กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (29 มิถุนายน 2548) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท แอคเคลม คอนซัลแท็นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ACI) เพื่อจัดทำ โครงการพัฒนาความสามารถในการคิดสำหรับเยาวชน โดยจะร่วมกันพัฒนาสื่อการสอนสำหรับโครงการฯ อบรมผู้ฝึกสอนเพื่อเป็นผู้สอนให้กับครู อาจารย์ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและมหาวิทยาลัยให้มีความสามารถในการคิด โดยจะดำเนินโครงการในปี 2548 นี้
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับการพัฒนา และออกแบบคู่มือ และสื่อการสอน ซึ่งเน้นให้มีความง่ายต่อความเข้าใจ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ได้ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังสนับสนุนการจัดอบรมให้แก่วิทยากร เพื่อไปอบรมแก่ครูและอาจารย์ของโรงเรียนที่คัดเลือกเข้าในโครงการ
“ในช่วงเริ่มแรกโครงการในปี 2548 นี้ จะเป็นการทดลองใช้คู่มือที่พัฒนา สอนในโรงเรียนนำร่องจำนวน 6 โรงเรียน ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด โดยจะเริ่มกับเยาวชนในระดับมัธยมปลายก่อน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกโรงเรียนเพื่อเข้าโครงการ และประเมินผลการเรียนการสอน ก่อนจะขยายผลไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป
นับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเยาวชนไทย ที่จะได้แนวคิดที่เป็นประโยชน์จากหลักสูตรนี้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต” นายกิตติรัตน์กล่าว
นายอุดม สว่างจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอคเคลม คอนซัลแท็นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ACI) เปิดเผยว่า ทางสถาบัน ACI มีความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดกระบวนการนี้ผ่านหลักสูตรนี้ เพราะการคิดที่เป็นระบบ (Systematic Thinking) เป็นรากฐานการคิดที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงอยู่ และการเติบโตก้าวหน้าที่มั่นคง และสามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้
“การคิดอย่างเป็นระบบเป็นทักษะที่ยิ่งฝึกฝนและนำมาใช้บ่อยครั้งเท่าใดก็จะทำให้สามารถคิดได้ตรงประเด็น เห็นข้อมูลครบถ้วน จัดหมวดหมู่และร้อยเรียงเรื่องต่าง ๆ ได้ดียิ่ง และเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ตั้งแต่วัยก่อนทำงาน หลักสูตรนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ ทั้งนี้ สถาบัน ACI มีประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานตลอดจนให้บริการพัฒนาทรัพยากรบุคคลแก่องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 20 ปี” นายอุดมกล่าว--จบ--