กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ตั้งทวีศักดิ์ เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ เร่งเติบโตรายได้ ขยายส่วนแบ่งตลาดเต็มสปีด
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (NYSE: HIT) ประกาศแต่งตั้ง นายทวีศักดิ์ แสงทอง เพื่อดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยนำพาประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญกว่า 17 ปีด้านการบริหารและการขายในแวดวงไอที มาช่วยผลักดันและขยายการเติบโตของธุรกิจเอชดีเอสในเมืองไทย
ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของเอชดีเอสในประเทศไทย นายทวีศักดิ์จะช่วยเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ โดยอาศัยการบริหารจัดการที่ผสมผสานทั้งในส่วนของงานขาย การนำเสนอโซลูชั่น กลยุทธ์ด้านช่องทางจำหน่าย และการบริการลูกค้า
“การแต่งตั้งผู้จัดการประจำประเทศไทยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอสดีเอสในตลาดเมืองไทย และยังเป็นเสริมศักยภาพในส่วนของโปรแกรม ทรูนอร์ท ซึ่งเป็นโปรแกรมด้านพันธมิตรช่องทางจำหน่าย (TrueNorth Channel Partner Program) ซึ่งผมมั่นใจว่าทวีศักดิ์จะช่วยสร้างสถานะภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งให้เอชดีเอส ได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรธุรกิจของเรา เพื่อช่วยให้องค์กรในเมืองไทยในทุกขนาดธุรกิจ ได้รับผลประโยชน์ระดับสูงจากโซลูชั่นรวมด้านสตอเรจที่ล้ำหน้าของเอชดีเอส” นายเดวิด หยวน รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าว
“สิ่งแรกที่ผมจะทำคือ การขยายส่วนแบ่งของเอชดีเอสในตลาด ซึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับสูงของฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เช่น ฮิตาชิ แทกมาสตอร์ ยูนิเวอร์แซล สตอเรจ แพลทฟอร์ม (Hitachi TagmaStore? Universal Storage Platform) และเป็นพื้นฐานสำหรับชุดโซลูชั่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่น (Application Optimized StorageTM Solution) จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารระบบโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูลได้อย่างสิ้นเชิง ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสนำทีมในการบุกตลาดที่มีการเติบโตสูง โดยอาศัยข้อได้เปรียบทางการตลาดที่เรามี” นายทวีศักดิ์ แสงทอง ผู้จัดการประจำประเทศไทย กล่าว
จากรายงานของไอดีซี พบว่า ในปี 2548 งบใช้จ่ายด้านไอทีในประเทศไทย จะมีการเติบโตสูงถึง 11% ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาทโดยจะมีการลงทุนในเรื่องของระบบโครงสร้างพื้นฐานซึ่งรวมถึงระบบสตอเรจ มากเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนอันดับสองได้แก่ ในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ตามด้วยระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (ซีอาร์เอ็ม) เป็นอันดับสาม นอกจากนี้ไอดีซียังได้รายงานถึง การคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตของตลาดสตอเรจที่เชื่อมต่อจากภายนอก ทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 7% ต่อปี ซึ่งหมายความว่า การใช้จ่ายในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 2,480 ล้านบาทภายในปี 2550 จากมูลค่าปัจจุบันในปีนี้ที่ 2,160 ล้านบาท ซึ่งตลาดที่มีการเติบโตที่สูงสุดได้แก่ SAN (Storage Area Networks), NAS ( Network Attached Storage ) ซอฟท์แวร์สตอเรจ แรพพลิเคชั่น และซอฟท์แวร์การบริหารจัดการทรัพยากรสตอเรจ รวมถึงตลาดวินโดว์และลีนุกซ์
“จากสภาพธุรกิจในปัจจุบัน บ่งชี้ให้เห็นว่า บริษัทต่างๆ จำต้องอาศัยข้อมูลที่มีอยู่มาช่วยในพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งความต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลมีอัตราสูงขึ้น และทำให้บริษัทต่างมองหาโซลูชั่นสตอเรจที่ให้การทำงานที่สอดคล้องและลงตัวระหว่างระบบโครงสร้างสตอเรจ และแอพพลิเคชั่นธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจในภาพรวมทั้งหมดได้ในที่สุด” นายเดวิด กล่าวเสริม
“เราเป็นผู้นำการปฏิวัติวงการสตอเรจ ที่นำเสนอเทคโนโลยีที่ให้ความสามารถในการควบคุมการทำงานได้เสมือนจริง และเป็นความสามารถที่มีอยู่ใน แพลทฟอร์ม ยูนิเวอร์แซลสตอเรจ แทกมา สตอร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้กลยุทธ์โซลูชั่นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพสตอเรจ (Application Optimized Storage) การแต่งตั้งทวีศักดิ์ และความมุ่งมั่นในการทำตลาดของตลาดประเทศไทย โดยการร่วมมือกับพันธมิตรของเรา จะช่วยให้เราสามารถเติบโตในตลาดเมืองไทยซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง” นายเดวิด กล่าวสรุป
ก่อนร่วมงานกับฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ นายทวีศักดิ์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ซและพันธมิตร บริษัทไมโครซอฟท์ โดยมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบด้านกิจกรรมทางธุรกิจในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซทั้งหมดของบริษัทฯ และก่อนหน้านั้น นายทวีศักดิ์เคยดำรงตำแหน่งระดับบริหารหลายตำแหน่งให้กับบริษัท แอมดอกซ์ บริษัท คอมแพค และบริษัท เคิร์ท ซาลมอน แอสโซซิเอทส์
นายทวีศักดิ์ สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้านการบริหารจัดการวิศวอุตสาหกรรม จากสถาบันเอไอที และปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เกี่ยวกับ Application Optimized StorageTM
Application Optimized StorageTM คือแพลทฟอร์มโซลูชั่นที่ผสมผสานการทำงานของฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และการบริการเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจได้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานด้านแอพพลิเคชั่นธุรกิจ ได้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ด้านไอทีและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ทั้งในแง่ของราคา ประสิทธิภาพการทำงาน ความพร้อมในการใช้งาน รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงาน
เกี่ยวกับ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทยราวปี 2546 ลูกค้าหลักของฮิตาชิในประเทศไทย ได้แก่ เอไอเอส ธนาคารกรุงไทย บริษัท กสท โทรคมนาคม และ ดีแทค
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ นำทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาที่มีอยู่ทั่วโลก มาใช้ในการพัฒนาโซลูชั่นระบบบริหารการจัดเก็บข้อมูล ที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่ให้ประสิทธิภาพ ความต่อเนื่อง และความสามารถในการรองรับการขยายระบบงาน เพื่อช่วยลูกค้าคืนทุนสูงสุดแก่ธุรกิจ อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ การนำเสนอฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และการบริการที่ดีที่สุดจากฮิตาชิและพันธมิตรของเรา สืบเนื่องมาจากการที่เรามุ่งเน้นให้ความใส่ใจในมุมมองของลูกค้าเป็นหลัก จึงทำให้เราสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าจากการที่เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
ด้วยบุคลากรจำนวน 2,900 คน ฮิตาชิได้ดำเนินธุรกิจทั้งด้านการขายตรงและขายผ่านช่องทางจำน่าย ให้แก่ลูกค้าในองค์กรภาครัฐและเอกชนในกว่า 170 ประเทศ โดยกว่า 50% ของลูกค้าของฮิตาชิเป็นองค์กรในทำเนียบฟอร์จูน 100 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซท์ www.hds.com
เกี่ยวกับ ฮิตาชิ จำกัด
ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก คือ HIT) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ชั้นนำ โดยมีบุคลากรประมาณ 326,000 คนทั่วโลก บริษัทฯ มีรายได้ประจำปีงบประมาณ 2003 (สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 เดือนมีนาคม 2004) จากยอดขายเป็นมูลค่า 8,632.4 พันล้านเยน (81.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ) บริษัทฯ นำเสนอผลิตภัณฑ์ ระบบงานและการบริการที่กว้างขวาง ครอบคลุมหลายภาคธุรกิจในตลาด ได้แก่ ระบบสารสนเทศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟฟ้าและอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค บริการด้านการเงินและวัสดุต่างๆ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.hitachi.com
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
จารุณี สินชัยโรจน์กุล
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
โทร 02-655-6633, แฟกซ์ 02-655-3560
มือถือ 01-488-8442 อีเมล์ Jarunee@apprmedia.com
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--