กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลังเผยช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 ฐานะการคลังยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง รัฐบาลยังคงจัดเก็บรายได้ได้เกินเป้าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 ว่าผลจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 22.3 โดยจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตได้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ภาษีรถยนต์ ภาษีเบียร์ ภาษียาสูบ และภาษีสุรา นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 223,408 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 47,055 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดดุลเงินสดรวม 270,463 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 110,572 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดหลังกู้ทั้งสิ้น 159,891 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 133,944 ล้านบาท
นายสาธิตสรุปว่า “สภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ฐานะการคลังของรัฐบาลอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง โดยกระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาฐานะการคลังให้อยู่ในระดับที่มั่นคงได้”
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกปีงบประมาณ 2553
(ตุลาคม 2552 — กุมภาพันธ์ 2553)
หน่วย: ล้านบาท
5 เดือนแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2553 ปีงบประมาณ 2552 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 560,625 458,216 102,409 22.3
2. รายจ่าย 784,033 776,437 7,596 1.0
3. ดุลเงินงบประมาณ -223,408 -318,221 94,813 -29.8
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ -47,055 18,735 -65,790 -351.2
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -270,463 -299,486 29,023 -9.7
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 110,572 128,530 -17,958 -14.0
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) -159,891 -170,956 11,065 -6.5
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3558