กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--การเคหะแห่งชาติ
การเคหะแห่งชาติ แนะลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์บ้านเอื้ออาทร ก่อนมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมดอายุ เร่งติดต่อก่อน 20 มีนาคม นี้ เพื่อผลประโยชน์ลูกค้าเอง เพราะค่าธรรมเนียมจะปรับขึ้น
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การเคหะแห่งชาติต้องการเร่งให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรครบ 5 ปี เข้ามาโอนกรรมสิทธิ์โดยเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากการโอนในช่วงนี้จะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 100 บาทเศษ แต่หากพ้นสิ้นเดือนนี้( วันที่ 31 มีนาคม 2553 ) ไปแล้วค่าธรรมเนียมในการโอนจะปรับขึ้น ซึ่งลูกค้าจะต้องรับภาระ
ในการโอนประมาณ 7,000-8,000 บาท/ยูนิต ทั้งนี้เนื่องจากมาตรการกระตุ้นภาษีภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐบาลจะหมดเวลาในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม กคช.ขอให้ลูกค้าที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการบ้านเอื้ออาทรได้แล้วให้รีบติดต่อมายัง กคช.อย่างเร่งด่วนภายในวันที่ 20 มีนาคม นี้ เพื่อที่กคช.จะได้มีเวลาเจรจากับสถาบันการเงินและโอนได้ทันระยะเวลาสิ้นเดือนพอดี มิฉะนั้นลูกค้าจะต้องแบกรับภาระการโอนเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นการเสียโอกาสลูกค้าเป็นอย่างมาก
สำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ครบ 5 ปี และสามารถทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ถึง ณ วันที่ 28 มีนาคม 2553 ของการเคหะแห่งชาติ ประกอบด้วย โครงการ ประชานิเวศน์ 1,530 1,072 หน่วย
บางพลีเดิม 719 692 หน่วย
บางโฉลง 1 836 587 หน่วย
บางโฉลง 2 1,084 544 หน่วย
หัวหมาก 692 650 หน่วย
รังสิตคลอง 3 477 367 หน่วย
รังสิตคลอง 5 499 - หน่วย( 28 เมษายน 2553)
และโครงการ จังหวัดพิจิตร 200 56 ( สช.โอนเอง )
รวม 6,037 3,968 หน่วย
นายศิริโรจน์ กล่าวว่า ขอให้ลูกค้ารีบติดต่อมาอย่างเร่งด่วนที่สุด ทั้งนี้เพื่อประโยช์ของลูกค้าเองที่จะเสียค่าธรรมเนียมในอัตราเก่าเพียง 100 กว่าบาท ไม่เช่นนั้นในเดือนเมษายน 2553 ลูกค้าก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในอัตราเดิมถึง 7-8 พันบาท ซึ่งสำหรับลูกค้าของโครงการบ้านเอื้ออาทรแล้วก็ถือว่าเป็นรายจ่ายที่สูงพอสมควรกคช.จึงขอเร่งลูกค้าให้มาดำเนินการโดยเร่งด่วนที่สุด ซึ่งกคช.เองห่วงในเรื่องนี้มากสำหรับผู้ที่สามารถโอนได้ในโครงการที่กล่าวมาข้างต้น