รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2553

ข่าวทั่วไป Monday March 29, 2010 15:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2553 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเป็นร้อยละ4.5 ต่อปี มากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี โดยมีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวที่เร็วกว่าที่คาดของเศรษฐกิจโลก และการใช้จ่ายภาคเอกชนภายในประเทศ” นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทย ณ เดือนมีนาคม 2553 ว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2553 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0 ต่อปี) ปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการ ณ เดือนธันวาคม 2552 ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี โดยมีแรงส่งจากการฟื้นตัวที่ดีมากกว่าที่คาดการณ์เดิมของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะคู่ค้าใหม่ในเอเชีย ส่งผลให้การส่งออกสินค้าและบริการในปี 2553 จะกลับมาขยายตัวในอัตราสูง นอกจากนั้น การใช้จ่ายภายในประเทศในปี 2553 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวดีมากขึ้น จากฐานที่ต่ำในปีก่อน เพราะฉะนั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2553 ถือเป็นการฟื้นตัวอย่างสมดุลมากขึ้น เพราะฟื้นตัวทั้งอุปสงค์ภายนอกประเทศและอุปสงค์ภายในประเทศพร้อมๆ กัน” นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า “ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2553 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี เร่งขึ้นจากปีก่อนที่หดตัวร้อยละ -12.7 ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวดีกว่าที่คาด ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนในปี 2553 โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร ตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่สูงขึ้นมาก และการจ้างงานที่ดีขึ้น โดยคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนในปี 2553 จะกลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 4.3 ต่อปี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ในปี 2553 คาดว่าจะขยายตัวจากฐานต่ำในปีก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 8.2 ต่อปี ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2553 จะปรับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5 - 4.5 ต่อปี) ตามราคาน้ำมัน ราคาสินค้าและบริการ ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก อีกทั้งคาดว่าจะมีการยกเลิกมาตรการบรรเทาค่าครองชีพในไตรมาส 3 ของปี 2553 จะมีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ส่วนเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2553 จะยังคงเกินดุลอยู่แต่จะเกินดุลลดลงจากปีก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.9 — 2.9 ของ GDP) เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าจะกลับมาขยายตัวสูงตามการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นและฐานที่ต่ำในปีก่อน” ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “การประมาณการเศรษฐกิจดังกล่าวได้คำนึงถึงผลกระทบของปัญหาการระงับการลงทุนในเขตมาบตาพุดและปัญหาการเมืองไว้แล้ว โดยหากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาทั้ง 2 ส่วนได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเร่งรัดเบิกจ่ายโครงการลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกรอบวงเงินอนุมัติมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2553 มีโอกาสที่จะขยายตัวได้ในกรณีสูงของช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ