กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--ช่อง 7 สี
“น้องปุ๊กลุ๊ค-ฝนทิพย์” สาวงามวัย 19 ปี ดาวจรัสแสงดวงที่ 11 คว้ามงกุฎ “มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553” ควบ “ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” พร้อมเป็นตัวแทนสาวไทยสู่เวที “มิสยูนิเวิร์ส 2010”
ผ่านพ้นไปอย่างสวยงามสำหรับการค้นหาสาวมั่นทันสมัย เพื่อครองมงกุฎ “มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553” โดยผู้เข้าประกวด หมายเลข 33 นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ น้องปุ๊กลุ๊ค สาวงามวัย 19 ปี จากจังหวัดสมุทรปราการ กลายเป็นดาวจรัสแสงดวงที่ 11 คว้าตำแหน่งแห่งเกียรติยศไปครอง รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฏเพชร และชุดเครื่องประดับจาก Beauty Gems รถยนต์ TOYOTA CAMRY รุ่น 2.0 G และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังได้รับตำแหน่ง “ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” อีกหนึ่งรางวัล พร้อมเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชันความงามบนเวทีระดับโลก มิสยูนิเวิร์ส 2010
การประกวด “มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553” ดำเนินการโดย สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 พร้อมด้วย 6 ผู้สนับสนุนหลัก ได้แก่ สก๊อต คอลลาเจน-อี บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ลักส์ NIVEA DEODORANT เอไอเอส และโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ กรุงเทพ เดินทางมาถึงรอบตัดสินแล้ว โดยจัดขึ้นที่ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยงานนี้มี สัญญา คุณากร อุษณีย์ วัฒฐานะ และ กรรณาภรณ์ พวงทอง รับหน้าที่เป็นพิธีกรตลอดการประกวดฯ
ในปีนี้มีสาวมั่นทันสมัยร่วมเปิดประสบการณ์ชีวิตด้วยการสมัครเข้าประกวดฯ จำนวน 283 คน และคัดเลือกเหลือ 44 คน ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย พร้อมร่วมกิจกรรมต่างๆ ของกองประกวด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทัศนศึกษากรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รวมถึงการเข้าร่วมอบรมความรู้เรื่องเอดส์ ตามโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การ PATH ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับนโยบายของกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส นอกจากนี้ผู้เข้าประกวดทั้ง 44 คน ยังเดินทางไปทัศนศึกษาและทำกิจกรรมร่วมกันที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยสถานที่สำคัญคือ อุทยานประวัติศาสตร์จังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2534 พร้อมได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณีพื้นเมือง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย
การประกวดฯ รอบตัดสิน เริ่มต้นขึ้น ในเวลา 20.00 น. ต้อนรับผู้ชมด้วยดนตรีจังหวะสนุกสนาน ผสมผสานบรรยากาศจำลองของป่าเขาลำเนาไพร และกำแพงเมืองโบราณในจังหวัดกำแพงเพชร โดยสาวงามทั้ง 44 คน ปรากฏตัวในชุดว่ายน้ำจาก Guy Laroche ก่อนที่จะเข้าสู่การแสดงชุดพิเศษจากผู้เข้าประกวดฯ และคณะมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สรุ่นพี่ ประกอบด้วย ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2550 กวินตรา โพธิจักร มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2551 ปิยะภรณ์ ดีจริง รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส อันดับ 1 ประจำปี 2551 และ รุจินันท์ พันธ์ศรีทุม รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส อันดับ 1 ประจำปี 2552 ซึ่งนำบทเพลง “แทนใจ” มาถ่ายทอด แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ ความรัก และความสามัคคีที่มีต่อกัน
หลังจากนั้นเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความระทึกใจ กับการประกาศผลสาวงามที่ผ่านเข้าสู่รอบ 12 คนสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วย หมายเลข 1 นางสาววิลาสินี กัลยาเลิศ / หมายเลข 4 นางสาววิลาสินี สินธุโคตร / หมายเลข 6 นางสาวปุณยวีร์ แจ่มคล้าย / หมายเลข 7 นางสาวพิมพวรรณ บรรจงศิริ / หมายเลข 11 นางสาวราตรีเฉลิม เดชบุญญาภิชาติ / หมายเลข 15 นางสาวพรรณนารา พุ่มเจริญ / หมายเลข 17 นางสาวพิมพ์จิตรา บุญยิ่ง / หมายเลข 23 นางสาวสุชาดา กลั่นไพรี / หมายเลข 26 นางสาวณพวรรณ ปัญญา / หมายเลข 31 นางสาววรรษพร วัฒนากุล / หมายเลข 32 นางสาวพราวรวี ปรียวราวัฒน์ และ หมายเลข 33 นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล
ต่อกันด้วยการประกวดในชุดว่ายน้ำ ที่งานนี้ศิลปินคุณภาพ ชิน-ชินวุฒิ อินทรคูสิน นักร้องหนุ่มเลือดใหม่ไฟแรงจากค่าย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี รับอาสาพาคุณผู้ชมเข้าสู่บรรยากาศของ อุทยานแห่งชาติ ป่าไม้ และน้ำตกที่ชุ่มฉ่ำ สลับการเดินชุดว่ายน้ำสีดำเลื่อมของผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายอีกครั้ง จากนั้นเป็นการแสดงชุดพิเศษจากนักแสดง ช่อง 7 สี ประกอบด้วย ศุกลวัฒน์ คณารศ ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ วงศกร ปรมัตถากร อุษามณี ไวทยานนท์ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า และ อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ภายใต้การควบคุมของ บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
หลังจากนั้นพาคุณผู้ชมย้อนอดีตไป 700 ปี ในบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองชากังราว ซึ่งเป็นชื่อเดิมของจังหวัดกำแพงเพชร ผู้เข้าประกวดทั้ง 12 คน ปรากฏตัวด้วยชุดราตรีสุดหรูจากห้องเสื้อ Amore ประกอบเสียงเพลงไทยประยุกต์ร่วมสมัยที่ได้ Season 5 กลุ่มศิลปินแนว Hybrid A Cappella มาร่วมถ่ายทอด พร้อมเสียงร้องแบบกังวานสดใสของ บัวชมพู วารี รองมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2550
ก่อนจะเข้าสู่การประกาศผลตำแหน่งพิเศษ เริ่มด้วย “ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งได้แก่ หมายเลข 33 นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล รับเงินรางวัล 2 แสนบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และสายสะพายจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ในขณะที่ตำแหน่งพิเศษที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ 5 รางวัล ได้แก่ “งามอย่างไทย” จากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้แก่ หมายเลข 19 นางสาวนัทธินันท์ กุมชพร หรือ น้องน้ำใส รับเงินรางวัล 1 แสนบาท ถ้วยเกียรติยศ และสายสะพายจาก สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
“นางงามผิวสวย” โดย สก๊อต คอลลาเจน-อี ได้แก่ หมายเลข 20 นางสาวพัชริญา พิศชวนชม รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพาย และผลิตภัณฑ์ สก๊อต คอลลาเจน-อี ดื่มฟรีตลอดปี
“รักษ์ความเป็นไทย” จาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้แก่ หมายเลข 4 นางสาววิลาสินี สินธุโคตร หรือ น้องออย สาวงามจากจังหวัดกาฬสินธุ์ รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพายจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และผลิตภัณฑ์สิงห์ ใช้ตลอดปี
“Miss B-ing Healthy” จาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้แก่ หมายเลข 32 นางสาวพราวรวี ปรียวราวัฒน์ หรือ น้องเจน สาวงามจากกรุงเทพมหานคร รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพายจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และผลิตภัณฑ์สิงห์ ใช้ตลอดปี
“MISS LUX WHITE IMPRESS” ได้แก่ หมายเลข 31 นางสาววรรษพร วัฒนากุล หรือ น้องเอี๊ยม รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพายจาก ลักส์ และผลิตภัณฑ์ลักส์ ใช้ตลอดปี
ปิดท้ายในช่วงนี้ กับการประกาศผลตำแหน่ง “มิสป๊อปปูลาร์” จาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้แก่ หมายเลข 10 นางสาวปฑิตตา ศิระอาภรณ์ หรือ น้องฝ้าย รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสายสะพาย และ BlackBerry Bold 9700 จาก เอไอเอส
หลังจากนั้นเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความระทึกใจอีกครั้ง กับการประกาศผลสาวงามที่ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วย หมายเลข 1 นางสาววิลาสินี กัลยาเลิศ / หมายเลข 7 นางสาวพิมพวรรณ บรรจงศิริ / หมายเลข 15 นางสาวพรรณนารา พุ่มเจริญ / หมายเลข 31 นางสาววรรษพร วัฒนากุล และ หมายเลข 33 นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล โดยสาวงามทั้ง 5 คน จะต้องตอบคำถามซึ่งคัดเลือกจากผู้ชมทั่วประเทศที่ส่งเข้ามาผ่านระบบ SMS ก่อนที่ ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2552 จะปรากฏตัวบนเวทีเพื่ออำลาตำแหน่ง
และแล้วก็ถึงช่วงวินาทีสำคัญ เมื่อพิธีกรประกาศผลการตัดสิน ซึ่งผู้ได้รับตำแหน่ง “มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2553” ได้แก่ หมายเลข 33 นางสาวฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ น้องปุ๊กลุ๊ค สาวงามวัย 19 ปี จากจังหวัดสมุทรปราการ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท มงกุฎเพชร และชุดเครื่องประดับจาก Beauty Gems สายสะพาย พร้อมถ้วยเกียรติยศแก้วคริสตัล รถยนต์ TOYOTA CAMRY รุ่น 2.0 G พร้อมของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วน “รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส อันดับ 1” ได้แก่ หมายเลข 31 นางสาววรรษพร วัฒนากุล หรือ น้องเอี๊ยม สาวงามวัย 22 ปี จากกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับเงินรางวัล 5 แสนบาท สายสะพาย และถ้วยเกียรติยศแก้วคริสตัล พร้อมของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะที่ “รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส” ทั้ง 3 ตำแหน่ง ได้แก่ หมายเลข 1 นางสาววิลาสินี กัลยาเลิศ หรือ น้องเตย หมายเลข 7 นางสาวพิมพวรรณ บรรจงศิริ หรือ น้องออยล์ และ หมายเลข 15 นางสาวพรรณนารา พุ่มเจริญ หรือ น้องริชชี่ รับเงินรางวัลคนละ 2 แสนบาท สายสะพาย และถ้วยเกียรติยศแก้วคริสตัล พร้อมของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เป็นการประกวดความงามระดับประเทศที่มีมาตรฐานสากล จัดขึ้นเป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา โดย ช่อง 7 สี ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จาก Miss Universe L.P., LLLP ในการค้นหาสาวงามเข้าร่วมประกวด มิสยูนิเวิร์ส โดยมีสาวงามที่ครองมงกุฎแห่งเกียรติยศ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส รวมทั้งสิ้น 10 คน เรียงตามลำดับ ได้แก่ กุลธิดา เย็นประเสริฐ วรินทร ผดุงวิถี จันจิรา จันทร์โฉม เยาวลักษณ์ ไตรสุรัตน์ มรกต เอมมี่ กิตติสาระ ชนันภรณ์ รสจันทน์ (ได้รับรางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม จากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005) ชาม ไอยวริญท์ โอสถานนท์ (ผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายในการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2006) ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม (ผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2007) กวินตรา โพธิจักร (ได้รับรางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม จากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2008) และ ชุติมา ดุรงค์เดช (ได้รับรางวัล Miss Photogenic จากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2009)