ไทยเบฟทำยอดขายเกือบแสนล้านในปี 49

ข่าวทั่วไป Wednesday February 28, 2007 15:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ไทยเบฟเวอเรจ
หุ้นเป็นที่นิยมถูกดึงเข้าคำนวณในดัชนีสเตรทส์ไทมส์ของสิงคโปร์ ไทยเบฟ ทำยอดขายได้ถึงเกือบ 1 แสนล้านบาท ในปี 2549 ขณะที่มีกำไรสุทธิประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ด้านหุ้นไทยเบฟในตลาดหุ้นสิงคโปร์ (SGX) ก็เป็นที่นิยมของนักลงทุนต่างประเทศอย่างมากจนทำให้หุ้นไทยเบฟได้รับการคำนวณในดัชนีสเตรทส์ไทมส์ ของสิงคโปร์ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้
ทั้งนี้ยอดขายรวมของไทยเบฟในปี 2549 เพิ่มขึ้นจาก 94,903 ล้านบาทในปี 2548 เป็น 97,798 ล้านบาทในปี 2549 ซึ่งเป็นผลจากยอดขายเบียร์แอลกอฮอล์ต่ำที่เพิ่มขึ้น อาทิ เบียร์อาชา และช้างไลท์และช้างดราฟท์ ซึ่งเพิ่งออกสู่ตลาดในปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมาก ขณะที่ยอดขายรวมของสุราในเครือไทยเบฟ ลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 2.6% ทั้ง ๆ ที่ 49 จังหวัดของไทย ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งกระทบยอดขายในต่างจังหวัดอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของกลุ่มไทยเบฟลดลงเล็กน้อย จาก 10,337 ล้านบาทในปี 2548 เป็น 10,055 ล้านบาทในปี 2549
ทางด้านหลักทรัพย์ไทยเบฟซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยดูได้จากปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันที่มีทั้งสภาพคล่องและมีจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายสูง จนได้ถูกนำไปคำนวณใน ดัชนีสเตรทส์ไทมส์ (Straits Times Index — STI 50) ของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศต่อหุ้นไทยเบฟ
ไทยเบฟได้รับการจัดอันดับเครดิตโดย 2 บริษัทจัดอันดับเครดิตยักษ์ใหญ่ของโลก และทริสเรตติ้ง ในระดับสูง โดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ได้ให้อันดับความน่าเชื่อถือของไทยเบฟที่ระดับ “Baa2 มีเสถียรภาพ” (Baa2 Stable) ส่วนสแตนดาร์ด แอนด์ พัวส์ (เอส แอนด์ พี) ให้อันดับความน่าเชื่อถือไทยเบฟ ที่ระดับ “BBB มีเสถียรภาพ” (BBB Stable)
การประกาศอันดับเครดิตองค์กรของไทยเบฟ โดยทั้ง 3 สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำดังกล่าว สะท้อนว่า ไทยเบฟมีโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานที่ดี ซึ่งส่งผลถึงกระแสเงินสด (Cash flow) ของไทยเบฟ และความสามารถในการชำระเงินที่ดี แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่า ไทยเบฟจะยังคงสถานะความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นก็ตาม
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไทยเบฟ กล่าวว่า “เราพอใจที่ธุรกิจของเรายังคงเติบโตต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ทั้งที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมหนักหลายจังหวัดปลายปีที่แล้ว ประกอบกับราคากากน้ำตาลที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ การเมือง และการค้า ในประเทศ แต่ยอดขายโดยรวมของเรายังเพิ่มขึ้นเป็นเกือบแสนล้านบาท
“การที่ไทยเบฟได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่ดีจากทริส สแตนดาร์ด แอนด์ พัวส์ และ มูดี้ส์ สะท้อนถึงความมีเสถียรภาพ ความโปร่งใส บรรษัทภิบาลของไทยเบฟ ตลอดจนผลประกอบการของบริษัทฯ ที่ชี้ให้เห็นว่า เรามีการเติบโตต่อเนื่อง โดยการมองหาตลาดใหม่ ๆ ที่กำลังเติบโต การเน้นขายเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำมากขึ้น และการขยายตลาดเข้าสู่ในเมืองมากขึ้น” นายฐาปนกล่าว
ไทยเบฟได้แนะนำสุราหงส์ทองปรุงใหม่อีกครั้งในช่วงไตรมาสแรกปี 2549 ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เป็น 4.8 ล้านลิตร ในช่วง 10 เดือนหลังของปี ขณะที่บริษัทออกสุรา เบลนด์ 285 ซึ่งกลายเป็นสุรายอดนิยมอีกแบรนด์หนึ่ง ในเดือนตุลาคม 2549 โดยมียอดขาย 1.7 ล้านลิตร นับถึงช่วงปลายปี
นายฐาปนกล่าวว่า ปริมาณยอดขายเบียร์ของไทยเบฟ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 12% ในช่วงเวลา 1 ปี เป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนว่าไทยเบฟได้เดินมาถูกทาง ในการออกเบียร์แอลกอฮอล์ต่ำ ทั้งเบียร์อาชา ช้างไลท์ และช้างดราฟท์
“ขณะที่ปริมาณขายเบียร์ของเราโดยรวมโตขึ้น 12% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ยอดขายเบียร์แอลกอฮอล์ต่ำของเรา นำโดยเบียร์อาชา เพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านลิตรในปี 2548 เป็น 102 ล้านลิตรในปี 2549 และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากเบียร์เพิ่มขึ้น 28%” นายฐาปนกล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
เรืออากาศโท คันธนิธิ์ สุคนธทรัพย์
โทร. 02272 2051-5 ต่อ 1615
อีเมล์ kantanit.s@thaibev.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ