กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าว “โครงการพัฒนาโปรแกรมต้นแบบการจัดเก็บข้อมูลการจราจรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (โปรแกรม Log keeper) และมาตรฐานขั้นต่ำตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งข้อดีก็คือ ทำให้การสืบค้นข้อมูลเพื่อการศึกษาค้นคว้าผ่านระบบดังกล่าวทำได้อย่างง่ายดาย และกว้างขวางมากขึ้น แต่การพัฒนานี้ได้กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เกิดการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ตามมาจากการนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การส่งต่ออีเมล์ภาพลามกอนาจาร การเล่นเกมการพนันออนไลน์ เป็นต้น การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม เศรษฐกิจและประเทศชาติเป็นอย่างมาก
กระทรวงไอซีที ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น ทำหน้าที่กำหนดมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งจัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งในพระราชบัญญัติฯ ได้กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและบทลงโทษของผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และหน่วยงานที่ให้บริการเกี่ยวกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต้องมีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลบันทึกการใช้งานระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไว้อย่างน้อย 90 วัน และเก็บไว้เกินกว่านั้นตามที่เจ้าพนักงานสั่งแต่ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับสูงถึง 500,000 บาท
หลังพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากยังไม่มีความพร้อมในการลงทุนด้านระบบจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามมาตรฐานกลางที่กำหนดไว้ ดังนั้น สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดทำโครงการพัฒนาโปรแกรมต้นแบบการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log Keeper) และการศึกษามาตรฐานกลางในการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ตามพระราชบัญญัติฯ ขึ้น เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน และมีมาตรฐานเดียวกัน โดยจะมีการศึกษาและพัฒนารูปแบบการจัดเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม มีต้นทุนต่ำไว้ใช้เป็นต้นแบบในการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง และไม่ทำให้ระบบการให้บริการขัดข้องหรือช้าลง
“โครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะรณรงค์ให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์และสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตามที่กฎหมายกำหนด เช่น หน่วยงานราชการ สถานศึกษา บริษัท ห้างร้าน ธนาคาร โรงแรม ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ให้มีการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามพระราชบัญัญติ ฯ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่มีการจัดเก็บไปใช้ในการสอบสวน สืบสวน ของเจ้าหน้าที่-ตำรวจให้เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นอกจากเจ้าของกิจการและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จะไม่ต้องรับผิดชอบความผิดแทนผู้กระทำความผิดจริงแล้ว ยังเป็นการช่วยยกระดับประเทศไทยให้มีความสามารถทางด้านไอทีให้ทัดเทียมกับนานาประเทศด้วย” นายสือ กล่าว
สำหรับกิจกรรมภายใต้โครงการนี้ที่จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ให้กับผู้ประกอบการ คือ การแจกแผ่นโปรแกรมจำนวน 20,000 แผ่น ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอรับแผ่นโปรแกรมได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.logkeeper.in.th พร้อมกันนี้ยังมีการจัดสัมมนาอบรมการติดตั้งโปรแกรมและการใช้งานอีก จำนวน 5 ครั้ง ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียด วัน เวลา และสถานที่ในการสัมมนา รวมทั้งลงทะเบียนเพื่อขอเข้าร่วมการสัมมนาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ทางเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย