กรุงเทพฯ--27 ก.พ.-- กันตนา ออร์กาไนเซอร์ แอนด์ เมเนจเมนท์
โคราชจัดงานยิ่งใหญ่ยกย่องวีรกรรม ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ ของ ๒ หญิง คุณหญิงโม และหลานสาวบุญเหลือผู้พลีชีพเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ ๔ มีนาคม ๒๕๔๙ ครบรอบ ๑๘๐ ปีแห่งการเสียสละ โดยนายกร ทัพพะรังสี ประธานจัดงานการแสดง แสง เสียง และสื่อผสม ๑๘๐ ปีชัยชนะท้าวสุรนารี ได้มอบบทแม่เมืองโคราชผู้กล้าหาญ สง่างาม
และเป็นที่รักยิ่ง ให้กับ “นก” สินจัย เปล่งพานิช และบทหญิงสาวชาวโคราชผู้เสียสละชีวิต ขับไล่ผู้บุกรุกและข่มเหงชาวโคราช น.ส.บุญเหลือ ให้กับ “โอ๋” เพชรดา เทียมเพ็ชร พร้อมผู้แสดงกว่า ๒๐๐ ชีวิต
โดยมีศุภักษร เขียนบท และกำกับการแสดง อำนวยการผลิต
โดยบริษัท กันตนา ออร์กาไนเซอร์ แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด
แสดงวันละ ๑ รอบ ระหว่างวันที่ ๓-๕ มีนาคม ๒๕๔๙ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
“นก” สินจัย เปล่งพานิช พูดถึงบทที่ได้รับ “ย่าโม่”
รู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติให้แสดงในบทดังกล่าวทำให้รำลึกถึงคุณงามความดีที่ย่าโมและชาวโคราช ยอมพลีชีพเพื่อรักษาแผ่นดินไทยไว้จึงขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่พิจารณาและส่งบทดังกล่าวให้
“โอ๋” เพชรดา เทียมเพ็ชร ผู้รับได้รับบท “น.ส.บุญเหลือ”
กล่าวว่ารู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้รับเลือกให้เล่นในบทดังกล่าวเพราะเป็นบทที่ใฝ่ฝันมาก และไม่คิดว่าจะไดรับเล่นในบทนี้ ที่แสดงให้เห็นถึงหญิงสาวชาวโคราชที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศชาติ
นายกร ทัพพะรังสี กล่าวว่าการที่เลือก “นก” สินจัย และ “โอ๋” เพชรดา เพราะเล็งเห็นใน ฝีมือการแสดงของทั้ง ๒ คนแล้ว ทำให้รู้สึกมั่นใจว่าสามารถเล่นบทดังกล่าวได้ดีและสามารถทำให้พี่น้องชาวโคราชรู้สึกภูมิใจเมื่อย้อนเวลากลับไป ๑๘๐ ปี
นอกจากนี้แล้วการแสดงดังกล่าวยังจัดขึ้นในพื้นที่ที่เกิดขึ้นจริงคือทุ่งสัมฤทธิ์
One Stop Shop Service for TV Broadcasting & Feature Films
สำหรับการแสดงแสง เสียง และสื่อผสมที่ใช้รูปแบบการแสดงมิติสมจริงให้ผู้ชมมีความรู้สึกย้อนเวลากลับไป ๑๘๐ ปีและนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ทุ่งสัมฤทธิ์นับแต่ช่วงบ้านเมืองชาวโคราชอยู่เย็นเป็นสุขในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ.๒๓๖๙ และมีเวียงจันทน์เป็นเมืองขึ้นของไทยแต่เจ้าอนุวงศ์ผู้ปกครองเวียงจันทน์
คิดแยกตนเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อไทยจึงยกกองทัพมาทางตะวันออกเฉียงเหนือจนมาถึงนครราชสีมา
ขณะเจ้าเมืองกับพระยาปลัดไปราชการที่ เมืองขุขันธ์โดยเจ้าอนุวงศ์ได้หรอกชาวเมืองโคราชว่ากรุงเทพมีศึกมาประชิดพระนครจะยกกองทัพไปช่วยชาวเมืองจึงไม่ได้ต่อต้านแต่เจ้าอนุวงศ์กับกวาดต้อนชาวโคราชและสะเบียงอาหารให้ทหารคุมไปเวียงจันทน์และในบรรดาผู้ที่ถูกหรอกมีคุณหญิงโมรวมอยู่ด้วยคุณหญิงโมรู้ว่าถูกหรอกจึงออกอุบายให้พวกทหารเดินทางช้าลงจนถึงทุ่งสัมฤทธิ์(อำเภอพิมาย)
จากนั้นจึงให้นางสาวบุญเหลือและพวกผู้หญิงที่ถูกกวาดต้อนไปแสดงท่าทางยั่วยวนเอาใจให้ทหารข้าศึกตายใจในที่สุดนางสาวบุญเหลือก็ยอมพลีชีพเพื่อกำจัดผู้นำทหารข้าศึกและชาวบ้านได้รวมแรงใจต่อสู้กับข้าศึกจนพ่ายแพ้อย่างยับเยินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบถึงความกล้าหาญของคุณหญิงโมจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น “ท้าวสุรนารี”และจัดสร้างอนุสาวรีย์ของท้าวสุรนารีอยู่ที่หน้าประตูชุมพลจังหวัดนครราชสีมาซึ่งในตอนจบจะเป็นฉากที่ประทับใจแม้กาลเวลาจะผ่านมาแล้ว ๑๘๐ ปี ประชาชนคนไทยก็ยังเทิดทูลวีรกรรมของคุณหญิงโม
และนางสาวบุญเหลือ การแสดงชุดนี้มีความยาวประมาณ ๑ ชั่วโมง แบ่งออกเป็น ๖ องก์ นำแสดงโดยนก สินจัย เปล่งพานิช รับบท เป็น คุณหญิงโมหรือท้าวสุรนารี, โอ๋ เพชรดา เทียมเพ็ชร เป็นนางสาวบุญเหลือ, อัมพร ปานกระโทก รับบท ผู้นำทหารข้าศึก
นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบหลายร้อยคนร่วมแสดงโดยการแสดงแสง เสียง และสื่อผสม 180 ปีชัยชนะท้าวสุรนารีจะมีขึ้นระหว่างวันที่ ๓-๕ มีนาคม ๒๕๔๙ เวลา ๑๙.๐๐—๒๐.๐๐ น. ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมาโดยมีบริษัทกันตนา ออร์กาไนเซอร์ แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัดได้ร่วมมือกับบริษัทคอมอาร์ต โปรดักชั่น จำกัดเพื่อจัดงานแสดงให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติคนโคราช
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--