กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ฮานี อาบู-อัสซาด ผู้กำกับชาวปาเลสไตน์ เจ้าของหนังเรียกร้องสันติภาพเรื่องดังแห่งปี Paradise Now ยอมรับว่า เป็นความคิดที่บ้ามากที่เลือกพื้นที่สุ่มเสี่ยงอย่างเมืองนาบลัส เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำของหนังเรื่องนี้
อาบู-อัสซาดไม่ใช่พวกรั้นหัวชนฝา ทว่าเขายืนกรานว่า เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถ่ายหนังกันที่นั่น เพราะบรรยากาศที่คุกรุ่นด้วยควันปืนและความรุนแรงรายรอบของนาบลัส มีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่สามารถจำลองแบบหรือทำขึ้นใหม่ให้เหมือนของจริงได้เลย
อย่างไรก็ตาม อาบู-อัสซาดอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า การถ่ายทำในนาบลัสจะสร้างความยุ่งยากให้ทีมงานถึงเพียงนี้ “เรามีปัญหากันทุกวัน” อาบู-อัสซาดยอมรับ “ชาวปาเลสไตน์ติดอาวุธบางคนไปเอาข้อมูลมาจากไหนไม่ทราบ ถึงได้คิดว่าเรากำลังทำหนังที่มีเนื้อหาต่อต้านปาเลสไตน์ ขณะเดียวกันก็มีบางกลุ่มที่สนับสนุนหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่าหนังของเรามีเป้าหมายในการต่อสู้และเรียกร้องประชาธิปไตยให้ปาเลสไตน์”
หนักข้อกว่านั้นก็คือ อาบู-อัสซาดเล่าว่า มีชาวปาเลสไตน์ติดอาวุธกลุ่มหนึ่งคิดว่า Paradise Now นำเสนอภาพมือระเบิดพลีชีพไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริง “พวกเขาเดินมาหาเราพร้อมอาวุธครบมือ และบอกให้เราหยุดถ่ายทำทันที”
ฮานี อาบู-อัสซาด พาตัวเองและทีมงานรอดจากเหตุการณ์วันนั้นมาได้ และเดินหน้าถ่ายทำต่อเพราะเชื่อมั่นสุดหัวใจว่า สิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้องที่สุด กระนั้นเขาก็ยังต้องประสบปัญหาอีกไม่น้อย เมื่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกวี่ทุกวันในนาบลัส ทำให้เขาต้องสั่งพักกองกลางคันเป็นประจำ “เราต้องหยุดถ่าย และรอจนกระทั่งการปะทะสิ้นสุด” อาบู-อัสซาดเล่า
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นและกำลังใจที่ดีเยี่ยมของอาบู-อัสซาด ท้ายที่สุดกลับไม่สามารถเหนี่ยวรั้งทีมงานบางส่วนให้อยู่กับเขาและหนังเรื่องนี้จนกระทั่งจบ
“สถานที่ที่เราถ่ายทำอยู่ใกล้จุดที่เป็นเป้าหมายการโจมตีมากเกินไป และเราก็เห็นกับตาว่าสถานการณ์เลวร้ายลงทุกวัน…ตอนนั้นเราถ่ายกันไปได้ราว 20 วัน…ขีปนาวุธลูกหนึ่งของอิสราเอล ลอยมาตกที่รถคันหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกองถ่ายเท่าไรนัก”
วันรุ่งขึ้น ทีมงานชาวเยอรมัน 6 คนก็เดินมาบอกอาบู-อัสซาดว่า พวกเขาขอลาออก และต้องการไปให้พ้นจากที่นั่นเดี๋ยวนั้นทันที
อาบู-อัสซาดตอบรับคำขอของเพื่อนร่วมงานทั้ง 6 อย่างเข้าอกเข้าใจ “ผมไม่โทษพวกเขาหรอก” เขากล่าวภายหลังพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “พวกเขาทำถูกแล้ว เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ชีวิตย่อมต้องสำคัญกว่าการทำหนังอยู่แล้วละคุณ”
หลังทีมงาน 6 ชีวิตจากไป ฮานี อาบู-อัสซาดยังคงปลุกปลอบให้กำลังใจทีมงานที่เหลือให้ทำงานกันต่อ…อย่าท้อถอย จนกระทั่งคืนหนึ่ง…
“เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในบริเวณเดียวกับที่เราถ่ายทำ” อาบู-อัสซาดเท้าความถึงเหตุรุนแรงครั้งนั้น ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คน แม้ทั้งสามจะไม่ใช่ทีมงานของหนัง แต่นั่นก็ทำให้อาบู-อัสซาดตระหนักว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว นอกจากเดินทางออกจากนาบลัสเสียโดยพลัน แล้วย้ายไปถ่ายทำกันต่อที่เยรูซาเลมแทน
แน่นอน คงไม่มีใครกล่าวหาว่าฮานี อาบู-อัสซาดใจเสาะหรือถอดใจเร็วเกินไปที่ตัดสินใจออกจากนาบลัสทั้งที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จสิ้น เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ท้ายที่สุดมันก็อย่างที่เขาเคยกล่าวไว้…การรักษาชีวิตไว้ย่อมต้องสำคัญกว่าการทำหนังอยู่แล้ว เชิญพบกับ Paradise Now หนังที่ทีมงานเสี่ยงชีวิตถ่ายทำมาให้ท่านได้ชม
25 พฤษภาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์ ‘ลิโด’ และ house เท่านั้น