"ยูโรเปี้ยนฟู้ด" รุกตลาดเต็มสูบ เปิดตัวเอลเซ่-เลเยอร์เค้กรสใหม่ เจาะตลาดรายแรกในเอเชีย

ข่าวทั่วไป Tuesday March 20, 2007 15:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ยูโรเปี้ยนฟู้ด
" ยูโรเปี้ยนฟู้ด" เผยนโยบายบริษัทฯ รุกตลาดเต็มสูบทุกรูปแบบ เล็งคลอดสินค้าใหม่ 2-3 ตัวในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ ประเดิมทุ่มงบ 60 ล้านบาท เปิดตัวเอลเซ่-เลเยอร์เค้กรสใหม่ เจาะตลาดรายแรกในเอเชีย จ่อคิวคลอดหนังโฆษณาชุดใหม่ออนแอร์ปลายมี.ค. นี้ ตอกย้ำผู้นำตลาดทางด้านโปรดักส์ อินโนเวชั่น ตั้งเป้าปี 50 นี้ ตั้งเป้าโกยรายได้ 2,440 ล้านบาท โตขึ้น 25% ดันยอดขายสินค้ากลุ่มเลเยอร์เค้กพุ่ง 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสัดส่วนการขายในประเทศประมาณ 83% และส่งออกไปยังกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ อีกประมาณ 17% แย้มปลายเมษายน 50 ปล่อยอิเลคทริค คาร์วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารจุดแรกที่จตุจักร-ภายในมหาวิทยาลัย 4-5 แห่ง หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
นายสมชาย เวชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายยูโร่คัสตาร์ดเค้ก เลเยอร์เค้กตราเอลเซ่ เวเฟอร์ตราปักกิ่ง เวเฟอร์ตราโอโจ้ เยลลี่ปีโป้ เครื่องดื่มชาเขียวตราโตเซน ฯลฯ เปิดเผยถึงนโยบายทางการตลาดในปี 50 ว่า บริษัทตั้งเป้าทำตลาดเชิงรุกทุกรูปแบบ พร้อมทั้งการออกสินค้าใหม่ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น เค้ก ลูกอม มัชเมลโล่ ให้สอดรับกับความต้องการของท้องตลาด และการทำตลาดแบบเชิงรุกให้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุด บริษัทฯ เปิดตัว "เค้กไส้ครีมผสมแยม ราสเบอร์รี่" เป็นสินค้าใหม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเยอร์เค้กตราเอลเซ่ ซึ่งมีความแปลกใหม่แตกต่างจากสินค้าอื่นในท้องตลาด พร้อมความอร่อยในราคาคุ้มค่า เพราะเป็นเค้กที่มีรสชาติของไส้ครีมและแยมหวานบวกเปรี้ยว ถือเป็นการผลิตสินค้ารสชาติใหม่รายแรกในตลาดเอเชีย ที่มีการใช้เทคโนโลยีหลายด้านในการผลิต ทำให้สามารถเก็บสินค้าได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ในอุณหภูมิปกติโดยไม่ต้องแช่เย็น โดยในปีแรกตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 100 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเยอร์เค้กตราเอลเซ่เพิ่มขึ้น 43 % เมื่อเทียบกับปีก่อน
งบการตลาดโดยรวมของปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าวางไว้ที่ 150 ล้านบาท โดย Above The Line จะแบ่งเป็น 67 % ของงบการตลาดคือ 100 ล้านบาท และ 50 ล้านบาทในส่วนของ Below the line เน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์การตลาดแบบเชิงรุก
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ใช้งบทำตลาดสำหรับสินค้าตัวใหม่ข้างต้นประมาณ 30 ล้านบาท โดยประมาณปลายเดือนมีนาคม 2550 จะมีการออกอากาศภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ชื่อ Popular Hit ความยาว 15 วินาที และ 30 วินาที โดยยังคงคอนเซ็ปต์หลักของเอลเซ่ คือเป็นหนังเพลง ที่เน้นความสนุกสนาน ด้วยการใช้คนที่มีหน้าคล้ายศิลปินชื่อดังมาแสดงเช่นเดิม อาทิ ติ๊ก ชิโร่, พลพล และพันซ์ มาเป็นตัวเอกของภาพยนตร์โฆษณา เพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำคาแร็กเตอร์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเยอร์เค้กตราเอลเซ่ เช่นเดียวกับคอนเซ็ปต์ของภาพยนตร์โฆษณากลุ่มผลิตภัณฑ์ยูโร่คัสตาร์ดเค้ก ที่ต้องมีเสียงท้องร้องแทรกอยู่เสมอ ถือเป็นมุขตลกให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำตราสินค้าได้
" เราทำเค้กมานานกว่า 13 ปีแล้ว ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ ก็มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการผลิตนานร่วม 2 ปี เพื่อทำให้เค้กสามารถเก็บได้นาน โดยไม่ให้เชื้อโรคเติบโต แป้งก็ไม่แห้ง นี่จึงถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้เรามีความแข็งแกร่งทางด้านโปรดักส์ที่ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะเทคโนโลยีการผลิตเค้ก เพราะถ้าเป็นสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกอมจะสังเกตว่า คนอื่นๆ ก็ทำได้ การพัฒนาเทคโนโลยีตรงนี้ทำให้เรามองโปรดักส์ใหม่ๆ ออกไปอีกมาก" นายสมชาย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะวางระบบจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่มากที่สุด แม้ว่าปัจจุบันบริษัทฯ จะมีการกระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว แต่เนื่องจากสินค้าที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายมีการแข่งขันสูง เพื่อความไม่ประมาททำให้บริษัทฯ ต้องการดูแลลูกค้ามากยิ่งขึ้นให้สอดรับกับภาวการณ์แข่งขันของท้องตลาดตลอดเวลา
ปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งระดับแถวหน้าของตลาดไปแล้ว เพราะนอกจากที่ผ่านมาบริษัทฯ จะเป็นผู้นำตลาดทางด้าน โปรดักส์ อินโนเวชั่น (Product Innovation) แล้ว ยังมีการวางระบบบริหารการจัดการที่ดี ภายใต้แนวคิด ยูโร่ ซีอีโอ สไตล์ ( EURO CEO STYLE) ที่มีการเน้นในเรื่อง Innovation กับ CSR เป็นหลัก โดยเน้นเรื่องการพัฒนาศักยภาพของการทำงานของพนักงานบวกกับการสอดคล้องในเป้าหมายเชิงรุกด้านการตลาด และนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ ทำงานเป็นทีมเวิร์ค มองว่าบุคลากรทุกๆ ส่วนมีความสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตและประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กับการเติบโตของธุรกิจ พร้อมเชื่อมั่นแต่ละคนมีความสามารถกันคนละแนว เช่น บางคนเก่งทางด้านการตลาด การขาย การออกแบบ
" เรามองว่าซีอีโอต้องคอยดูแลทีมเวิร์ค เหมือนเวลาเราทำอาหารต้องดูแลวัตถุดิบให้ดี เพราะถือเป็นองค์ประกอบทำให้สินค้าอร่อยและคุ้มค่า ที่ผ่านมายูโรเปี้ยนฟู้ดจัดเป็นผู้นำทางด้านโปรดักส์ อินโนเวชั่นในอุตสาหกรรมรายแรกๆ ของเมืองไทย ที่ผลิตสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ท้องตลาด พร้อมๆ กับการดูแลรับผิดชอบสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของบริษัทฯ เพราะเรามีการเติมสารอาหารลงไปด้วย สังเกตว่าตอนท้ายของหนังโฆษณาทุกเรื่องของบริษัทฯ จะจบด้วยรอยยิ้มของผู้บริโภค เพราะของที่ทานไปปลอดภัยและมีคุณค่า " นายสมชาย กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเมษายน 2550 บริษัทฯ จะนำ อิเลคทริค คาร์ (Electric Car) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าใหม่สามารถจุได้ 10 คนต่อคัน มีจุดเด่นปลอดภัยและไม่มีมลพิษ ถือเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม จำนวน 35 คัน มาให้บริการรับส่งผู้โดยสารในเขต กรุงเทพฯ ซึ่งในช่วงปีแรกรถดังกล่าวจะทดลองให้บริการบริเวณจตุจักร และภายในมหาวิทยาลัย 4-5 แห่ง เช่น ม.เกษตรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุ งเทพ จากนั้นหากได้รับผลตอบรับดีจากผู้โดยสารก็คาดว่าจะมีแผนขยายไปยังบริเวณต่างๆ " นายสมชาย กล่าว
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังเน้นนโยบายดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม ( CSR : Corporate Social Responsibility) อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยการผลิตสินค้าในแต่ละกลุ่ม เรียกได้ว่าทุก Brand เราตั้งใจผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและเน้นความอร่อย ในราคาคุ้มค่า ซึ่งเราถือว่าการรับผิดชอบต่อลูกค้า ต่อสังคม ยูโร่ฯ มีการนำเสนอด้าน CSR อย่างต่อเนื่อง โดยใน ปีนี้บริษัทฯ มุ่งกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ มอบของให้กับโรงเรียนต่างๆ กว่า 400 แห่ง และองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ มอบทุนการศึกษาให้กับชุมชนที่ยากจนในที่ต่างๆ ในละแวกใกล้กับโรงงานของ ยูโร่ฯ ณ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นประจำทุกปี พร้อมทั้งเราได้เข้าไปสนับสนุนโครงการ "ของขวัญแด่น้อง" ของกลุ่ม "รุ้งกินน้ำ" นำทีมโดยศิลปิน - นักร้อง อัยย วีรานุกูล ทุกเดือน
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ