กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาร่างหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำเอกสารหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ครั้งที่ 2 ว่า การประชุมฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อนำเสนอร่างหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารหรือข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ที่ได้แก้ไขปรับปรุงตามข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมครั้งที่ 1 ให้คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ชุดที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาความครบถ้วนสมบูรณ์ของร่างหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำเอกสารหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
“ในการประชุมฯ ครั้งที่ 2 นี้ คณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ เช่น ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านกฎหมาย ได้ร่วมกันพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่พิจารณาสามารถสนองตอบต่อความต้องการของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะนำเสนอร่างหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าวต่อคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ภายในเดือนเมษายน 2553 และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2553 ซึ่งร่างหลักเกณฑ์และวิธีการฯ นี้ จะช่วยทำให้เกิดการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นในการจัดทำหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคของผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน ในส่วนของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ ส่งผลให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น และยกระดับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยให้เทียบเท่าในระดับสากลต่อไป” นายสือ กล่าว
สำหรับร่างหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารหรือข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์(e-Document) นี้ กระทรวงฯ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดทำขึ้นภายใต้โครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย/แผน/มาตรการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 มาตรา 12/1 ซึ่งกระทรวงไอซีที ได้เร่งผลักดันร่างหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว ให้สามารถประกาศใช้ในเดือนพฤษภาคม 2553 ทั้งนี้ เพื่อได้ทันกับการดำเนินการจัดทำระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพ หรือ ระบบ ICAS ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะเปิดใช้งานในเดือนพฤษภาคม 2553 เช่นกัน ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำเอกสารหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) นี้ จำเป็นต่อระบบ ICAS ในการรับรองภาพเช็คที่พิมพ์ออกจากระบบเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการใช้ระบบ ICAS อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-1416747 MICT