กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ ( TCIF ) ซึ่งเปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 15-23 มีนาคม 2553 ปรากฎว่ามียอดจองซื้อสูงกว่ามูลค่าโครงการ โดยกองทุนทีมูลค่าโครงการ1,960 ล้านบาท ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสนใจเนื่องจาก เป็นโครงการที่กองทุนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในอาคารสำนักงาน พร้อมที่ดิน ซึ่งเหมาะสมกับนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการจองซื้อที่เกินกว่ามูลค่าโครงการนั้น ทางบริษัทจะดำเนินการคืนเงินให้กับผู้จองซื้อโดยเร็ว หลังจากกองทุนได้ดำเนินการจดทะเบียนกองทุนกับทางสำนักงานก.ล.ต.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย 2 กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2553 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย ฟอเรน ฟิกซ์อินคัม 12M4 (KTF12M4 ) อายุโครงการ 12 เดือน มูลค่า 1,500 ล้านบาท ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการ ที่ 1.60% ต่อปี และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 4 (KTFF4 ) อายุโครงการ 23 เดือน มูลค่า 700 ล้านบาท ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.30%ต่อปี โดยจ่ายผลตอบแทนคืนทุกๆ 3 เดือน
ทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะพิจารณาความมั่นคงของผู้ออกตราสารเป็นหลัก และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง 100% เครดิตเรตติ้งที่ AA โดยฟิทซ์
สำหรับภาวะการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ ยังคงปรับตัวลดลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรในเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลจากการที่ นาย คิม ชุง ซู ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ของเกาหลีใต้ แทนที่นาย ลี ซุง แต โดยตลาดส่วนใหญ่เชื่อ ว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่มีแนวโน้มที่จะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ มีโอกาสถูกรวมเข้ามาอยู่ในการคำนวณ ดัชนี World Government Bond Index (WGBI) ประกอบกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก จากปัญหางบประมาณภาครัฐของยุโรป จึงมีกระแสเงินทุนจากนักลงทุนและนักเก็งกำไรต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้เกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในเกาหลีใต้เมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับลดลง แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรไทย ในระดับความเสี่ยงและอายุที่ใกล้เคียงกัน และพันธบัตรเกาหลีใต้ ที่บริษัทลงทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ในปัจจุบัน บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายหน่วยลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนผ่านระบบ Internet Trading ที่KTAM Smart Trade ทาง www.ktamsmarttrade.com นอกเหนือจาก ผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยและตัวแทนการจำหน่ายหน่วยลงทุนทั่วประเทศ