กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--บีโอไอ
“บีโอไอ” ให้ส่งเสริมโครงการร่วมทุนของนักลงทุนไทยกับญี่ปุ่น ผลิต NITRILE LATEX แห่งแรกของไทย ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ เพื่อรองรับความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นจากโรคเอดส์ โรคซาร์ โรคไข้หวัดนก และโรคปากเท้าเปื่อย
นางสาวสุดจิตร อินทรไทยวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ได้เห็นชอบให้การส่งเสริมแก่นายพิชิต นิธิวาสิน ผู้บริหารบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด ในการดำเนินโครงการผลิต ACRYLONITRILE BUTADIENE LATEX และ MODIFIED ACRYLONITRILE BUTADIENE LATEX (NITRILE LATEX) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตถุงมือยาง โฟม ประเก็น และอื่น ๆ มูลค่าการลงทุนกว่า 2,506 ล้านบาท ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นการผลิตยางสังเคราะห์ในกลุ่ม NITRILE LATEX เป็นรายแรกของประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้รูปแบบของโครงการผลิตดังกล่าว เป็นการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนไทยและนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี เพื่อผลิต NITRILE LATEX ให้กับความต้องการจาก ทั่วโลกที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือประมาณ 9-12%ต่อปี
NITRILE LATEX จะทำให้ถุงมือยางมีคุณภาพดีกว่าถุงมือยางธรรมชาติทั่วไป เช่น ทนต่อน้ำมัน และไม่มีสารโปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงทำให้สามารถนำไปผลิตถุงมือยางได้ทั้งชนิดที่เป็นถุงมือเพื่อใช้ในบ้าน ถุงมืออุตสาหกรรม รวมถึงถุงมือทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่มีเชื้อโรคชนิดใหม่ และโรคระบาดเกิดขึ้นมาก เช่น โรคเอดส์ โรคซาร์ โรคไข้หวัดนก และโรคปากเท้าเปื่อย เป็นต้น ซึ่งล่าสุด คาดว่าความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์จะเพิ่มขึ้นจาก ประมาณ 12,000 ล้านชิ้น ในปี 2532 เป็น กว่า 120,000 ล้านชิ้น ในปี 2549
“ปัจจุบันยังไม่มีผู้ผลิต NITRILE LATEX ในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องนำเข้าทั้งหมดทั้งจากประเทศเยอรมัน สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าความต้องการในประเทศจะเติบโตประมาณ 9% ในปี 2550-2554 โดยโครงการผลิตดังกล่าวจะช่วยลดมูลค่าการนำเข้า NITRILE LATEX ได้ถึงปีละกว่า 2,300 ล้านบาท”นางสาวสุดจิตร กล่าว