ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ “ไฮเวย์” เท่าเดิมที่ “BBB+/Stable”

ข่าวทั่วไป Tuesday February 7, 2006 08:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกัน (HWAY069A) ของ บริษัท ไฮเวย์ จำกัด ที่ระดับ “BBB+” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาดในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของบริษัทในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากบริษัทแม่ คือ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกค้าของบริษัท ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ การขาดทุนจากการขายรถยึดที่เพิ่มสูงขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ ความ
ไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจอาจกระทบต่อความสามารถในการชำระค่างวดของลูกค้าซึ่งจะกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในที่สุด
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถดำรงความสามารถในการทำกำไรในระดับสูงและโครงสร้างเงินทุนที่เพียงพอได้ต่อไป อีกทั้งจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากบริษัทแม่คือธนาคารทิสโก้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เอาไว้ได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทไฮเวย์เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 23% ในปี 2547 เป็น 25% ในปี 2548 สินเชื่อรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 1,236 ล้านบาทในปี 2546 เป็น 2,086 ล้านบาทในปี 2547 และ 2,403 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ความสามารถในการกำไรในระดับสูงของธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ได้ดึงดูดให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์สนใจเข้าสู่ธุรกิจนี้ และเพื่อที่จะรักษาสถานะทางการตลาดไปพร้อมกับการช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งที่อ่อนแอกว่า บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกโดยการลดอัตราดอกเบี้ยที่คิดกับลูกค้าและเสนอค่าคอมมิชชั่นที่ดียิ่งขึ้นแก่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อที่ค้างชำระมากกว่า 3 เดือน และสินเชื่อที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมาย) ต่อสินเชื่อรวมเฉลี่ยในช่วงปี 2548 เกิดจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อใหม่จำนวนมากในปี 2547 จนถึงกลางปี 2548 โดยอัตราส่วนได้เพิ่มขึ้นจาก 11.7% ณ สิ้นปี 2547 เป็น 13.4% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 นอกจากนี้ การขยายตัวอย่างมากของสินเชื่อในปีที่ผ่านมาและการเปลี่ยนแปลงรุ่นรถจักรยานยนต์บ่อยครั้งได้ส่งผลให้มีจำนวนรถยึดคืนและรถมือสองออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาในตลาดของรถจักรยานยนต์มือสองได้ตกลงและส่งผลให้เกิดการขาดทุนจากการขายรถยึดมากขึ้น โดยการขาดทุนจากการขายรถยึดเฉลี่ยได้กลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8,600 บาทต่อคันสำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2548 หลังจากที่ลดลงมาอยู่ที่ 5,800 บาทต่อคันในปี 2547 จาก 8,000 บาทต่อคันในปี 2546 ปัจจัยลบต่างๆ เหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทแม้ว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการทางการเงินประเภทอื่นๆ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยของบริษัทลดลงจาก 9.7% ในปี 2546 เป็น 6.2% ในปี 2547 และ 5.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทไฮเวย์มีสถานภาพเป็นบริษัทลูกของธนาคารทิสโก้ซึ่งได้ยกระดับมาจากบริษัทเงินทุนชั้นนำสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์เมื่อกลางปี 2548 โดยธนาคารทิสโก้มีการตรวจสอบและติดตามแผนธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างสม่ำเสมอโดยใช้มาตรฐานการปฏิบัติเหมือนกับธนาคาร โครงสร้างของกลุ่มทิสโก้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 โดยการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้นเพื่อถือหุ้นของธนาคารและบริษัทลูกทั้งหมด ธนาคารทิสโก้จะสามารถขยายวงเงินสินเชื่อให้แก่บริษัทในกลุ่มของตนเอง ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารทิสโก้--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ