กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--กฟผ.
กฟผ. ชี้แจงข่าวการประมูลการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางประกงและโรงไฟฟ้าพระนครเหนือมีความโปร่งใสเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบ กฟผ. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับบริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุด พร้อมยืนยันบริษัทที่เปิดซองราคาผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคแล้ว วันนี้ (20 เม.ย.) นายณรงค์ สีตสุวรรณ รองผู้ว่าการอาวุโสกลุ่มผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวคณะกรรมการ กฟผ. จะประชุมพิจารณาอนุมัติจ้างบริษัทชูมิโตโมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และ บริษัทมารูเบนิ ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะกงในวันที่ 21 เมษายน 2549 ณ ห้อง 201 อาคารสำนักผู้ว่าการ สำนักงานกลาง กฟผ. โดยระบุว่า การดำเนินการประกวดราคาโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ได้ทำตามระเบียบ กฟผ. ในทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส โดยได้ประกาศจัดประกวดราคาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2548 มีผู้มาขอซื้อเอกสารการประกวดราคาจำนวน 14 ราย และเปิดซองเทคนิคเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2548 โดย กฟผ. จะพิจารณาคุณสมบัติของทุกบริษัทตามเอกสารที่ยื่นเสนอเข้ามา โดยเฉพาะคุณสมบัติของเครื่องจักรที่ต้องมีการเดินเครื่องมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี หรือ เดินเครื่องมาแล้วไม่ต่ำว่า 14,000 ชั่วโมงโดยไม่มีปัญหา
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อตรวจสอบผ่านด้านเทคนิคแล้ว กฟผ. จึงได้เปิดซองราคาเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบเลือกบริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้ทราบผลแล้ว โดย กฟผ. กำลังดำเนินการในขั้นตอนการต่อรองราคา จึงยังบอกไม่ได้ว่าบริษัทใดจะได้รับการเลือกให้เป็นผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ กฟผ. มีสถานภาพเป็น บมจ.กฟผ.
รองผู้ว่าการอาวุโสกลุ่มผลิตไฟฟ้า กล่าวยืนยันว่า การที่ กฟผ. จะต้องรอผลการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่กระทบต่อแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพราะยังพอมีเวลาในขั้นตอนดังกล่าว เพื่อให้ทันต่อกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของโรงไฟฟ้าบางปะกง คือ เดือนมีนาคม 2552 และโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ คือ เดือนมีนาคม 2553 ขณะเดียวกันสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าของประเทศในปี 2549 มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กำลังผลิตสำรองปัจจุบัน เท่ากับ 20 เปอร์เซ็นต์ จึงยืนยันว่าไม่กระทบต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าอย่างแน่นอน