F5 เปิดตัว บิ๊ก-ไอพี 8800 แพลตฟอร์มเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันที่เร็วที่สุด

ข่าวทั่วไป Monday April 23, 2007 14:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
บิ๊ก-ไอพี รุ่นใหม่ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์แพลตฟอร์ม ผสานด้วย TMOS ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้ระบบได้เหนือกว่าคู่แข่งอันดับรอง คิดเป็นกว่า 2 เท่า ในขณะที่มีต้นทุนการครอบครองระบบลดลง ; พร้อมกระชับกระบวนการพัฒนา ทดสอบ และขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน ด้วย เวอร์ชวลไลเซชัน (virtualization)
F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชั่น เปิดตัวซอฟต์แวร์ชั้นนำ บิ๊ก-ไอพี (BIG-IP) รุ่นล่าสุด พร้อมกับแพลตฟอร์มสมรรถนะสูง บิ๊ก-ไอพี 8800 (BIG-IP 8800) โดยโซลูชันใหม่เหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถควบรวมงานด้านการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันในรูปแบบต่างๆ เอาไว้ได้ภายใต้แพลตฟอร์มหนึ่งเดียว ซึ่งมีความสามารถทั้งในด้านการสร้าง การทดสอบ และการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันในลักษณะโครงข่าย ทำให้ลูกค้ามีต้นทุนในการจัดซื้อระบบและต้นทุนการปฏิบัติการที่ต่ำกว่า และนำไปสู่ต้นทุนรวมในการครอบครอง (TCO) ระบบเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันที่ประหยัดที่สุด
"8800 เป็นสวิทช์ (switch) แอพพลิเคชันความสามารถสูงที่ช่วยให้ แซนโก (Zango) ของเราจัดการกับการเติบโตทางธุรกิจและควบคุมต้นทุนได้สะดวกกว่า" โดวก์ แฮนฮาร์ท หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศของ แซนโก บริษัทด้านสื่อออนไลน์ กล่าว "เรามีลูกค้าที่บอกรับเข้าเป็นสมาชิกรวมกว่า 20 ล้านราย และมีผู้ใช้รายใหม่แต่ละวันกว่า 200,000 ราย ที่ต้องการบอกรับข้อมูลออนไลน์จากเรา ด้วยปริมาณความคับคั่งดังกล่าวและอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้น บิ๊ก-ไอพี 8800 ได้ช่วยให้เราสามารถควบรวม บิ๊ก-ไอพี หลายๆ หน่วยเข้าไว้ได้ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้จัดการต้นทุนและบริหารงานได้ดีกว่า ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยหากเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นในตลาด"
โซลูชันระบบเครือข่ายในการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันที่ทำงานเร็วที่สุด
วันนี้ลูกค้าสามารถใช้อุปกรณ์ขับเคลื่อนแอพพลิเคชันเพื่อจัดการกับงานบนเลเยอร์ 7 ได้แล้ว ตัวอย่างเช่น การประมวลผล SSL การบีบอัดข้อมูลและการสวิชต์ทราฟิก (traffic switching) สำหรับข้อมูลส่วนต้นของ URI เป็นต้น โดย บิ๊ก-ไอพี เวอร์ชัน 9.4 ล่าสุด ที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม บิ๊ก-ไอพี 8800 สามารถให้ความเร็วได้มากกว่าคู่แข่งอันดับรองกว่า 2 เท่า สำหรับสมรรถนะบนเลเยอร์ 7 ไม่ว่าจะเป็น:
- ให้อัตราการรับส่งข้อมูลบน L7 ได้สูงสุดที่ 8 กิกะบิตต่อวินาที
- ให้อัตราการเข้ารหัสด้วย SSL ที่ความเร็วสูงสุด 6 กิกะบิตต่อวินาที
- สามารถรองรับจำนวนรายการธุรกรรมแบบ SSL ได้สูงสุดถึง 48,000 รายการต่อวินาที
- ให้อัตราการบีบอัดข้อมูลได้สูงสุดที่ 6 กิกะบิตต่อวินาที
โดย F5 ได้บรรลุสมรรถนะชั้นนำเหล่านี้ด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงหลายประเภท:
- เป็นรายแรกที่รองรับคลัสเตอร์มัลติโพรเซสซิ่ง (clustered multiprocessing) ผ่านเทคโนโลยี TMOS ของ F5 ซึ่งเพิ่มสมรรถนะได้กว่า 10 เท่าบนโพรเซสเซอร์แบบเดี่ยวและโซลูชัน ADC แบบแกนเดียว
- เทคโนโลยี แพ็กเก็ต เวโลซิตี้ เอเอสไอซี 10 (PVA10 - Packet Velocity ASIC 10) เฉพาะของ F5 สามารถปกป้องการโจมตีแบบ DDOS ได้ในอัตราสูงสุดถึง 7.4 ล้านรายการต่อวินาที (คิดเป็น 3 เท่าของความสามารถของคู่แข่งอันดับรอง) ในขณะที่ยังคงสามารถให้บริการการเชื่อมต่อระบบได้ตามปกติ
- เทคโนโลยีการบีบอัด ASIC ล่าสุด ที่ช่วยเพิ่มอัตราการรับส่งข้อมูลให้เร็วขึ้น และให้อัตราการบีบอัดข้อมูลที่เหนือกว่า เพื่อลดโหลดการทำงานและเร่งขับเคลื่อนแอพพลิเคชันสำหรับองค์กร
"ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสถาปัตยกรรมสำหรับแอพพลิเคชันและโปรโตคอลรูปแบบใหม่ รวมไปถึงการก้าวเข้าสู่ยุค SOA และโครงสร้างพื้นฐานระบบแบบเรียลไทม์ ทำให้องค์กรต้องเร่งเสริมเทคโนโลยีด้านระบบเครือข่ายชั้นสูง" โจ สโกรูปา รองประธานฝ่ายวิจัยบริการและโครงสร้างพื้นฐานบนเครือข่ายระดับองค์กร ของ การ์ทเนอร์ อิงก์ กล่าว "สถาปนิกที่ออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์และนักพัฒนาแอพพลิเคชันควรให้ความสนใจกับเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ เช่น การเพิ่มสมรรถนะของการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันที่ออกแบบให้การพัฒนาและติดตั้งแอพพลิเคชันทำได้สะดวกกว่า ในขณะที่สามารถลดต้นทุนและความซับซ้อนลงไปได้ในตัวด้วย"
กระชับกระบวนการพัฒนา ทดสอบ และขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน ด้วย เวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization)
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ F5 ครั้งนี้ได้ช่วยเสริม TMOS ในด้านความสามารถในการสร้างเวอร์ชวลไลเซชันบนระบบให้กับพาร์ทิชัน (partitions) และโดเมนระดับจัดการ (administrative domains) ซึ่งช่วยให้องค์กรและผู้ให้บริการสามารถรองรับหน่วยงานทางธุรกิจและลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผลมากกว่าภายใต้อุปกรณ์หนึ่งเดียว ที่ช่วยประหยัดทั้งต้นทุนและค่าดูแลจัดการ โดยเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถแจกจ่ายสิทธิ์การตั้งค่าบนเครือข่ายระดับจำกัดให้แก่ผู้ใช้ที่ไม่สามารถกำหนดค่าเหล่านี้ได้ในอดีต เพื่อให้การทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันและการจัดการด้านความปลอดภัยสามารถทำได้และบีบวงผลกระทบให้คลุมเฉพาะตัวผู้ใช้เท่านั้น นั่นหมายถึงว่า บริษัทและองค์กรทั่วไปจะติดตั้งระบบขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้เร็วและแม่นยำกว่า
"ในขณะที่ปริมาณข้อมูลบนระบบคับคั่งมากขึ้นอันเนื่องมาจากเว็บแอพพลิเคชัน เสียง โทรทัศน์ผ่านไอพี อีเมล์ อีเมล์ขยะ ฯลฯ รวมไปถึงความจำเป็นในการควบรวมระบบ ทำให้ลูกค้าของเราต้องการแพลตฟอร์มสำหรับขับเคลื่อนแอพพลิเคชันที่เร็วและฉลาดมากขึ้น" นายพิชัยวุฒ ประพุทธนิติสาร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท F5 เน็ตเวิร์กส์ อิงค์ กล่าว "บิ๊ก-ไอพี รุ่นล่าสุด ได้ให้อัจฉริยภาพของแอพพลิเคชันบนระบบเครือข่ายที่มาพร้อมสมรรถนะของพร็อกซี่ (proxy) ชั้นนำผ่าน TMOS นอกจากนี้ บิ๊ก-ไอพี ยังช่วยให้การติดตั้งแอพพลิเคชันเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยการขยายเพิ่มการติดต่อสื่อสารร่วมกันระหว่างเครือข่ายและกลุ่มแอพพลิเคชันโดยผ่านเวอร์ชวลไลเซชัน และมีรูปแบบการติดตามแอพพลิเคชันและโปรโตคอลเฉพาะทาง"
กำหนดการวางจำหน่าย
ซอฟต์แวร์ บิ๊ก-ไอพี เวอร์ชัน 9.4 และฮาร์ดแวร์แพล็ตฟอร์ม บิ๊ก-ไอพี 8800 พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ โดยซอฟต์แวร์ใหม่ดังกล่าวทำงานได้บนแพลตฟอร์มบิ๊ก-ไอพี รุ่นใหม่ได้ สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ F5 สามารถอัพเกรดมาเป็นเวอร์ชัน 9.4 ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หากได้ทำสัญญาการบำรุงรักษาระบบกับ F5
ข้อมูลเกี่ยวกับ F5 เน็ตเวิร์กส์
F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชั่น ที่นำเสนอโซลูชันที่จะช่วยให้การทำงานของแอพพลิเคชันต่างๆ ในองค์กรเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และพร้อมให้บริการตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้แก่องค์กร ด้วยการเสริมระบบจัดการอันชาญฉลาดให้แก่ระบบเครือข่าย ทำให้แอพพลิเคชันต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและใช้ทรัพยากรระบบน้อยลง นอกจากนี้โซลูชันจาก F5 ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานและปกป้องแอพพลิเคชันและระบบเครือข่าย พร้อมเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบโดยรวม ปัจจุบันมีองค์กรและผู้ให้บริการต่างๆ ทั่วโลกกว่า 10,000 รายที่มอบความเชื่อใจให้กับ F5 เพื่อช่วยดูแลการทำงานของแอพพลิเคชันในองค์กร ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ F5 อยู่ที่ซีแอตเติล วอชิงตัน และมีสำนักงานขายกระจายอยู่ทั่วโลก หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเรียกดูได้จากเว็บไซต์ www.f5.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
คุณจารุณี สินชัยโรจน์กุล 02-655-6633, 081-488-8442 jarunee@apprmedia.com
คุณบุษกร ศรีสงเคราะห์ 02-655-6633 / 081-911-0931 busakorn@apprmedia.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ