กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--เอไอเอส
เอไอเอส เดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อสังคม สานต่อโครงการ “ถังน้ำใจ เอไอเอส เพื่อไทยไม่ขาดน้ำ” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ในการรับผิดชอบต่อสังคมไทย ด้วยการจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ สาธารณกุศล และสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยต้องประสบวิกฤติปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากการขาดแคลนน้ำ เพราะฝนไม่ตกตามฤดูกาล ประกอบกับในบางพื้นที่เป็นดินปนทราย เมื่อฝนตกลงมา แหล่งน้ำธรรมชาติไม่สามารถกักเก็บน้ำหรือขุดเจาะเพื่อทำระบบประปาได้ บางพื้นที่เป็นน้ำกร่อย ไม่สามารถนำน้ำไปอุปโภค บริโภคได้ และบางพื้นที่ขาดแคลนภาชนะสำรองน้ำไว้ใช้ในยามขาดแคลน
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสได้ตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ จึงได้จัดโครงการ “ถังน้ำใจ เอไอเอส เพื่อไทยไม่ขาดน้ำ” เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการพระราชดำริและถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยได้นำถังเก็บน้ำขนาด 2,200 ลิตร จำนวน 1,218 ถังไปมอบให้แก่หมู่บ้านและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ จำนวน 240 หมู่บ้านทั่วประเทศ แบ่งเป็นพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 190 ถัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด จำนวน 497 ถัง ภาคตะวันออก 8 จังหวัด จำนวน 334 ถัง ภาคกลาง 4 จังหวัด จำนวน 47 ถัง และภาคใต้ 7 จังหวัด จำนวน 150 ถัง เพื่อจะได้มีถังเก็บน้ำไว้เป็นสาธารณประโยชน์ที่ส่วนกลางของชุมชน ซึ่งสามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ถึง 431,067 คน รวม 109,982 ครัวเรือน”
สำหรับปี 2550 เป็นปีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอไอเอสได้ดำเนินการสานต่อโครงการดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในเบื้องต้นได้จัดเตรียมถังเก็บน้ำ จำนวน 1,500 ถังไปติดตั้งให้แก่ชุมชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่คนไทยทั่วประเทศได้มีน้ำสำรองไว้ใช้ในยามขาดแคลน โดยจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือจากข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ,ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง การจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจในพื้นที่ และการติดต่อประสานงานขอความช่วยเหลือมายังเอไอเอส
นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว เอไอเอสได้ดำเนินการจัดทำบัตรเติมเงินเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากทางสำนักพระราชวัง หากได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว บริษัทฯก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งจะจัดการประมูลเบอร์สวยเพื่อการกุศล โดยจะนำรายได้สมทบทุนให้แก่องค์กรสาธารณกุศล
นายสมประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 16 ปีของการดำเนินธุรกิจ เอไอเอสได้มุ่งมั่นมอบสิ่งดีๆให้กับสังคม ด้วยการจัดโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบเครือข่ายโทรศัพท์ และการให้บริการ เพราะเราตระหนักถึงคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของคนไทย ที่มิใช่แค่การติดต่อสื่อสารเท่านั้น แต่ต้องดีขึ้นในทุกๆด้าน โดยพนักงานเอไอเอสทุกคนขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทยและร่วมพัฒนาชีวิตของคนไทย เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขอันเป็นพื้นฐานของชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต และเพื่อให้สังคมไทยเข้มแข็งอย่างยั่งยืน