กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ปรับปรุง ข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการส่งมอบและรับมอบ ยางแท่ง STR 20 สร้างความชัดเจนและยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเหนือประเทศคู่แข่ง หวังผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และนักลงทุนเกิดความมั่นใจในการใช้กลไกตลาด พร้อมประกาศใช้ข้อกำหนดใหม่อย่างเป็นทางการ 29 มิถุนายน ศกนี้
ดร.นิทัศน์ ภัทรโยธิน รองผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ยางแท่งเอสทีอาร์ 20 (STR 20) เป็นสินค้าลำดับที่ 4 ที่ AFET นำเข้ามาซื้อขายในตลาด เมื่อเดือนกันยายน 2548 เนื่องมาจากการขยายตัวของตลาดยางแท่งที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ ทั้งนี้ ยางแท่ง STR 20 จัดเป็นยางแท่งที่ประเทศไทยส่งออกมากที่สุดประมาณ 80% ของปริมาณการส่งออกยางแท่งทั้งหมด โดยมีประเทศผู้ใช้หลักคือ ประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา และจากการเจริญเติบโตอย่างชัดเจนของตลาดยางแท่ง STR 20 นั้น AFET จึงได้ทำการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้ายางแท่ง STR 20 โดยเป็นการปรับปรุงมาตรฐานให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม และยังปรับปรุงรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนมากขึ้น
การปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้ายางแท่ง STR 20 จะเป็นการปรับปรุงมาตรฐานสินค้าโดยเป็นการยกระดับคุณภาพของสินค้าให้สูงกว่ายางแท่งของประเทศคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย (SIR 20) มาเลเซีย (SMR 20) หรือสิงคโปร์ (SSR 20) โดยมาตรฐานที่ปรับปรุงนี้จะทำให้ AFET เป็นตลาดล่วงหน้าแห่งแรกที่มีการซื้อขายยางมาตรฐานสูง จะส่งผลให้ราคายางแท่งที่ซื้อขายใน AFET เป็นราคาอ้างอิงสำหรับยางมาตรฐานสูงที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศ นับเป็นมิติใหม่ของวงการค้า และการผลิตยางพาราที่จะมีราคาอ้างอิงสำหรับยางชนิดนี้โดยตรง ไม่ต้องอาศัยราคา ยางแท่งชนิดอื่นจากตลาดต่างประเทศ มาคำนวณทางอ้อมเป็นราคาอ้างอิง
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเรื่องการกำหนดโรงงานผู้ผลิตยางแท่ง อันเป็นผลมาจากการหารือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง AFET กับสมาคมยางพาราไทยและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องการให้ข้อกำหนดซื้อขายล่วงหน้ายางแท่ง STR 20 มีมาตรฐานที่ชัดเจน ตอบรับกับสภาวะการผลิตและการใช้งานทางธุรกิจและอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยในเบื้องต้นตลาดได้กำหนด โรงงานที่ตลาดกำหนด (AFET registered STR 20 companies) ไว้ประมาณ 10 ราย อันได้แก่ บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) บริษัท เซาท์แลนด์รีซอร์ซ จำกัด บริษัท ยางไทย ปักษ์ใต้ จำกัด บริษัท ศรีตรัง แอโกรอินดรัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัท อี คิว รับเบอร์ จำกัด บริษัท ไทยเทค รับเบอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท จะนะน้ำยาง จำกัด บริษัท ไทย แมค เอส ทีอาร์ จำกัด และ บริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางแท่ง จำกัด ซึ่งแต่ละรายนั้นถือเป็นผู้ผลิตยางแท่งรายใหญ่ที่สามารถผลิตได้ตามมาตรฐานดังกล่าว เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาใช้กลไกตลาดล่วงหน้า มีความมั่นใจในมาตรฐานสินค้ายางแท่งที่จะส่งมอบและรับมอบใน AFET พร้อมกันนี้ AFET ยังได้ทำการการปรับปรุงเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำการส่งมอบและรับมอบในเขตกรุงเทพมหานครได้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำธุรกิจมากขึ้น โดยกำหนดส่วนลดค่าใช้จ่ายไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการส่งมอบและรับมอบภายในประเทศสามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปหักออกจากราคา FOB กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายภายในประเทศ สามารถใช้ประโยชน์จากตลาด AFET มากขึ้น” ดร.นิทัศน์ กล่าวเสริม
AFET เชื่อมั่นว่าการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ยางแท่ง เอส ที อาร์ 20 (STR 20) ดังกล่าวนั้น นอกจากจะทำให้องค์ประกอบของตลาดล่วงหน้ามีความสมบูรณ์ สอดรับกับตลาดจริงที่มีทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้นแล้ว ยังจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ สามารถใช้ ตลาด AFET เป็นเครื่องมือในการ
ป้องกันความเสี่ยง ในขณะที่นักลงทุนยังสามารถอาศัยการเปลี่ยนแปลงของราคายางที่มีความผันผวนมากอยู่ในขณะนี้ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อีกด้วย ” ดร.นิทัศน์ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการส่วนการประชาสัมพันธ์
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)
โทรศัพท์ 0- 2263-9827
มือถือ : 0-15614745
โทรสาร : 0-26853345
หรือ e-mail : arisara@afet.or.th