กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้(16 มิ.ย.48) เวลา 10.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดำเนินการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างหอศิลป์ฯ แนวทางการบริหารจัดการ อีกทั้งการจัดกิจกรรมของหอศิลป์แห่งนี้
29 มิ.ย.- 8 ก.ค.นี้ กทม.เปิดขายแบบงานก่อสร้างหอศิลป์
สำหรับโครงการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (หอศิลป์ฯ) ที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างโครงการ โดยกำหนดขายแบบประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.- 8 ก.ค.48 ยื่นซองพร้อมตรวจร่างสัญญาในวันที่ 20 ก.ค.48 เปิดซองประกวดราคาในวันที่ 26 ก.ค.48 โดยจะลงนามสัญญาภายในวันที่ 29 ก.ค.48 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างทันที ให้แล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.49 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา อีกทั้งเป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และแลกเปลี่ยนระหว่างศิลปินกับประชาชน
ทั้งนี้ โครงการหอศิลป์ฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน บริเวณสี่แยกปทุมวัน จะก่อสร้างเป็นอาคารสูง 11 ชั้น โดยมีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น และระดับเหนือดิน 8 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 20,900 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหอศิลป์และแหล่งเรียนรู้ครบวงจรฯ 11,000 ตรม. ส่วนพาณิชย์ซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ 4,400 ตร.ม. และส่วนจอดรถใต้ดิน 5,500 ตร.ม. สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 118 คัน จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่สากล ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ในวงเงิน 438 ล้านบาท
จดทะเบียนมูลนิธิหอศิลป์ บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ
ในส่วนของการบริหารจัดการหอศิลป์ฯ นั้น จะดำเนินการรูปแบบมูลนิธิเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์เด็ก โดยกรุงเทพมหานคร ทำสัญญาให้สิทธิ์ครอบครองและใช้ประโยชน์ในพื้นที่หอศิลป์ฯ เพื่อให้การบริหารงานมีความคล่องตัว พร้อมทั้งจะดำเนินการร่างขั้นตอนการบริหารมูลนิธิ เพื่อให้มีคณะทำงานเข้ามาบริหารจัดการ และเดินหน้าจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมได้ตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นไป
เชิญร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับการประกวดโลโก้หอศิลป์ฯ
ทั้งนี้ระหว่างที่หอศิลป์ฯ กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คณะกรรมการหอศิลป์ฯ จะจัดการประกวดตราสัญลักษณ์ (โลโก้) ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยให้ประชาชนผู้รักศิลปะมีส่วนร่วมในการส่งผลงานเข้าประกวดจนถึงวันที่ 30 ส.ค.48 เพื่อคัดเลือกผลงานที่ชนะเลิศการประกวดมาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยผู้ชนะเลิศการประกวดอันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัลถึง 100,000 บาท ซึ่งรายละเอียดคุณสมบัติและลักษณะของผลงานที่จะเข้าร่วมประกวดจะแถลงให้ทราบภายในต้นเดือนหน้า
กลุ่มเครือข่ายฯ เร่งประชุมกำหนดปฏิญญาด้านศิลปวัฒนธรรม
ในวันที่ 4 ก.ค. 48 กลุ่มเครือข่ายการมีส่วนร่วม ได้แก่ กลุ่มองค์การ บุคคล ศิลปิน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม สถานทูต สื่อมวลชน และองค์การนักศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรม จะจัดประชุมพิจารณาร่างปฏิญญากรุงเทพมหานคร ว่าด้วยความร่วมมือทางด้านศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างกรุงเทพมหานคร และพันธมิตรด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดความตื่นตัวอย่างกว้างขวาง และจะย้ำถึงจุดยืนร่วมกันในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ทำให้เกิดมรดกทางวัฒนธรรมในอนาคตอีกด้วย--จบ--