กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ
สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ “ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” ผลงานของ พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ บรรจงร้อยเรียงและขยายความจากพระไตรปิฎกที่งดงาม มาเป็นบทร้อยแก้วที่อ่านง่าย ทันสมัย เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งขุมทรัพย์ที่ทุกคนสามารถตักตวงไว้เป็นสมบัติส่วนตัวได้ เพราะแฝงไว้ด้วยแง่คิดหลักธรรมที่ล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทั้งสิ้น ทุกถ้อยประโยคชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตที่นำไปปฏิบัติได้จริง
จากประสบการณ์และการศึกษาธรรมของ พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ ซึ่งสำเร็จวิชาธรรมเปรียญ 9 ประโยค ตั้งแต่เป็นสามเณร ได้รับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อีกทั้งเป็นอาจารย์สอนวิชาธรรมทั้งภาคปฏิบัติและทฤษฎี ด้วยความรู้และภูมิธรรมที่ท่านสั่งสมมา ผนวกกับขุมทรัพย์ความรู้ที่ท่านค้นพบจากพระไตรปิฏก จึงเป็นที่มาของหนังสือที่จะทำให้มี ‘ปัญญา’ ที่นำไปใช้ได้ในชีวิตจริง อย่างที่เรียกว่า “ยิ่งใช้ ยิ่งเพิ่ม ยิ่งเติม ยิ่งคม”
“ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” เป็นการคัดสรรเรื่องราว ‘ชาดก’ ซึ่งเป็นบทพระคาถาที่ร้อยเรียงอยู่ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27-28 ขุททกนิกายชาดก เป็นบทสรุปของคำสอนในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ผ่านทุกข์ ผ่านสุข ผ่านเรื่องราวแห่งชีวิตมานับชาติไม่ถ้วน เรื่อยมาจนกระทั่งภูมิธรรมเต็มบริบูรณ์ แสงสว่างแห่งปัญญาสว่างโล่ง บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ซึ่งความจริงทั้งมวล
ธรรมะภายในเล่มจึงมีคุณค่าอนันต์ และถูกย่อยให้กลายเป็น ‘แหล่งความรู้’ ที่คนทุกระดับเอื้อมถึง มีเนื้อหาและวิธีการเขียนที่สามารถเลือกอ่านได้ตามจริตที่ชอบ ท้ายเล่มสรุปเป็น วาทธรรมและวลีเด็ด ซึ่งเป็นหัวใจของการดำเนินชีวิตอย่างมีหลักการ ไม่พลาดพลั้งเสียรู้ผู้อื่น และความโง่เขลาของตนเอง ดังนั้น คำสอนที่พุทธองค์ให้ไว้ จึงเปรียบมรดกล้ำค่าที่มีความประณีตและถูกต้องอย่างที่สุด เป็นเครื่องหมายแห่ง ‘บทเรียนชีวิต’ ที่ใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตได้ดีที่สุดเหมาะกับทุกยุค ทุกสมัย ตราบใดที่โลกนี้ยังมีมนุษย์
นอกจากพระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ จะเขียนหนังสือธรรมะเผยแพร่ออกไปหลายต่อหลายเล่ม นับรวมถึง 32 เล่มในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นพระปริยัติแล้ว ท่านยังเป็นพระปฏิบัติที่ได้ปฏิบัติมานาน มีประสบการณ์เกี่ยวกับวิปัสสนา จากสำนักวิปัสสนาวิเวกอาศรม ชลบุรี และสอนกรรมฐานอยู่ที่นั่น กระทั่งได้รับนิมนต์ให้เป็นพระวิปัสสนาจารย์มาสอนกรรมฐานที่ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย โพธิปักขิยธรรมสถาน ทับกวาง วัดสามพระยา และคันทรีเล็กรีสอร์ท นครสวรรค์ และในปัจจุบันท่านเองก็ยังมีฉันทะต่อการปฏิบัติอยู่ มักจะทำกรรมฐานเดินจงกรม นั่งสมาธิ ในยามเย็น หลังจากว่างเว้นจากภารกิจประจำวัน ปัจจุบันท่านจำพรรษาที่วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
พระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ กล่าวไว้ว่า เหล่านี้แหละคือขุมทรัพย์ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ซึ่งสามารถขุดค้นนำมาใช้สอย คือปฏิบัติตามได้อย่างไม่มีวันหมดและไม่มีจบสิ้น ใช้หากินดำรงชีพได้ตลอดไป ทั้งนำไปแจกจ่ายแนะนำสั่งสอนลูกหลานสืบต่อไปด้วย พระมหาอุเทนเธอได้ขุดค้นขุมทรัพย์นั้นมาส่วนหนึ่ง แล้วนำมาเจียระไนให้งดงามเหมาะที่จะเป็นเครื่องประเทืองปัญญาและนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมสำหรับผู้ใคร่ธรรมทั้งหลาย
พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ ผู้เขียน กล่าวว่า หนังสือ “ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” ย่อยจากพระไตรปิฎกในส่วนชาดกที่เป็นพระคาถามาให้คนรุ่นใหม่ก็สามารถอ่านได้ โดยเน้นความไม่คลาดเคลื่อน เพราะแปลจากพุทธวัจนะ เป็นกาพย์ยานี 11 พร้อมเขียนคำอธิบายที่เป็นปฏิภาณของผู้เขียนเอง บางบทชวนขำ แทรกมุกขาวระหว่างบรรทัด “อ่านอมยิ้ม” บางบทลงหนักเล่นแรง “อ่านเจ็บ” บางบทสะกิดต่อมความคิด ชวนพิจารณาตั้งคำถาม บางครั้ง “ช่วงดีช็อตเด็ด” รวมสาระผสมแทรกอยู่ในหลายเรื่องหลากรส ข้าพเจ้ารู้สึกเพลิดเพลินที่ได้หลั่งระบายความคิดออกมาเป็นตัวอักษรหนังสือ แต่ครั้นเขียนขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎกจบ ละครหลายเรื่องหลากรสก็พลันรูดม่านปิดฉากลง และออกไปเริ่มเปิดฉากใหม่กับท่านผู้อ่านทันที
นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี กล่าวว่า เสน่ห์ของหนังสือ “ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” คือ พระอาจารย์ได้คัดย่อให้เราแล้ว เมื่ออ่านจบทำให้เกิดความสนใจที่จะศึกษาพระไตรปิฎกต่อ สิ่งมหัศจรรย์ที่ได้พบคือ ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็น ‘อะกาลิโก’ ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็นำมาใช้กับการดำเนินชีวิตได้ พระไตรปิฎกนั้นเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ทางปัญญาอย่างแท้จริง เพราะเป็นฐานปัญญาที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาอธิปไตยของชาติ เมื่อ 116 ปีมาแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้จัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีเป็นชุดครั้งแรก ซึ่งในช่วงปี 2436 ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตการณ์ร้ายแรงของการล่าอาณานิคมจากตะวันตก การที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระไตรปิฎก จปร. ทั่วประเทศ ทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่ามีอารยธรรม มีวัฒนธรรมทางปัญญา ซึ่งต่อมาข้อขัดแย้งระหว่างไทยกับตะวันตกก็ยุติด้วยการเจรจา ในปี 2436 ซึ่งเป็นปีที่จัดพิมพ์พระไตรปิฎกสำเร็จนั่นเอง
บ๊อบ - ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ พิธีกรชื่อดัง กล่าวว่า ตอนแรกที่เห็นหนังสือ “ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” คิดว่าอ่านแล้วจะต้องได้อะไรที่งอกเงยขึ้นมาแน่นอน แต่ด้วยกิเลสทำให้อย่างแรกที่นึกถึงคือ เงินทอง ครั้นเมื่ออ่านจบแล้ว กลับได้อะไรมากกว่านั้น เรียกได้ว่าเป็น ‘อริยทรัพย์’ เลย ตนเคยอ่านพระไตรปิฎกเพียง 3 - 4 หน้า ยอมรับว่า อ่านยากมากๆ ในเมื่ออ่านเองไม่ได้ จึงถวายพระสงฆ์เพื่อให้ท่านได้ศึกษา ดังนั้นตนจึงคิดว่า ถ้าคนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจยาก ก็ควรมีผู้ที่ช่วยทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งตรงนี้ พระมหาอุเทนได้ช่วยเปิดขุมทรัพย์อย่างมหาศาลให้เราแล้ว
ไก่ - มีสุข แจ้งมีสุข พิธีกรสาวหัวใจธรรมะ กล่าวว่า ตนเคยลองอ่าน ‘พระไตรปิฎก’ ฉบับเต็มแล้วไม่เข้าใจ จึงคิดว่าพระไตรปิฎกห่างไกลจากตัวเองเหลือเกิน คิดเสมอว่าเป็นที่ที่ดีที่สุด แต่ไปถึงยากที่สุด คือรู้ว่าของดีมีอยู่แต่ไม่เอาตัวเข้าไปใกล้ แต่สำหรับหนังสือ “ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” ถ้าใครนึกไม่ออกว่าพระไตรปิฎกคืออะไร หนังสือเล่มนี้สามารถบอกได้ โดยส่วนตัวชอบบท ‘ปากเป็นเอก เลขเป็นโท’ เพราะตนอ่านแล้วนำมาปรับใช้ทำให้ระวังคำพูดมากขึ้น ทั้งระหว่างการบันทึกเทปรายการและในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงอยากฝากให้ผู้อ่านทุกคนบอกต่อหนังสือเล่มนี้ถึงญาติมิตร เพื่อนฝูงและคนใกล้ตัว เพื่อให้พบหนทางสว่างเช่นกัน
หนังสือ “ขุมทรัพย์จากพระไตรปิฎก” โดย พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ มีความหนา 166 หน้า ราคา 185 บาท วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และร้านดีบุ๊คส์ ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า ถนนเพลินจิต สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส ชิดลม นอกจากนี้ยังมีวางจำหน่ายพร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 38” ณ บูธ H11 ห้องแพลนนารีฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม — 6 เมษายน ศกนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร 0 2685 2254-5 หรือ www.dmgbooks.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ประสานงาน สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร. 0-2685-2254-5 ประสานงาน ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ
จารุวรรณ เวชตระกูล ต่อ 2214, อัญชลี เรืองศรีศักดิกุล ต่อ 2266 สุรีรัตน์ ปานพรม ต่อ 2367, ปัทมา วัฒนาพรินทร ต่อ 2377