กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ผนึกกำลัง ชูความเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ตอบโจทย์ ‘รักรถ รักษ์โลก’ พร้อมเปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 โดดเด่นด้วยสมรรถนะ ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เตรียมโชว์ความเหนือชั้นของเทคโนโลยี EfficientDynamics ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31 ‘รักรถ รักษ์โลก’ อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีดีเซลเหนือชั้นและพลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 พร้อมเปิดตัว 9 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่รถยนต์ BMW X1, BMW 318i, BMW 325i Sport, BMW Z4 sDrive23i และ BMW 730Li อีกทั้งยังมีรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูอีก 4 รุ่น ได้แก่ BMW S 1000 RR ซุเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู, BMW F 800 R, BMW R 1200 GS / Adventure และ BMW R 1200 RT
มร. มิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘รักรถ รักษ์โลก’ หรือ ‘Ecology Driving Save the Earth’ ของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31 นี้ ทางบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยนำเสนอเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถสัมผัสได้จริงสำหรับลูกค้า เทคโนโลยี EfficientDynamics นี้ นอกจากจะทำให้รถยนต์มีสมรรถนะสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย และในงานนี้ นอกจากความเหนือชั้นของ Advanced Diesel ที่มีให้เลือกทั้งในรุ่นซีรี่ย์ 3, ซีรี่ย์ 5, ซีรี่ย์ 7, X3 และ X5 แล้ว เรายังได้เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 อีก 4 รุ่น ได้แก่ BMW 730Li, BMW 325i Sport, BMW Z4 sDrive23i และ BMW 318i ต่อเนื่องจากความสำเร็จของ BMW 320i SE ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู ที่เปิดตัวสู่ตลาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เรายังจะเปิดแสดงตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในเมืองไทย สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ BMW X1 ที่เพิ่งได้รับรางวัล ‘Off-Road of the Year’ ในคลาส Crossover จุดเด่นของ BMW X1 คือการที่มันเป็นรถแบบ Crossover ที่เน้นความสปอร์ตคล่องตัวอย่างมีสไตล์ ในส่วนของมินิ ก็จะมีการจัดแสดงรถยนต์มินิรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี MINI 50 Mayfair และ Camden ซึ่งกำลังจะหยุดการผลิตในไม่ช้านี้ ดังนั้นแฟนมินิที่อยากได้รุ่นครบรอบไว้ครอบครอง อย่ารอช้า! และในด้านของผลิตภัณฑ์มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู เรายังมีการเปิดตัว BMW S 1000 RR ซึ่งเป็นซุเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยู ที่เพิ่งได้รับรางวัล Motorcycle of the Year 2010 จากนิตยสาร MOTORRAD ซึ่งเป็นนิตยสารมอเตอร์ไซค์ชั้นนำของประเทศเยอรมนี สุดท้ายนี้ ผมเชื่อมั่นว่า ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ เราได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือชั้นด้านเทคโนโลยี ความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ และความมุ่งมั่นในการบริการลูกค้าของเราในวันนี้ และนี่จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการก้าวขึ้นตำแหน่งผู้นำของเซ็กเมนท์พรีเมี่ยม”
ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์
BMW 730Li หลังจากความสำเร็จของ BMW 740Li และ BMW 730Ld ซึ่งเป็นสุดยอดรถยนต์ระดับซุเปอร์ซาลูนสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้เสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ระดับซุเปอร์ซาลูนด้วย BMW 730Li ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสุดยอดของด้านวิศวกรรมยานยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู นอกจากมันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะสูง ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้แล้ว มันยังเป็นรถระดับซุเปอร์ซาลูนที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในคลาสคันหนึ่ง
BMW 730Li ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทั้งในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เช่น เทคโนโลยีระบบ DDC Dynamic Damper Control ที่ช่วยให้ปรับความนุ่มนวลของระบบช่วงล่างให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรถขณะใช้ความเร็วสูงอีกด้วย และระบบ Night Vision ใหม่ ซึ่งเป็นระบบกล้องอินฟาเรดที่มาพร้อมกับความสามารถในการจับทิศทางและความเร็วของคนหรือสัตว์ เพื่อคำนวณและเตือนล่วงหน้าให้ผู้ขับได้ทราบถึงสถานการณ์ที่อาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะยามค่ำคืนและอยู่เกินระยะส่องของไฟหน้า นอกจากนั้น BMW 730Li ยังได้รับการติดตั้งระบบนำทาง BMW Navigation System Professional ซึ่งทำงานบนระบบฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้ความสะดวกสบายและรวดเร็วในการค้นหาเส้นทาง และยังสามารถจัดแบ่งหน่วยความจำขนาด 12 กิ๊กกะไบท์เพื่อเก็บข้อมูลเพลงและวีดิโอได้อีกด้วย
- BMW 730Li ราคา 7,299,000 บาท (ราคาพิเศษสำหรับช่วงแนะนำ 100 คันแรก): เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร / 2,600-3,000 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 9.0 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 10.3 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 229 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW 325i Sport สุดยอดแห่งสปอร์ตซีดานที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ BMW 325i Sport ซึ่งผลิตมาจำนวนจำกัดเพียง 48 คันนี้ เป็นรถสปอร์ตซีดานที่สมบูรณ์แบบที่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับแฟนบีเอ็มดับเบิลยูผู้รักความสปอร์ตโดยเฉพาะ มันมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมความสปอร์ตต่างๆ เช่น ชุดแต่ง M Aerodynamics Kit พร้อมระบบช่วงล่าง M Sport, ล้ออัลลอยด์ M ขนาด 18 นิ้ว, ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบสเต็ปทรอนิคและแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย, พวงมาลัย M Sport พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น, ระบบเครื่องเสียงไฮไฟ, ระบบนำทาง BMW Navigation System Professional ซึ่งทำงานบนระบบฮาร์ดดิสก์ ที่สามารถจัดแบ่งความจำ 12 กิ๊กกะไบท์เพื่อใช้เก็บข้อมูลเพื่อความบันเทิง เช่น เพลงและวีดิโอ และระบบ iDrive ใหม่พร้อมจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้ว เป็นต้น นอกจากนี้ มันเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยพิเศษซึ่งผนวกเข้ากับระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control ได้แก่ ระบบเบรกพิเศษสำหรับความเร็วสูง ที่เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ระบบเบรกจะเข้าโหมดเตรียมพร้อมทันที และเมื่อผู้ขับเหยียบแป้นเบรก ระบบก็จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการลดเวลาในการตอบสนองและเพิ่มความปลอดภัยโดยเฉพาะขณะใช้ความเร็วสูง, ระบบ Dry Brake ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยรีดน้ำและความชื้นออกจากระบบเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด โดยเฉพาะเวลาขับในสภาพถนนเปียก และระบบ Brake Fade Compensation ซึ่งจะเพิ่มแรงจับเบรกอย่างอัตโนมัติตามอุณหภูมิของจานและผ้าเบรก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเบรกในขณะที่ระบบเบรกถูกใช้งานหนักจนมีความร้อนสะสม
- BMW 325i Sport ราคา 3,199,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,750-4,250 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.7 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.4 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 174 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW Z4 sDrive23i สุดยอดแห่งสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สง่างาม ผสมผสานความคลาสสิกแนวโรดสเตอร์ขนานแท้เข้ากับความสปอร์ตล้ำสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้มันสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศด้านดีไซน์ยอดเยี่ยมมาแล้วถึง 2 รางวัล คือ รางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมจากงาน Red Dot Design Award และรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยม Eyes On Design Award ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น มันยังมาพร้อมกับอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตโรดสเตอร์เต็มรูปแบบ ด้วยการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล 50:50 หน้า:หลัง และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง นอกจากระบบขับเคลื่อนที่เหนือชั้นแล้ว มันยังมีความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น หลังคาแบบ Retractable Hardtop น้ำหนักเบาสามารถเปิดหรือปิดในเวลาเพียง 20 วินาที อีกทั้งยังสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ (ขณะหลังคาปิด) สำหรับผู้ขับขี่ที่รักความสปอร์ตของรถแบบโรดสเตอร์แต่ยังคงหลงใหลในกีฬากอล์ฟโดยเฉพาะ
? BMW Z4 sDrive23i ราคา 4,399,000 บาท / BMW Z4 sDrive23i Highline ราคา 4,799,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร / 2,750 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.3 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.3 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 207 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW 318i รุ่นเริ่มต้นที่เน้นคุ้มค่าสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู BMW 318i มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics อีกทั้งยังสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่เน้นความคุ้มค่า ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นก็ตาม BMW 318i มาพร้อมกับสมรรถนะความเป็นสปอร์ตซีดานในสไตล์บีเอ็มดับเบิลยู อีกทั้งมียังอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆอย่างเพียบพร้อม เช่น ระบบ Comfort Access, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ระบบ PDC Parking Distance Control สำหรับช่วยกะระยะขณะถอยหลัง และระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control BMW 318i คันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นประสบการณ์ Sheer Driving Pleasure ได้เป็นอย่างดี
- BMW 318i ราคา 2,299,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 10.8 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 12.8 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 155 กรัมต่อกิโลเมตร
MINI 50 Mayfair และ MINI 50 Camden ทั้งสองเป็นมินิรุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นมาในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ของมินิ เอกลักษณ์ของความเป็นมินิ ทั้งอดีตที่ยิ่งใหญ่และอนาคตที่สดใส ได้ถูกบรรจงผสมผสานอย่างลงตัวในคาร์แรกเตอร์และการออกแบบทั้งภายนอกและภายในของทั้งสองคัน ภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ มินิจึงพัฒนารุ่น Mayfair ให้เป็นตัวแทนของอดีตที่ยิ่งใหญ่ของรถคันเล็กอย่างมินิ และให้รุ่น Camden เป็นตัวแทนจากอนาคต ซึ่งคาร์แรกเตอร์ของอดีตและอนาคตนี้ได้แสดงออกผ่านดีไซน์พิเศษเฉพาะของแต่ละรุ่น ทั้งในเรื่องของสีภายนอก ล้ออัลลอยด์ลายพิเศษ และการตกแต่งภายในด้วย ทั้ง MINI 50 Mayfair และ MINI 50 Camden จะหยุดการผลิตในเร็วๆนี้
- MINI Cooper 50 Mayfair ราคา 2,600,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตรที่ 4,250 รอบ และอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 9.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 17.2 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ยเพียง 139 กรัมต่อกิโลเมตร
- MINI Cooper S 50 Camden ราคา 3,000,000 บาท: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo และระบบฉีดน้ำมัน GDI Gasoline Direct Injection สามารถผลิตกำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตรระหว่าง 1,600-5,000 รอบ และสามารถเพิ่มเป็น 260 นิวตัน-เมตรในขณะเร่งแซงด้วยฟังก์ชั่น Over-boost ของเทอร์โบ มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 7.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 14.5 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ยเพียง 164 กรัมต่อกิโลเมตร
มอเตอร์ไซค์ BMW S 1000 RR มอเตอร์ไซค์แบบซุเปอร์ไบค์คันแรกจากบีเอ็มดับเบิลยูคันนี้ ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง บนตัวถังเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา มุ่งเน้นที่เสถียรภาพการขับ ความปราดเปรียว และความเฉียบคมในการบังคับที่เป็นเลิศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์แข่ง นอกจากนั้น BMW S 1000 RR ยังได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น Race ABS และระบบรักษาเสถียรภาพ DTC Dynamic Traction Control ที่สามารถปรับเลือกโหมดการขับให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานได้ เช่น โหมด Rain สำหรับถนนเปียก โหมด Sport สำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต โหมด Race สำหรับการแข่งขัน และ โหมด Slick สำหรับใช้ในสนามแข่งและใส่ยางแบบสลิ๊ค
- BMW S 1000 RR ราคาเริ่มต้นที่ 950,000 บาท: เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้าที่ 13,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตรที่ 9,750 รอบ และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 2.9 วินาที
แคมเปญจ์มอเตอร์โชว์ - BMW
พิเศษสำหรับในช่วงมอเตอร์โชว์ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยจัดแคมเปญจ์พิเศษ สำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงาน คือ (1) แคมเปญจ์ ”Trade-In” และ (2) แคมเปญจ์ “ของขวัญพิเศษ iPod / iPhone” แคมเปญจ์ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 6 เมษายน พ.ศ. 2553
ไฮไลท์ของแคมเปญจ์ ”Trade-In”
รุ่นที่สั่งซื้อ แคมเปญจ์ "Trade-In"
BMW 525i มูลค่า 400,000 บาท
BMW 525i Sport มูลค่า 350,000 บาท
BMW 520d Sport มูลค่า 350,000 บาท
BMW X3 xDrive25i มูลค่า 350,000 บาท
เงื่อนไข ค่า Trade-In ดังกล่าว เป็นมูลค่าสนับสนุนเพิ่มเติมจากราคาประเมินของรถเก่าอ้างอิงจาก Red Book โดยรถที่จะนำมา Trade-In จะต้องมีมูลค่าประเมินมากกว่า 400,000 บาท โดยอ้างอิงจาก Red Book
ไฮไลท์ของแคมเปญจ์ ”ของขวัญพิเศษ iPod / iPhone”
สำหรับช่วงมอเตอร์โชว์นี้ (1 มีนาคม-6 เมษายน พ.ศ. 2553 เท่านั้น) ทุกท่านที่ซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงานนี้และรับรถภายใน 30 เมษายนนี้ จะได้รับของขวัญจากบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย คือ iPod Nano หรือ iPhone 3Gs (แล้วแต่รุ่นรถที่สั่งซื้อ) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ USB Connector เพื่อฟังเพลงจากระบบเครื่องเสียงของรถ BMW ได้
สำหรับข้อมูลเพื่อเติมหรือเงื่อนไขของแคมเปญจ์มอเตอร์โชว์นี้ (หรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส) สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800 269-269 (ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269) หรือติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BMW, MINI และ Rolls-Royce และรถมอเตอร์ไซค์ BMW เรามีเครือข่ายการผลิต 24 แห่งใน 13 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายจำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปีค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมียอดขายรถยนต์ 1.29 ล้านคันและรถมอเตอร์ไซค์ 87,000 คัน มีรายได้ 50.68 ล้านยูโร และมีพนักงาน 96,000 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนั้นเรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิต และจากความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ลดละ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปจึงได้รับการจัดอันดับให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Manufacturer โดยสถาบัน Dow Jones ใน 5 ปีที่ผ่านมา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
โทร. 0-2305-8820 โทรสาร 0-2305-8882