จีอี มันนี่ปรับโครงสร้างใหม่มุ่งสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมเผยแผนธุรกิจปี 2550

ข่าวทั่วไป Tuesday February 27, 2007 16:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--บางกอกพีอาร์
แต่งตั้ง ‘ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด’ และ ‘ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย’
ปรับศูนย์บริการ 70 แห่งทั่วประเทศให้เป็น ‘วันสต็อปชอป’ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อความสะดวกในการรับบริการของลูกค้า
ตั้งสำนักงานระดับภูมิภาค 4 แห่ง เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการประมวลใบสมัครและพิจารณาอนุมัติ
ตั้งเป้าเติบโต 10% ในปี 2550
วันนี้ จีอี มันนี่ ประเทศไทย ได้ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรใหม่โดยเพิ่มตำแหน่งระดับบริหารใหม่ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย สำหรับธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในส่วนที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการให้บริการ
นายพิริยะ วิเศษจินดา ประธานจีอี มันนี่ ประเทศไทยกล่าวว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ประกาศแต่งตั้ง มร. ฟิลลิป ตัน ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด และนายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย โดยมีหน้าที่รับผิดชอบวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายสำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ และสินเชื่อส่วนบุคคลที่จีอี มันนี่ให้บริการ โดยก่อนหน้านี้ แต่ละผลิตภัณฑ์ทางการเงินของจีอี มันนี่ต่างมีผู้บริหารดูแลงานด้านการตลาดและการขายแยกออกจากกันซึ่งอาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการทำงานและการตัดสินใจ”
นายพิริยะกล่าวว่า “จีอี มันนี่ยังได้ปรับช่องทางการให้บริการอันประกอบด้วยศูนย์บริการจำนวน 70 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายที่จีอี มันนี่ให้บริการอยู่ จากเดิมที่มุ่งนำเสนอเพียงหนึ่งผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น เรากำลังอยู่ในระหว่างการปรับจุดบริการควิกแคชบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและในศูนย์การค้าต่างๆ ให้เป็นศูนย์บริการสำหรับทุกผลิตภัณฑ์ที่จีอี มันนี่นำเสนอ”
นอกจากนี้จีอี มันนี่ยังได้เริ่มตั้งสำนักงานในระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนงานประมวลและพิจารณาอนุมัติใบสมัครและงานบริหารความเสี่ยงต่างๆ
“จากเดิมศูนย์บริการแต่ละแห่งจะมีพนักงานรับผิดชอบงานประมวลและพิจารณาอนุมัติใบสมัคร
เราได้รวบรวมงานดังกล่าวไว้ที่สำนักงานระดับภูมิภาคซึ่งตั้งอยู่ในแต่ละภาคไว้เพียงแห่งเดียว โดยเราจะมีสำนักงานระดับภูมิภาคตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานที่ประจำอยู่ตามศูนย์บริการต่างๆ สามารถทำงานด้านการตลาดและการขายได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มความรวดเร็วในการพิจารณาอนุมัติใบสมัครและเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนงานบริหารความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น” นายพิริยะกล่าว
นายพิริยะกล่าวเพิ่มเติมว่า การตั้งสำนักงานระดับภูมิภาค การปรับช่องทางการให้บริการเป็น ‘วันสต็อปชอบ’ และการปรับโครงสร้างใหม่ที่มีผู้บริหารระดับจัดการดูแลวางแผนกลยุทธ์งานทางด้านตลาดและงานด้านการขายนั้นนับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจของจีอี มันนี่ในปี 2550 ที่มุ่งเน้น “การปรับองค์กรและช่องทางในการให้บริการให้เรียบง่าย” เพื่อเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค “อย่างรวดเร็วและประหยัดต้นทุนในการบริหารงาน”
หลังจากการลงทุนเชิงยุทธ์ในธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ เมื่อเร็วๆ นี้ จีอี มันนี่ได้โอนทรัพย์สินและหนี้สินของธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย ซึ่งประกอบด้วย เงินฝาก สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันให้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังได้โอนธุรกิจสินเชื่อรถยนต์สำหรับรถใหม่ ซึ่งเคยบริหารโดยจีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีส ให้แก่บริษัทอยุธยา แคปปิตอล ลีส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ
ธุรกิจในส่วนที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ที่ปัจจุบันบริหารโดยจีอี มันนี่ ประเทศไทย ได้แก่ สินเชื่อรถยนต์ (สำหรับรถเก่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์) บัตรเครดิต สินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ และสินเชื่อส่วนบุคคล
นายพิริยะกล่าวว่า “ปี 2549 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคต่างได้รับแรงกดดันจากส่วนต่างของผลกำไรที่ลดลงและจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศในการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไปสืบเนื่องจากกฎระเบียบใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น”
“สำหรับในปี 2550 เราคาดว่าธุรกิจในส่วนที่ไม่ใช่ธนาคารของเราจะเติบโตประมาณ 10% ซึ่งในบรรดาธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารของเรานั้น บริการทางการเงินสำหรับรถยนต์ต่างๆ ซึ่งรวมสินเชื่อสำหรับรถเก่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของสินเชื่อที่จีอี มันนี่ปล่อยทั้งหมด ตามมาด้วยธุรกิจบัตรเครดิตคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% และธุรกิจสินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระและสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งต่างมีสัดส่วนอย่างละประมาณ 10% ของมูลค่าสินเชื่อที่จีอี มันนี่ปล่อยทั้งหมด” นายพิริยะกล่าว
จีอี มันนี่ เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคชั้นนำและได้บุกเบิกและพัฒนาธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในไทยมากว่า 10 ปี ธุรกิจของจีอี มันนี่ในไทยประกอบด้วยธุรกิจในส่วนของธนาคาร (bank) และธุรกิจในส่วนที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) โดยในส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารประกอบด้วยบริการสินเชื่อรถยนต์สำหรับรถเก่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ (จีอี มันนี่ คาร์ฟอร์แคช) สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ (จีอี มันนี่ มอเตอร์ไซเคิล เครดิต) บัตรเครดิตต่างๆ (บัตรกรุงศรี จีอี บัตรเซ็นทรัล มาสเตอร์การ์ด
บัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า บัครเครดิตโรบินสัน วีซ่า และบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า) สินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ (จีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยส์และเพาเวอร์บาย) และสินเชื่อส่วนบุคคล (ควิกแคช)
ในเดือนมกราคม 2550 จีอีมันนี่บรรลุการลงทุนเชิงยุทธ์มูลค่า 22,000 ล้านบาทในธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ
ข้อมูลเกี่ยวกับจีอี มันนี่
จีอี มันนี่ เป็นธุรกิจบริการด้านการเงินสำหรับผู้บริโภคในเครือบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค มีสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 163,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบัน จีอี มันนี่ เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อชั้นนำแก่ผู้บริโภค ธุรกิจค้าปลีก และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใน 54 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของจีอี มันนี่ มีหลากหลาย ได้แก่ บัตรเครดิตของธุรกิจค้าปลีก สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคาร สินเชื่อรถยนต์และเช่าซื้อ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย Corporate travel and purchasing card, debt consolidation and home equity loan และการประกันสินเชื่อ สำนักงานใหญ่ของจีอี มันนี่ ตั้งอยู่ที่เมืองสแตมฟอร์ด มลรัฐคอนเนตติกัต สหรัฐอเมริกา
ข้อมูลเกี่ยวกับจีอี
จีอี (NYSE: GE) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ธุรกิจด้านข้อมูลข่าวสาร จนถึงบริการทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ของจีอี ได้แก่ เครื่องยนต์อากาศยาน เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า เทคโนโลยีระบบการกลั่นน้ำ เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย เครื่องมือตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ด้วยภาพ บริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและเชิงพาณิชย์ ธุรกิจข้อมูลข่าวสาร จีอีให้บริการลูกค้าในกว่า 100 ประเทศ และมีพนักงานกว่า 300,000 คนทั่วโลก ท่านสามารถสืบค้นข้อมูลบริษัทเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ge.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ภราไดย ธีระธาดา
ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ประเทศไทย
โทร. +662 627 4102
อีเมล: paradai.theerathada@ge.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

แท็ก แผนธุรกิจ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ