กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ประเภท Horror / Thriller
กำหนดฉาย 8 เมษายน 2553
ความยาว 94 นาที
เว็บไซด์ภาพยนตร์ http://www.frozen-film.com/
บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ บล็อค (Saw I-VII)
กำกับ/เขียนบท อดัม กรีน (Hatchet)
นำแสดง เควิน ซีเกอร์ (Transamerica, Air Bud),
ฌอน แอชมอร์ (X-Men 2, X-Men: The Last Stand)
เอ็มม่า เบล (Gracie)
คุณจะทำยังไง เมื่อ... ...อยู่ในความมืดมิด สูงจากพื้นดินห้าสิบฟุต ผจญกับความหนาวติดลบ... ...ไม่มีใครรู้ว่าคุณอยู่ข้างบน ไม่มีใครกลับมาตามหาคุณ
เรื่องย่อ
วันพักผ่อนธรรมดาสำหรับคนที่เดินทางมาท่องเที่ยว แปรเปลี่ยนกลายเป็นฝันร้ายของนักเล่นสกีสามคน เมื่อพวกเขาติดอยู่บนเก้าอี้ที่พาขึ้นสู่ภูเขา ทุกคนสับสนว่าทำไมมันถึงหยุดอยู่กลางอากาศ ก่อนที่เรื่องจะเลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ปิดสวิทซ์สำหรับไฟส่องยามค่ำคืน ทิ้งให้พวกเขาอยู่นั่งหนาวเหน็บอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ร่างกายที่ถูกน้ำแข็งกัดและสภาวะขาดน้ำ ความหนาวที่เหมือนใครเอาเข็มนับล้านเล่มมาทิ่มแทงร่างกาย นักเล่นสกีทั้งสามต้องให้ความอบอุ่นซึ่งกัน บนความสูงที่ไม่มีมนุษย์คนไหนตกมาแล้วสามารถรอดชีวิต ฝันร้ายยิ่งทวีความรุนแรงและเป็นจริงมากขึ้น เมื่อรีสอร์ทสกีปิดทำการเพื่อหนีพายุหิมะ ท่ามกลางความหนาวสุดขั้วที่กำลังเดินทางมาถึง พวกเขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า แรงใจเพื่อความอยู่รอดนั้นจะช่วยให้หนีจากวิธีการตายที่เลวร้ายที่สุดได้หรือไม่ พวกเขาต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อความอยู่รอด และเพื่อที่จะได้หนีจากนรกกลางอากาศแห่งนี้
Frozen เป็นผลงานสุดระทึกเรื่องล่าสุดจาก ปีเตอร์ บล็อค ผู้สร้าง Saw ทั้งหกภาค เขียนบทและกำกับโดย อดัม กรีน (Hatchet, Spiral) นำแสดงโดย เควิน ซีเกอร์ (Transamerica, Air Bud), ฌอน แอชมอร์ (X-Men 2, X-Men: The Last Stand) และ เอ็มม่า เบล (Dollhouse, Supernatural)
สารจากผู้กำกับ
การเติบโตขึ้นมาในเมืองบอสตัน ผมไม่มีโอกาสเล่นสกีที่รีสอร์ทหรู แต่ผมต้องไปเล่นในภูเขาหิมะแถวรัฐแมสซาชูเซ็ทที่เล็กมากจนต้องเปิดทำการเพียงแค่วันหยุด นี้เป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีทุนไม่มาก นี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกราสามารถหาได้ และจากประสบการณ์นั้นก็ทำให้หนังเรื่องนี้ถือกำเนิดขึ้น
ใครก็ตามที่เคยเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดก็จะรู้สึกถึงความว้าวุ่นและกังวลทุกครั้ง ที่กระเช้าที่พาคุณขึ้นภูเขาหยุดนิ่งแบบไม่มีสาเหตุ มันถือเป็นกฏเหล็กที่เราจะไม่พูดถึงความกลัวก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเป็นปกติ แต่ถึงแม้ว่าเราไม่เอ่ยปาก ความคิดว่า "ถ้ามันเสีย เราจะลงไปจากที่นี่ยังไง" ก็ยังวนเวียนอยู่ในสมองของนักเล่นสกีทุกคน
Frozen คือภาพยนตร์ระทึกขวัญที่จะทำให้คนดูนั่งไม่คิดและรู้สึกขนลุก มันไม่ได้เกิดจากความรุนแรง ความโหด หรือการทรมาน แต่ความรู้สึกที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจของผู้ชมว่า "มันอาจเกิดขึ้นกับเรา" ถึงแม้คนที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อนในชีวิต ก็ต้องรู้สึกถึงความกลัวที่สูงและความหนาวสะท้านใจ ซึ่งถูกสร้างออกมาเพื่อมอบให้กับคนดูทุกคน
นี้ไม่ใช่หนังที่สร้างความสะใจ และหวีดร้องไปกับ Hatchet หนังเรื่องแรกของผม และมันก็ไม่เหมือนกับหนังที่เล่าถึงสภาวะจิตใจของตัวละครเหมือน Spiral หนังเรื่องที่สอง แต่ Frozen จะเป็นหนังที่มีความสมจริง และเป็นเรื่องของคนสามคนที่พยายามเอาชีวิตรอดในสถาณการณ์ที่สิ้นหวัง ความคาดหวังของผมคือเมื่อใครที่ดูเรื่องนี้แล้วขึ้นกระเช้าที่หยุดอยู่กลางอากาศ หนังเรื่องนี้จะผุดขึ้นมาในหัวและทำให้พวกเขาขนลุกทันที
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ อดัม กรีน
ทำไมคุณถึงต้องการสร้าง Frozen
ความคิดเรื่องการสร้างหนังจากพล็อตนักเล่นสกีรถูกทิ้งเอาไว้บนกระเข้ามีมานานแล้ว ทุกคนที่ผมเล่าให้ฟังเกิดความรู้สึกกลัว มันมีส่วนผสมที่ลงตัวในการทำให้เป็นหนังที่คนดูจะรู้สึกกลัวอย่างจริงจัง Frozen เป็นหนังที่มีความทะเยอทะยานและเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะการสร้างสรรค์สถานการณ์สิ้นหวังด้วยสภาพแวดล้อม กับตัวละครทั้งสามที่ไม่มีพื้นที่ให้ยืนด้วยซ้ำ
แถมยังมีความท้าทายเรื่องสภาพร่างกายที่ใช้เสริมสร้างการเล่าเรื่อง ซึ่งเกิดขึ้นในสภาพอากาศหนาวจัดเหนือพื้นดินห้าสิบฟุต Frozen เป็นโปรเจ็คที่ผมรู้สึกว่าท้าทาย ในฐานะผู้กำกับแล้ว มันเปรียบได้เหมือนฝันเลยในการได้ทำหน้าที่เล่าเรื่อง เพราะเมื่อคุณนึกถึงมันแล้วเล่าให้คนอื่นฟัง พวกเขาก็จะหาว่าคุณเพี้ยนและบอกว่าไม่มีทางทำให้มันเป็นหนังยาวได้ แต่เมื่อคุณลองเริ่มทำดู คุณก็จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้และยังเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความพิเศษ
สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือ ทุกช็อตเราถ่ายทำกันจากสถานที่จริง 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้อำนวยการสร้างและสตูดิโอทั่วไปอาจคิดว่า การถ่ายทำต้องปลอดภัยด้วยการถ่ายทำกับบลูสกรีน แต่ผมไม่อยากทรยศความเชื่อมั่นของผู้ชม โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาดูหนังแบบนี้แล้วไม่รู้สึกว่ามันมีอันตรายอยู่จริง ทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกคนเคารพในมุมมองของผม ทั้งนักแสดงและทีมงานต่างทุ่มเทให้เต็มร้อย พวกเราถ่ายทำอยู่เหนือพื้นดินห้าสิบฟุตจริงๆ อากาศที่หนาวสุดทรหดก็เกิดขึ้นจริง และเพราะความสมจริงและความกดดัน ก็ทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันคุ้มค่า
คุณคิดเรื่องนี้ออกมาได้ยังไง
ผมดูข่าวตอนเช้าที่รายงานเหตุการณ์เดียวกันกับเรื่องนี้ และเมื่อดูจบมันก็ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงความน่ากลัวของการที่กระเช้าหยุดโดยไม่มีเหตุผล ผมจึงรีบขับรถเข้าไปในออฟฟิศและอธิบายถึงคอนเซปต์ของเรื่องให้ทุกคนฟัง มันเป็นการขายไอเดียที่ง่ายที่สุด เพราะเราสามารถอธิบายสั้นๆได้ว่า "นักเล่นสกีสามคนถูกทิ้งไว้บนกระเช้า ที่ปิดทำการไปจนถึงอาทิตย์หน้า" ทำให้ทุกคนต่างตอบตกลงเพื่อร่วมงานทันที ไม่มีคำถามใดๆทั้งสิ้น
ความท้าทายในการเขียนบทภาพยนตร์มีมากแค่ไหน
ผมเขียน Frozen ในขณะที่กำลังอำนวยการสร้างหนังสยองขวัญเรื่อง Grace โดยเมื่อมีแรงบันดาลใจแล้ว ผมก็ทำอะไรได้อย่างไหลลื่น ปกติแล้วแรงบันดาลใจของผมมักจะมาผิดที่ผิดเวลา เช่น ตอนอยู่ในงานแต่งของเพื่อน หรือว่าอยู่ในห้องน้ำสนามบิน สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการคิดบทสนทนา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องง่าย สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นอยู่ในสตอรี่บอร์ดหมดแล้ว แต่การที่จะทำให้มันสร้างผลกระทบต่อผู้ชม ทำให้เขาเชื่อมั่นและรู้จักตัวละครถือเป็นงานที่ลำบาก โดยเฉพาะในแนวหนังที่ผู้ชมอยากเห็นว่า ตัวละครจะตายแบบไหนมากกว่า
พวกเรารู้ว่าตัวเองเดินอยู่บนเส้นแบ่งที่บางขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้ว Frozen ก็กลายเป็นหนังที่ดึงอารมณ์ร่วมจากคนดูได้มากที่สุด เราทำในสิ่งที่หนังระทึกขวัญเรื่องอื่นไม่สามารถทำได้ มันทำให้คุณและผมเชื่อมโยงไปถึงสถานการ์จริง เพราะตัวละครทั้งสามคือมนุษย์ที่มีชีวิตจริง ทุกเรื่องที่พวกเขาพูด และทุกสิ่งที่พวกเขาทำมาจากจิตวิญญาณที่มีอยู่จริง และมันก็มาจากจิตวิญญาณของผม
คุณมีการคัดเลือกนักแสดงอย่างไร
ในฮอลลิวู้ดมีวัยรุ่นจำนวนมากที่อยากดังมากกว่าการเป็นนักแสดง ผมมีสัญชาตญาณในการแบ่งแยกของเก๊กับของจริง เมื่อเรามีการประกาศว่าจะถ่ายทำหนังเรื่องนี้ในสถานที่จริง มีนักแสดงหลายคนที่วิ่งหนีไปเลย แต่มันก็ดีเพราะทำให้ผมรู้ว่านักแสดงที่เดินเข้ามาต้องเป็นของจริง เอ็มม่า เบล เป็นคนแรกที่เข้ามาอ่านบท และเมื่อการคัดเลือกนักแสดงจบลง เธอก็กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับนักแสดงในรุ่นเธอ เธอสามารถทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจ และเธอก็ยังรู้จักความหมายของคำว่า “การแสดง” อีกด้วย
ผมเคยพบกับ เควิน ซีเกอร์ หลายปีก่อน และผมก็เคยดูผลงานของเขามาแล้ว เขาและผมได้นั่งคุยกันเกี่ยวกับ Frozen คุณรู้ได้เลยทันทีว่าเขาไม่ใช่วัยรุ่นหน้าตาหล่ออย่างเดียว เขามีไอเดียในหัวและคำถามมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้กำกับอย่างผมต้องการ ผมไม่ต้องการนักแสดงที่ยืนรอคำสั่งให้ทำโน้นทำนี้ นักแสดงอย่าง เควิน ได้นำเอาจิตวิญญาณของตัวเอง เข้ามาใส่ในโปรเจ็คได้มากกว่าที่ทุกคนคาดคิด
ฌอน แอชมอร์ ก็ไม่เพียงเหมาะสมกับตัวละครนี้อย่างเดียว แต่ก็ยังมีการแสดงที่เฉียบขาด เขาและ เควิน เป็นเพื่อนกันมากว่า 20 ปี คุณไม่มีทางได้เห็นเคมีที่ต้องกันได้มากกว่านี้แล้ว ตัวละครของ ฌอน สามารถขโมยซีนได้แทบทุกครั้ง บางคืนในช่วงการถ่ายทำ ผมเหมือนกำลังดูการชกมวยบนกระเช้าแคบๆ เพราะนักแสดงที่มีความสามารถจัดการใส่ทุกอย่างที่มี ไม่มีจุดอ่อนระหว่างนักแสดงทั้งสามคน พวกเขาเป็นคนที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ทั้งหมด
อะไรคือความท้าทายที่สุดในการถ่ายทำ
สิ่งหนึ่งที่ท้าทายที่สุดในการถ่ายทำก็คือ การถ่ายทำในช่วงที่กระเช้ายังทำงานอยู่ ตอนแรกผมคิดว่าเราสามารถห้อยอยู่ติดกับกระเช้าที่นักแสดงทั้งสามอยู่ แต่ผมก็มารู้ที่หลังว่ามันเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากปัญหาเรื่องน้ำหนักและความปลอดภัย ไม่มีทางที่ทีมกล้องจะอยู่บนกระเช้าเดียวกับนักแสดงทั้งสาม และมันก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราต้องทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าพวกเขากำลังดูตัวละคร แทนที่จะคนเฝ้าสังเกตุพวกเขาจากระยะไกล
สุดท้ายแล้วพวกเราจึงคิดค้นกระเช้าขนาดเล็กที่ห้อยกับสายเคเบิ้ล ติดอยู่ด้านหน้าของกระเช้านักแสดง ไม่มีใครเคยทำแบบนี้มาก่อน และไม่มีใครรับรองความปลอดภัย พวกเราต้องถ่ายทำอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่มีใครช่วยเหลือผู้กำกับภาพ และไม่มีการปรับเปลี่ยนกล้องอะไรทั้งสิ้น พวกเขาอยู่สูงจากพื้นห้าสิบฟุต ในเวลากลางคืน มีลมกรรโชกรุนแรง สูงจากระดับน้ำทะเล 10,000 ฟุต นักแสดงต้องเป็นคนที่ช่วยเปลี่ยนเลนส์และตัดช็อตเอง ตลอดเวลามันทำให้ผมคิดว่า “เรากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่ ทำไมเราต้องทำถึงขนาดนี้” ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่นักแสดงและทีมงานได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเล็กน้อย
คุณคิดว่าผู้ชมจะได้อะไรจากการดูหนังเรื่องนี้
ผมอยากให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความสยอง ความระทึก ความกลัว และความหวัง ผมต้องการให้พวกเขานั่งไปกับรถไฟเหาะแห่งอารมณ์คันนี้ ผมหวังว่าพวกเขาจะชื่นชมความท้าทายครั้งประวัติศาสตร์ที่หนังเรื่องนี้ทำ และคอยย้ำเตือนให้เขารู้สึกถึงพลังของการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิม ทุกอย่างไม่ได้ถูกแต่งแต้มด้วยเอฟเฟ็ค เทคนิกพิเศษ มุมกล้อง หรือการตัดต่อใดๆทั้งสิ้น ผมหวังว่าพวกเขาจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อ Frozen จบลง และกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อยากพูดถึง เมื่อใดก็ตามที่ไปเล่นสกีบนภูเขาหิมะ ผมต้องการฝากรอยแผลเอาไว้ และให้มันฝังลงไปในจิตใต้สำนึกของคนที่ดูหนังเรื่องนี้
ทีมนักแสดง
เควิน ซีเกอร์ (รับบทเป็น แดน)
เควิน ซีเกอร์ เกิดในเมืองออนทาริโอ้ ประเทศแคนาดา เราก้าวเข้ามาในเส้นทางบันเทิงตั้งแต่ 6 ขวบจากผลงานโฆษณา ก่อนที่จะได้รับบทสมทบในซีรี่ย์ชื่อดังอย่าง The X-Files และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ Air Bud ภาพยนตร์ครอบครัวที่เป้นเรื่องของสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เล่นกีฬา ซึ่งเขาได้กลับมารับบทอีกสองถาค
จากนั้น เควิน ซีเกอร์ ก็มีผลงานในหนังสยองขวัญ Wrong Turn และหนังซอมบี้ เรื่อง Dawn of the Dead ของผู้กำกับ แซ็ค ชไนเดอร์ ก่อนที่กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งใน Transamerica ที่แสดงคู่กับ เฟลิซิตี้ ฮัฟแมน นักแสดงสาวที่เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานำหญิง โดยเขารับบทเป็นลูกชายของสาวประเภทสอง จากการแสดงที่โดดเด่น ทำให้ ซีเกอร์ ได้รับรางวัล Chopard Award จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่งมอบให้กับนักแสดงดาวรุ่งประจำปี
เควิน ซีเกอร์ เพิ่งมีผลงานใน It's a Boy/Girl Thing หนังโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เขาสลับร่างกับ ซาเมียร์ อาร์มสตรองค์ และกำลังมีผลงานใหม่เรื่อง The Story of Bonnie and Clyde ที่เขารับบทนำคู่กับ ฮิลารี ดัฟฟ์ ที่กำลังเริ่มถ่ายทำในปีนี้
ฌอน แอชมอร์ (รับบทเป็น ลินช์)
ฌอน แอชมอร์ เกิดในบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา มีฝาแฝดชื่อ แอรอน แอชมอร์ ที่เป็นนักแสดงเช่นกัน โดยพวกเขามักรับบทเป็นฝาแฝดในหนังหลายเรื่อง โดย ฌอน เป็นที่รู้จักกันดีจากบท "ไอซ์แมน" ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่บล็อคบัสเตอร์ X2 และ X-Men: The Last Stand
ฌอน ยังได้รับบทนำในมินิซีรี่ย์เรื่อง Legend of Earthsea ซึ่งสร้างมาจากนิยายขายดีของ เออซูล่า เลอกุอิน โดยเขารับบทเป็น เก็ต พ่อมดหนุ่มมือใหม่ และยังมีผลงานในหนังสยองขวัญสุดระทึกเรื่อง The Ruins โดยเขารับบทเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยว ที่ติดอยู่บนโบราณสถานของชนเผ่ามายัน และถูกจู่โจมจากศัตรูที่ไม่มีใครคาดคิด
นอกจาก Frozen แล้ว ในปีนี้เขาก็ยังมีผลงานในหนังทริลเลอร์เรื่อง Mother's Day ผลงานของผู้กำกับ Saw ร่วมแสดงนำโดย บริอาน่า เอวิแกน และ เจมี่ย์ คิง รวมถึง The Story of Bonnie and Clyde ที่เขากลับไปร่วมงานกับ เควิน ซีเกอร์ อีกด้วย
เอ็มม่า เบล (รับบทเป็น พาร์คเกอร์)
เอ็มม่า เบล เกิดในรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระหว่างเรียนในโรงเรียนมัธยม เธอก็เริ่มฉายแววบนละครเวทีเรื่อง Bye Bye Birdie ก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเข้ามาในโลกการแสดง โดยเธอมีผลงานทางโทรทัศน์ในซีรี่ย์ชื่อดังมากมาย เช่น Law & Order: SVU, Third Watch, Ghost Whisperer, Dollhouse และล่าสุดใน Supernatural
ผลงานทางภาพยนตร์ของ เบล ก็มีอย่าง Gracie หนัง coming of age เรื่องเยี่ยมของผู้กำกับที่เคยได้รับรางวัลออสการ์จาก An Inconvenient Truth โดย เบล รับบทเป็นสมาชิกในทีมฟุตบอลของนางเอก
Frozen ถือเป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้คนทั่วโลกเห็นถึงความสามารถในการแสดงของเธอเป็นครั้งแรก
ทีมงานสร้าง
อดัม กรีน (ผู้กำกับ/เขียนบท)
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย อดัม กรีน ได้การกำกับและอำนวยการสร้างโฆษณาในเคเบิ้ลท้งถิ่น โดย กรีน ได้ยืมอุปกรณ์การถ่ายทำต่างๆ ในการสร้างหนังสั้นของตัวเอง และด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน ไฟสปอร์ตไลท์สามดวง และแมวอีกหนึ่งตัว หนังสั้นเรื่องแรกของ กรีน ที่ชื่อ Coffee & Donuts ก็สร้างเสร็จด้วยเงินเพียง 400 เหรียญ ในปี 1999 ซึ่งได้รับความสนใจการสตูดิโอชื่อดังอย่างดิสนีย์
จนในที่สุด กรีน ก็ได้มีโอกาสทำหนังเรื่องแรกอย่าง Hatchet หนังสยองขวัญที่สร้างบูชาหนังเชือดสยองยุค 80 ซึ่งเปิดฉายและได้รับเสียงชื่นชมอย่างท่วมท้นใน Tribeca Film Festival ปี 2006 โดยหนังเรื่องร้ได้เดินทางกวาดรางวัลมากมาย รวมถึง "รางวัลขวัญใจคนดู" ในสามประเทศ และเป็นหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมของ MTV และ Ain’t It Cool News และได้รับคำวิจารณ์จาก แฮรี่ โนวล์ส ว่า "นี่คือหนังเชือดสยองที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 20 ปี"
ภาพยนตร์เรื่องต่อมาของ กรีน คือ Spiral หนังระทึกขวัญ/จิตวิทยา ซึ่งนำแสดงโดย โจเอล เดวิด มัวร์ จาก Avatar และ แซ็คเคอรี่ เลวี่ย์ จากซีรี่ย์ Chuck ซึ่งได้รับรางวัล Gold Vision Award จาก Santa Barbara International Film Festival และรางวัล Silver Award จาก Austin’s Fantastic Film Festival รวมถึงการได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ชื่อดังว่า “ทำให้เรานึกถึงการเล่าเรื่องขั้นปรมาจารย์ของ อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก "
เมื่อไม่นานมานี้ กรีน ก็ได้อำนวยการสร้างหนังสยองขวัญเรื่อง Grace ของผู้กำกับ พอล โซเล็ท เรื่องของผู้หญิงที่แท้งลูก แต่กลายเป็นว่าเกิดปาฏิหาริย์เมื่อลูกกลับคืนชีพขึ้นมา โดยหนังเปิดฉายในเทศกาลหนังซันแด๊นซ์ปีที่แล้ว ซึ่งก็ทำให้มีคนหมดสติด้วยความช็อคถึงสองคนในรอบปฐมทัศน์ และก็เป็นช่วงระหว่างการถ่ายทำ Grace ที่ อดัม กรีน ใช้เวลาเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Frozen
ปีเตอร์ บล็อค (ผู้อำนวยการสร้าง)
ผลงาน >>> Saw I-VII, The Midnight Meat Train, The Eye
วิล บาร์เร็ทท์ (ผู้กำกับภาพ)
ผลงาน >>> Hatchet, Spiral, Frozen
เอ็ด มาร์ค (ผู้ตัดต่อ)
ผลงาน >>> Jeepers Creepers 1 & 2, Wrong Turn 2