กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยพร้อมด้วยกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเข้าพบและยื่นหนังสือต่อนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สนับสนุนให้ ก.ล.ต. พิจารณาอนุญาตให้บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้นต่อประชาชนในประเทศและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
“บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ บริษัทมียอดขาย 90,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นร้อยละ 1 ของ GDP และบริษัทจ่ายภาษีให้รัฐเป็นเงิน 50,000 ล้านบาทต่อปี หรือร้อยละ 5 ของรายได้ภาษีทั้งหมดของรัฐ ซึ่งรัฐได้นำเงินภาษีใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในส่วนของบริษัทมีการดำเนินงานโดยให้ความร่วมมือสนับสนุนนโยบายของรัฐในการรณรงค์ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนบริจาคเงินสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมมาโดยตลอด
การที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เสนอขายหลักทรัพย์และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สิงคโปร์ย่อมมีผลกระทบในด้านลบต่อตลาดทุนไทย ทั้งในแง่ของการสูญเสียมูลค่าตลาดประมาณ 200,000 ล้านบาท รายได้ในธุรกิจหลักทรัพย์อีกประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี และโอกาสในการลงทุนของคนไทยซึ่งมีผลต่อประโยชน์ที่ควรได้จากเงินปันผลหรือราคาของหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น” ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยกล่าว
คณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยตระหนักถึงข้อเสียหรือโทษของการดื่มแอลกอฮอล์เกินสมควร ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ การเกิดอุบัติเหตุและการก่ออาชญากรรม อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อเท็จจริงหรือความสัมพันธ์ที่จะแสดงให้เห็นว่า การเข้าจดทะเบียนของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จะทำให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น การแก้บัญหาที่ถูกต้องควรกระทำโดยรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ และให้มีการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง
การชะลอการพิจารณาการอนุญาตให้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในประเทศไว้ก่อนจนกว่าจะมี พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ย่อมไม่เป็นธรรมต่อบริษัท ซึ่งได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายและกฏเกณฑ์ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน และหากพิจารณาประกอบกับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ของบริษัทเพื่อขยายกิจการในตลาดใหม่ในต่างประเทศ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันกับผู้ประกอบการในระดับโลกที่ขยายตลาดเข้ามาในประเทศไทยตามระบบเศรษฐกิจเสรี ซึ่งเท่ากับเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทต่างประเทศ แทนที่จะส่งเสริมบริษัทของคนไทย
“พวกเราในฐานะผู้นำขององค์กรในสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ขอให้กำลังใจและสนับสนุนคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาอนุญาตให้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สามารถเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในประเทศ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ” ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวในตอนท้าย
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ประกอบด้วยสมาคมต่างๆ ในตลาดทุน ได้แก่ สมาคมบริษัทจดทะเบียน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และองค์กรตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ เป็นประธาน และนายกสมาคมทั้ง 5 สมาคมเป็นรองประธาน--จบ--