กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา แนวทาง การดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกระทรวงการคลัง และกรุงเทพมหานครร่วมกันจัดขึ้น เพื่อชี้แจงแนวทางการทำงานให้แก่สำนักงานเขต 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ในการเจรจาประนอมหนี้นอกระบบและกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวน 84,653 คน มูลหนี้รวมทั้งสิ้น 7,526,974,294.08 บาท
กทม. ได้รับนโยบายจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบภาคประชาชนแบบบูรณาการ โดยเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 52 — 31 ม.ค. 53 ซึ่งกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้แจ้งข้อมูลลูกหนี้ในกรุงเทพมหานคร แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีมูลหนี้น้อยกว่า 50,000 บาท จำนวน 44,335 ราย มูลหนี้เกิน 50,000—200,000 บาท มีจำนวนทั้งสิ้น 40,258 ราย โดยให้ธนาคารของรัฐ ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบธนาคาร
รองผู้ว่าฯ ทยา กล่าวว่า ขณะนี้กทม. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบระดับเขต โดยตั้งเป้าเจรจาประนอมหนี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย. 53 เพื่อส่งต่อให้ธนาคารประเมินและดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.53 สำหรับลูกหนี้ที่ไม่สามารถเข้าระบบของธนาคารได้ กทม. ได้มอบหมายให้สำนักพัฒนาสังคมเข้าไปช่วยเหลือและฝึกอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้และสามารถชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ต่อไป