กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--บีฟิท
ผู้บริหารและ ที่ปรึกษาฯ มั่นใจหุ้น BSEC เข้าเทรดวันแรก 22 พ.ย.นี้ สามารถ ยืนเหนือจองที่ 4.20 บาท/หุ้นได้แน่ ตามสภาวะตลาดฯที่เอื้ออำนวยในช่วงนี้ ที่สำคัญคือ บล.บีฟิท มีปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแข็งแกร่งและราคาไอพีโอมีส่วนลดเพียบ ส่วนประเด็นเรื่อง 4 นักลงทุนรายใหญ่ที่แปลงสภาพหุ้นกู้ด้อยสิทธิเป็นหุ้นสามัญ ยืนยันไม่มีผลกระทบเพราะไม่สามารถขายได้แม้แต่หุ้นเดียวในช่วงเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา
นายสุวิช รัตนยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน)(BSEC) เปิดเผยถึงการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรกของหุ้น BSEC ว่ามีความมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นไปยืนเหนือราคาจองที่ 4.20 บาท ได้อย่างแน่นอน จากภาวะการซื้อขายของตลาดหุ้นในปัจจุบันคึกคักอย่างมาก ในขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนในประเทศ ในขณะเดียวกัน มีการประเมินว่าสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทย จะคึกคักต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2550 ดังนั้นคาดว่าหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นพิเศษ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเข้าซื้อขายของหุ้น BSEC ในวันที่ 22 พ.ย.2549
เขากล่าวอีกว่า นอกจากปัจจัยแวดล้อมจะเอื้ออำนวยแล้ว ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเองก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ โดย BSEC ถือเป็นบริษัทหลักทรัพย์มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในบางช่วงธุรกิจจะชะลอตัวและมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แต่กลับไม่มีผลกระทบกับ BSEC จึงคาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หุ้นของบริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีนักลงทุนรายใหญ่ 4 ราย ได้เข้ามาถือหุ้นใน BSEC โดยการใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้ด้อยสิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ(Convertible Debenture : CD)จำนวน 199.995 ล้านหุ้น มีราคาแปลงสภาพที่ 1.477 บาท/หุ้น นั้น ขอยืนยันว่าแม้นักลงทุนทั้ง 4 รายจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าราคาไอพีโอ แต่หุ้นจำนวนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเข้าซื้อขายหุ้นบนกระดานของ BSEC อย่างแน่นอน เนื่องจากหุ้นจำนวนดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขการห้ามขายหลักทรัพย์ของบริษัท (Silent Period) ภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งระยะเวลา Silent Periodดังกล่าวจะแตกต่างจากปกติทั่วไป คือนักลงทุนทั้ง 4 รายไม่สามารถที่จะนำหุ้น BSEC ออกมาขายได้แม้แต่หุ้นเดียวจนกว่าจะครบระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2549 (นักลงทุนทั้ง 4 รายจะสามารถนำหุ้น BSEC จำนวน 199.995 ล้านหุ้น ออกมาขายได้หลังวันที่ 30 ตุลาคม 2551)
ด้านนางสาวโสภา นนทนานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด หรือ SCIBSในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BSEC มั่นใจว่าหุ้นจะซื้อขายเหนือราคาจองได้อย่างแน่นอน เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งจากภาวะตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง และความสนใจในกลุ่มหลักทรัพย์ของนักลงทุน และประการสำคัญคือการกำหนดราคาไอพีโอที่ 4.20 บาท/หุ้น เป็นราคาที่ให้ส่วนลดกับนักลงทุนในอัตราสูงอยู่แล้ว
"ช่วงนี้ภาวะตลาดหุ้นคึกคัก volume ซื้อขายหนาแน่น ดังนั้น ไม่น่าเป็นห่วง ดังนั้นเชื่อว่าหุ้น BSEC จะยืนเหนือจองได้แน่ เพราะลำพังบริษัทเองก็มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้อยู่แล้ว เมื่อรวมกับ ภาวะตลาดฯที่เอื้ออำนวยและการกำหนดราคา IPO ที่ให้ส่วนลดมาก ก็เลยไม่มีอะไรน่าห่วง”ที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ณัฐพงษ์ ใจแกล้ว
02-5549394-96
081-4010226