กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ แก่หุ้นกู้จำนวน 2,500 ล้านบาทของหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2549 หรือหุ้นกู้ชุด A และจำนวน 2,500 ล้านบาท ของหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2549 หรือหุ้นกู้ชุด B ที่ออกโดยบริษัทสยามพาณิชย์ เอสพีวี 1 เมื่อเดือนมีนาคม 2549 อันดับเครดิตดังกล่าวแสดงถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยตามกำหนดและชำระคืนเงินต้นได้ครบภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้าย ในเดือนมีนาคม 2555 สำหรับหุ้นกู้ชุด A และ เดือนมีนาคม 2557 สำหรับหุ้นกู้ชุด B
การประกาศคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ในครั้งนี้สะท้อนถึงคุณภาพของกลุ่มลูกหนี้ภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ โดยสยามพาณิชย์ เอสพีวี 1 สามารถรักษาอัตราส่วนลูกหนี้ที่ยังไม่ได้ถือเป็นหนี้เสียรวมกับเงินสดของเอสพีวี ต่อจำนวนหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน (Coverage Ratio)ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา ให้อยู่ในระดับเดียวกันกับ ณ วัน closing ได้ ในขณะเดียวกัน อัตราการผิดนัดชำระหนี้เมื่อเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 4.65% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อต้นปี 2549 ที่ระดับ 4.75% อยู่เล็กน้อย และไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะกลุ่มลูกหนี้อย่างมีนัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบทางลบต่อคุณภาพลูกหนี้ภายใต้โครงการ
โครงการนี้เป็นการออกหุ้นกู้ตัวแรกภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์ประเภทเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ชื่อเดิม บริษัทสยามพาณิชย์ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)) โดยในวัน Closing ไทยพาณิชย์ลีสซิ่งได้ขายสิทธิเรียกร้องที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดให้กับ สยามพาณิชย์ เอสพีวี 1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ออกหุ้นกู้ โดยเงินที่ใช้ในการชำระค่าซื้อขายมาจากการออกหุ้นกู้ 75.6% ส่วนที่เหลืออีก 24.4% จะเป็นการทยอยผ่อนชำระซึ่งถือเป็นส่วนสนับสนุนเครดิตสำหรับโครงการนี้ มาตรการลดทอนความเสี่ยงอื่นๆซึ่งสนับสนุนอันดับเครดิตของโครงการรวมถึง บัญชีเงินสำรองต่างๆของโครงการ เกณฑ์การคัดเลือกลูกหนี้เข้าร่วมโครงการ การกำหนดเหตุการณ์ต่างๆที่เมื่อเกิดขึ้นจะทำให้โครงการสามารถทยอยชำระคืนเงินต้นก่อนกำหนดได้ และโครงสร้างทางการเงินและกฎหมายที่รัดกุมของโครงการ ไทยพาณิชย์ลีสซิ่งยังคงทำหน้าที่เป็นผู้เรียกเก็บหนี้ โดยมีธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (อันดับเครดิตสากล ‘AA/F1+’) ทำหน้าที่ตัวแทนสำรองการเรียกเก็บหนี้
ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของไทยพาณิชย์ลีสซิ่งจาก ‘BBB(tha)/F2(tha)’ เป็น ‘A(tha)/F1(tha)’ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 และประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศที่ ‘A(tha)/F1(tha)’ เมื่อเดือนมีนาคม 2550 โดยการปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีผลมาจากการที่ธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในไทยพาณิชย์ลีสซิ่งเป็น 96.55% ซึ่งคาดว่าจะทำให้ไทยพาณิชย์ลีสซิ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินและการดำเนินงานเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ไทยพาณิชย์ลีสซิ่งวางแผนขยายสินเชื่อลูกหนี้เช่าซื้อของบริษัทอีกเท่าตัวภายในปี 2550 โดยตั้งเป้ายอดสินเชื่อปล่อยใหม่ในปีนี้ที่หกหมื่นถึงหกหมื่นห้าพันล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงและอาจส่งผลต่อมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อของบริษัทได้ อย่างไรก็ตามทางผู้บริหารของไทยพาณิชย์ลีสซิ่งได้ชี้แจงว่าบริษัทไม่มีแผนที่จะผ่อนคลายความเข้มงวดในนโยบายการปล่อยสินเชื่อ โดยยอดสินเชื่อจะโตขึ้นจากการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างจังหวัดและรถใหม่บางยี่ห้อ ฟิทช์เชื่อว่า ผลกระทบต่อโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการปล่อยสินเชื่อจะมีไม่มาก เนื่องจากกลุ่มลูกหนี้ภายใต้โครงการมาจากเกณฑ์การคัดเลือกกลุ่มลูกหนี้ที่เข้มงวดอยู่แล้ว
รายงานฉบับสมบูรณ์หาได้ที่ www.fitchratings.com หรือ www.fitchratingsasia.com
ติดต่อ : นภจักร ผาสุกวนิช, อรวรรณ การุณกรสกุล, วินเซนต์ มิลตัน +662 655 4755
หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน