กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--ปภ.
พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน แถลงข่าวสถิติผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2550 ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2549 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 696 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 68 คน บาดเจ็บ 760 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจาก เมาสุรา ร้อยละ 36.64 รองลงมา คือ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 20.98 และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 10.20 ตามลำดับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.36 รองลงมา รถปิคอัพ ร้อยละ 7.02 และรถนั่งส่วนบุคคล ร้อยละ 2.75 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในช่วงทางตรงของถนนนอกเขตทางหลวงแผ่นดิน และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ช่วงกลางคืน เวลา 16.01 - 20.00 น. จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (6 คน) รองลงมา สงขลา (5 คน)ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ กำแพงเพชร ชัยภูมิ เชียงใหม่ และเพชรบูรณ์ (จังหวัดละ 3 คน) จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต มีจำนวน 39 จังหวัด และจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 2 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษและนครปฐม (29 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ สุรินทร์ (24 ครั้ง) ขอนแก่น (23 ครั้ง) นครราชสีมา (20 ครั้ง) ตามลำดับ
ในการเรียกตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร ที่ผ่านมา มีการเรียกตรวจ 1,933,800 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดี จำนวน 34,875 ราย เนื่องจาก ไม่สวมหมวกนิรภัย สูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ขับขี่มอเตอร์ไซด์ ไม่ปลอดภัย และไม่พกพาใบขับขี่ ตามลำดับ ในวันที่สองของช่วง 7 วัน ระวังอันตราย มีการตั้งจุดตรวจ จำนวน 3,025 จุด เฉลี่ย 3 จุดตรวจ/อำเภอ มีเจ้าหน้าที่ประจำเฉลี่ยจุดตรวจละ 28 คน มีเจ้าหน้าที่รวมทั้งหมดทั่วประเทศ 86,241 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หลักประจำจุดตรวจร่วม รองลงมา ได้แก่ สมาชิก อปพร. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตามลำดับ สำหรับการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมู่บ้านและชุมชน ได้มีการตั้งจุดตรวจร่วมประจำตำบล หมู่บ้าน ชุมชน 10,079 จุด และมีการจัดตั้งหน่วยบริการคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ 1,443 จุด มีเจ้าหน้าที่รวม 199,294 คน
จำนวนอุบัติเหตุสะสม 2 วัน (28 — 29 ธันวาคม 2549) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รวม 1,193 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 109 คน น้อยกว่าประมาณการ 22 คน (ลดลงร้อยละ 16.79 คน) ผู้บาดเจ็บ รวม 1,300 คน น้อยกว่าประมาณการ 218 คน (ลดลงร้อยละ 14.36) และพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ (สะสม 2 วัน) มีสาเหตุร่วมกันระหว่างไม่สวมหมวกนิรภัย เมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด จึงได้ข้อสั่งการพิเศษให้เข้มงวด การตรวจจับผู้ขับขี่ที่ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และเมาสุราขณะขับขี่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดสั่งการให้แขวงการทางและทางหลวงชนบทจังหวัด เร่งตรวจสอบและแก้ไขเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกำชับให้สื่อท้องถิ่นให้ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนและเพิ่มป้ายประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจร และมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างเคร่งครัด เนื่องจากวันนี้ยังมีประชาชนทยอยเดินทางออกสู่ภูมิภาค จึงขอฝากเตือน พี่น้องประชาชนให้เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนซึ่งแสงสว่างไม่พียงพอ มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สวมหมวกและคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็ว และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจต่างๆ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับฟังข่าวสารข้อมูลจราจรได้ทางสถานีวิทยุประจำจังหวัดทั่วประเทศ และในกรณีพบอุบัติเหตุและ พบผู้บาดเจ็บสาหัส ควรแจ้งให้หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) เป็นผู้นำส่งสถานพยาบาลเพราะมีเจ้าหน้าที่และเครื่องมือในการปฐมพยาบาลที่พร้อม เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างถูกวิธี และประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลหรือแจ้งอุบัติเหตุ ได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป