ไนท์แฟรงค์ ชี้ตลาดอสังหาฯในหัวหินสดใส ความต้องการทางตลาดสูง

ข่าวทั่วไป Monday August 7, 2006 09:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
ไนท์แฟรงค์ มั่นใจศักยภาพ “หัวหิน” เป็นทำเลทองของนักลงทุน เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์ของหัวหินมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้น เพราะเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า คาดผลตอบแทนสูงกว่า 10%
บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลกและก่อตั้งมานานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำการสำรวจตลาดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยรวมของพื้นที่แนวชายฝั่งทะเลไทย ได้แก่ภูเก็ต ,สมุย , พัทยาและหัวหิน ฟันธงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวหินยังคึกคัก โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องใน 3 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะศักยภาพของหัวหินดึงดูดทั้งผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติ
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “จากการสำรวจตลาดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ริมชายหาดโดยรวมของพื้นที่หัวหิน - ชะอำ พบว่าความต้องการซื้อยังมีมาก แต่ที่ดินริมชายหาดที่เหมาะสมต่อการพัฒนาขาดแคลนและหายากมากขึ้น จากการสำรวจพบว่า มีจำนวนโครงการพัฒนาคอนโดมิเนียมเปิดขายทั้งสิ้น 18 โครงการ มีจำนวนห้องชุดเปิดขาย 1,732 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 30,000 ถึงเกือบ 100,000 บาทต่อตารางเมตร มียอดขายรวม ประมาณ 75% ซึ่งคาดว่าตลาดคอนโดตากอากาศในหัวหินตลอดทั้งปี 2549 จะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปริมาณความต้องการในตลาดทั้งคนไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวต่างชาติมีอัตราการซื้อเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ส่งผลให้ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้น 10-20% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ซื้อส่วนหนึ่งมีแนวโน้มที่จะลงทุนซื้อแล้วปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้จากสถิติของการท่องเทียวแห่งประเทศไทย ในช่วงปี 2548 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาพักผ่อนที่หัวหินมากถึง 1,800,000 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนเกือบ 400,000 คน โดยมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวกว่า 15% ในปี 2548
“สำหรับโครงการที่น่าสนใจโครงการหนึ่งในหัวหินนั้นคือ โครงการโบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่มีสระว่ายน้ำกว่า 15,000 ตารางเมตร ถือว่าใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจำนวนพื้นที่โครงการ 72 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีแผนที่จะจัดแคมเปญใหม่สำหรับอาคาร คอนโด B เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวของหัวหินและสร้างโอกาสให้นักลงทุน โดยเมื่อซื้อคอนโดมิเนียมของโครงการแล้ว นอกจากจะเป็นการขายพร้อมตกแต่งภายในที่พร้อมเข้าอยู่และปล่อยเช่า โดยโครงการใหม่นี้จะมี Chain โรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นผู้บริหารงานและโบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน จะรับประกันรายได้ 6% ต่อปี สำหรับช่วง 2 ปีแรก และประมาณการว่าในปีต่อ ๆ ไปจะได้รับผลตอบแทนมากกว่า 10% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงเทียบเท่ามาตรฐานการซื้อวิลล่าที่บริหารโดยโรงแรม 5 ดาวในภูเก็ตเลยทีเดียว” นายพนมกล่าว
“ส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือว่าเป็น World Class Tourist Destination ที่มีแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกและเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพฯ พบว่า ปัจจุบันมีจำนวนโครงการวิลล่าและคอนโดที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒนาทั้งสิ้นจำนวนเกือบ 2,000 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการวิลล่า 874 ยูนิต โครงการ อพาร์ทเมนต์และคอนโดมิเนียม 964 ยูนิต มีหลายโครงการที่พัฒนาแล้วเจ้าของโครงการขายเพื่อการลงทุน และรับบริหารการเช่าให้ โดยมีอัตราผลตอบแทนประมาณ 5 — 6 % ต่อปี ทั้งนี้คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทรีสอร์ทตากอากาศของภูเก็ตจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ”
“สำหรับสมุยยังถือว่าเป็นจังหวัดที่ธรรมชาติยังบริสุทธิ์ อาหารทะเลมีคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังจากเกิดสึนามิ พบว่ามีจำนวนโครงการวิลล่าที่เปิดขายทั้งสิ้นจำนวนกว่า 736 ยูนิต สำหรับด้านราคาขายพบว่ามีราคาหลากหลาย คือต่ำกว่า 10 ล้าน ถึง กว่า 100 ล้านบาท มียอดขายประมาณ 42% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด จะเห็นได้ว่าตลาดวิลล่าในสมุยจะมีความต่างของสินค้าสูงมาก” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
นายพนม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ในส่วนพัทยา นับว่าเป็นแหล่งท่องเทียวที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดี มี Infrastructures และบริการพร้อมมูล อีกทั้งยังใกล้กรุงเทพและสนามบินสุวรรณภูมิทำให้การเดินทางสะดวก มีจำนวนห้องโรงแรมมาก เป็นอันดับสาม รองจากกรุงเทพฯ และภูเก็ต มีแนวโน้มการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวสูง จากการสำรวจพบว่ามีจำนวนโครงการที่เปิดขายรวมทั้งที่เป็นบ้านและคอนโดรวมกว่า 10,000 ยูนิต โดยมีคอนโดตากอากาศทั้งที่อยู่ติดและไม่ติดชายทะเล กว่า 6,000 ยูนิต มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านกว่า ถึง 25 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง มีความต้องการคอนโดในพัทยาในระดับราคาไม่สูงมากนัก สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาจากแถบเอเชีย”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
ศิรินทร์ทิพย์ จิตธนากรนุกูร , ลลิฎา ลีลานุกูล บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
โทร.02-631-2290-5 ต่อ 307, 305 E-mail : sirintip@neotarget.com / lalida@neotarget.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ