กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ระหว่างวันที่ ๒๘ — ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในกฎ ระเบียบ และสภาพปัญหาทางสังคมที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หวังเป็นตัวแทนที่มีศักยภาพในการนำการพัฒนาสังคมลงสู่ระดับชุมชน โดยมีแกนนำ อพม. และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ กว่า ๑,๕๐๐ คน ร่วมประชุม
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า นโยบายของรัฐบาลต้องการผลักดันให้ประชาชนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในด้านการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยแต่งตั้งเป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ อพม เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เป็นต้นมา ปัจจุบันมีประมาณ ๗.๘ หมื่นคน เพื่อทำหน้าที่ประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวง ในการคุ้มครอง ช่วยเหลือ จัดสวัสดิการ ฯลฯ แก่กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ รวมถึงการชี้เป้าเฝ้าระวังและการทำแผนชุมชน อีกด้วย
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า การพัฒนาสังคม เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องดำเนินการอย่างใกล้ชิดกับประชาชนและต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย การมีอาสาสมัครปฏิบัติงานด้านต่างๆ ในชุมชนจึงเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสังคม ซึ่งการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของ อพม. ถือว่าเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งของกระทรวง ในการพัฒนาสังคม การสร้างความเป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคม การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและความมั่นคงในชีวิต สถาบันครอบครัว ชุมชน และสังคม แต่เนื่องจากสภาพปัญหาทางสังคมในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ประกอบกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายฉบับ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ครั้งนี้ขึ้น ระหว่างวันที่ วันที่ ๒๘ — ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓ โดยมีแกนนำ อพม.และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ กว่า ๑,๕๐๐ คน ร่วมประชุม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใน และพัฒนาศักยภาพให้แก่ อพม. ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของกระทรวงในระดับพื้นที่ ชุมชน ให้สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน และถ่ายทอดความรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายในชุมชน หมู่บ้าน เพื่อร่วมกันพัฒนาสังคมให้ยั่งยืนต่อไป