และมีมูลค่าของเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม ที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25 ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกจากดีเอชแอลไปยังประเทศญี่ปุ่นเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 8 ในขณะที่การส่งออกไปยังประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง มีอัตราการเติบโตเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18 เนื่องจากแรงส่งของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 สำหรับการค้าในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าสูงเป็นอันดับ 3 ใน 5 อันดับสูงสุดของภูมิภาค
นอกจากนี้ ข้อมูลจากดีเอชแอล ยังระบุว่า การนำเข้าจากประเทศจีนมายังประเทศไทยมีอัตราเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 73.6 โดยตัวเลขจากดีเอชแอลแจ้งว่ามูลค่าการส่งออกของจีนมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นในทุกภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจการค้าแบบขายส่งของสินค้าไม่คงทน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 300 และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการขนส่งที่เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 160 ในขณะที่การค้าโดยรวมในภูมิภาคเอเชียยังคงมีการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย 4 ใน 5 อันดับสูงสุดของประเทศที่ประเทศไทยนำสินค้าเข้ามานั้น เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชีย
สำหรับผลประกอบการของดีเอชแอลในอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และมีการส่งออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ในปี 2548 ส่วนธุรกิจของดีเอชแอลที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทยคือ การนำเข้าสินค้าไม่คงทน (เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 74) อุปกรณ์ทางด้านการขนส่ง (เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 47) และสินค้าด้านเคมีภัณฑ์และสินค้าที่มีความเกี่ยวพันกันกับสินค้าด้านเคมีภัณฑ์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 37) ทางด้านการส่งออก ธุรกิจที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด คือสินค้าด้านเคมีภัณฑ์และสินค้าที่มีความเกี่ยวพันกันกับสินค้าด้านเคมีภัณฑ์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 23) สินค้าไม่คงทน (เพิ่มขึ้นถึงเกือบร้อยละ 23) และอุปกรณ์ด้านการขนส่ง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 15)
ในปีนี้ หน่วยงานรัฐบาล และสถาบันต่างๆ ได้คาดการณ์เกี่ยวกับอัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกในอุตสาหกรรมอาหาร และยานยนต์ รวมถึงภาคอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมทางด้านลอจิสติกส์ และซัพพลาย เชน โซลูชั่นส์ เช่นเดียวกันกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศที่ออกมาคาดการณ์ว่า ระดับของการขนส่งสินค้าจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในปี 2548 ดีเอชแอล จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทจะประสบความสำเร็จ
นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แม้ว่าปี 2548 เป็นปีที่ประเทศไทย และธุรกิจการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ จะประสบกับความยากลำบาก ดีเอชแอล ประเทศไทย ก็ยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา ดีเอชแอล ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขถึงสองหลัก”
“เรามั่นใจว่า ผลการดำเนินงานที่เยี่ยมยอดของเราในประเทศไทย จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยเรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตในตลาดส่งออกของประเทศไทย และสร้างศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งใหม่ของเราที่สนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2543 ถึงปี 2549 ดีเอชแอลยังได้เพิ่มเงินลงทุน อีกถึง 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเครื่องมืออำนวยความสะดวกสำหรับพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการของเราอย่างสม่ำเสมอ พร้อมมอบการบริการขนส่งด่วนทางอากาศระหว่างประเทศที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า” นายเฮอร์เบิตกล่าวเสริม
ข้อมูลเพิ่มเติมดีเอชแอล
ดีเอชแอล ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในการมอบนวัตกรรมและโซลูชั่นซึ่งได้รับการออกแบบโดยเฉพาะเพื่อสนองตอบความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าจาก ผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งด่วน การขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก ตลอดจนโซลูชั่นด้านลอจิสติสก์ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการทั่วทุกมุมโลก และมีความเข้าใจถึงความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศได้อย่างลึกซึ้ง โดยในปี พ.ศ. 2547 ดีเอชแอลมียอดรายได้ทั้งสิ้น 33 พันล้านเหรียญยูโร หรือเกือบ 1.65 ล้านล้านบาท ปัจจุบัน ดีเอชแอลมีเครือข่ายเชื่อมโยงครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศ และอาณาเขตต่างๆ ทั่วโลก โดยมีบุคลากรกว่า 285,000 คนทั่วโลก ที่พร้อมมอบบริการขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ครบวงจรที่รวดเร็ว วางใจได้ และเกินความคาดหวังของลูกค้า โดยมีดอยช์ โพสท์ เวิลด์ เน็ต เป็นผู้ถือหุ้นของดีเอชแอล 100%
ดีเอชแอล ประเทศไทย ให้บริการขนส่งและลอจิสติกส์อย่างครบวงจร ด้วยศักยภาพของสามหน่วยงาน ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ดีเอชแอล ดานซาส แอร์ แอนด์ โอเชี่ยน และดีเอชแอล โซลูชั่น ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่จากการติดต่อผู้ให้บริการเพียงรายเดียว (one-stop-shop) ซึ่งรองรับการขนส่งทุกรูปแบบ ตั้งแต่เอกสารไปจนถึงตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีพนักงาน 1,200 คนให้บริการอย่างมืออาชีพ ผ่านเครือข่ายศูนย์บริการและศูนย์รับส่งด่วน 20 แห่งที่ให้บริการครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.dhl.co.th
ปิยลัคน์ พิทยาพิบูลพงศ์
บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 0-2345-5602 หรือ 5608
โทรสาร 0-2285-5531
อีเมล์ piyalak.pitayapibulphong@dhl.com
ดุจเดือน จารุกะกุล หรือ วิสาข์ รอดคำดี
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทรศัพท์ 0-2627-3501 ต่อ 114 หรือ 107 โทรสาร 0-2627-3510
อีเมล์ drussamee@th.hillandknowlton.comvrodcumdee@th.hillandknowlton.com--จบ--