นักลงทุนที่รวยเงินสด เลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายรับต่อเนื่อง

ข่าวอสังหา Tuesday March 30, 2010 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล นักลงทุนที่รวยเงินสด เลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายรับต่อเนื่อง ปริมาณการซื้อขายพุ่งพรวดขึ้น 115% ในจีนแผ่นดินใหญ่ และ 259% ในเอเชียใต้ ในเอเชียแปซิฟิก เปลี่ยนเป้าจากที่อยู่อาศัยเป็นอาคารสำนักงาน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย แปซิฟิก ยังคงได้รับประโยชน์จากทัศนคติในเชิงบวก และสภาพเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2552 กระเตื้องขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 ยอดขายในภูมิภาคนี้พุ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2552 แล้วปริมาณการซื้อขายโดยรวมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 115% เป็น 8,840 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเอเชียใต้เพิ่มขึ้น 259 ล้านเหรียญเป็น 3,262 ล้านเหรียญ "จีนแผ่นดินใหญ่เป็นปัจจัยหลัก ที่ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดพุ่งสูงขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 แม้ว่ารัฐบาล กลางจะออกมาตรการควบคุมการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรแล้วก็ตาม" ปิแอร์ส บรุนเนอร์ ประธานบริหารบริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนล - เอเชีย กล่าว "ระหว่างนี้ นักลงทุนที่รวยเงินสด อาจเลือกเก็บอสังหาริมทรัพย์ไว้ในพอร์ทเพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง" ยอดซื้อขายของประเทศอื่นๆ ในเอเชีย แปซิฟิก ยังมีอัตราการฟื้นตัวช้าเกินคาด อัตราการซื้อขายโดยรวมของออสตราเลเชีย ในครึ่งหลังของปี 2552 อยู่ที่ 50% ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน เนื่องจากราคาเพิ่มสูงขึ้น และผู้ขายที่เป็นบุคคลทั่วไปยกเลิกการขายสินทรัพย์ ในภูมิภาคนี้ ภาคที่อยู่อาศัยมีปริมาณการซื้อขายลดลงมากที่สุด ปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในภาคที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 อยู่ที่ 229 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 116% จากไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 สำหรับอัตราการเจริญเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปีนั้นปริมาณ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมเพื่อการลงทุนฟื้นตัวฟื้นตัวได้ดีที่สุด มีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นถึง 253% จากไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 เป็น 1,505 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 4 ของปี 2009 "ถึงแม้ว่ามูลค่าทรัพย์สินและปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่สองของปี 2552 ตลาดให้เช่าก็ยังไม่ค่อยกระเตื้อง" ไซมอน โล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา บริษัทคอลลิเออร์ส (ฮ่องกง) กล่าว "การลดลงของอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในภูมิภาคสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องนี้ เมื่อเทียบระหว่างไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 กับไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 แล้ว ผลตอบแทนของภาคอสังหาริมทรัพย์หลัก ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และเอเชียใต้ลดลงร้อยละ 3" การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 เนื่องจากอุปสงค์ของผู้ประกอบวิชาชีพมีน้อย "ในศูนย์อสังหาริมทรัพย์เดี่ยว ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองมีอัตราการว่างสูงเกินอัตราเฉลี่ย นอกจากนี้ ปริมาณอสังหาริมทรัพย์ใหม่ที่ล้นตลาดยังคงเป็นอุปสรรคของตลาดให้เช่าอสังหาริมทรัพย์" ไซมอนกล่าว "ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ กระเตื้องขึ้น อีกทั้งอุปสงค์ของอสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้นอันเป็นผลพวงจากจำนวนงานและการขยายธุรกิจที่เพิ่มขึ้นก็จริง แต่ตลาดให้เช่าอาจจะตกต่ำถึงขีดสุดในครึ่งหลังของปี 2553" ในปี 2553 คาดว่าจะยังคงมีทัศนคติในแง่บวกต่อเนื่องไปเรื่อยๆ "มีอุปสรรคในตลาด เช่น แรงกดดันอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีอยู่ ภาวะตึงตัวในการออกสินเชื่อของรัฐบาล มีการเพิ่มดอกเบี้ยสินเชื่อสำหรับอสังหาริมทรัพย์เป็นค่าความเสี่ยง ฯลฯ" นายอันโตนิโอ วู ผู้อำนวยการ ส่วนภูมิภาค เอเชีย อินเวสต์เม้นต์ เซลส์ กล่าว "อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงินของสถาบันในประเทศตะวันตกมาลงทุนในเอเชีย และธุรกรรมของกองทุนความมั่นคงแห่งชาติ เป็นแรงผลักดันที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก" แนวโน้มการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละประเทศเป็นดังนี้: ฮ่องกง ในปี 2010 จะยิ่งมีทัศนคติในแง่บวกเพิ่มขึ้น เพราะคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น คาดว่าตลาดการลงทุนจะเน้นที่ออฟฟิศในอาคารสำนักงานในย่านธุรกิจใจกลางเมือง และหน่วยอสังหาริมทรัพย์เพื่อการจำหน่ายปลีกชั้นยอดในย่านช็อปปิ้งดั้งเดิม จีนแผ่นดินใหญ่ นักลงทุนยังคงสนใจลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีน แม้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะต่ำและรัฐบาลมีนโยบายควบคุมการลงทุนเพื่อเก็งกำไร สภาพคล่องอันเหลือเฟือ แนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ดี และความรู้สึกว่านโยบายทางการเงินมีความเสี่ยงต่ำส่งผลให้ นักลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นฟาดฟันกับทุนต่างชาติเพื่อครอบครองสินทรัพย์หลัก สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยมาตรการของรัฐบาลที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการซื้อของนักลงทุนจะส่งผลให้ยอดขายอาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์เพิ่มสูงขึ้น สิงคโปร์ ในสิงคโปร์ภาคธนาคารและการเงินมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่วัฏจักรการฟื้นตัวอาจถดถอยและผลตอบแทนตกต่ำ แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ยังเป็นตลาดที่น่าลงทุน ตัวอย่างเช่น ราคาของภาคที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมน่าสนใจมากเมื่อเทียบกับตลาดหลักอื่นๆ ในเอเชีย และอุปสงค์อาคารพาณิชย์ก็เพิ่มขึ้น ไทย ตลาดการลงทุนโดยรวมยังคงอยู่ในสภาพอ่อนแรง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 เนื่องมาจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ขาดเสถียรภาพ “ข่าวจากสื่อต่างประเทศนั้น ตรงกันข้ามกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้น” นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการของ คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยชี้ ความกังวลเกี่ยวกับอสังหริมทรัพย์ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่เพิ่งเกิดขึ้น เป็นผลให้การลงทุนทางอุตสาหกรรมดูมืดมน แต่มติที่รัฐบาลเพิ่งอนุมัติก็ช่วยคลายความไม่มั่นใจของภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอยู่น้อยมาก และนักลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศยังคงไม่เข้ามาลงทุน นายปฏิมาสรุปว่า “ผลตอบแทนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังดีอยู่ แต่เงินทุนต่างชาติจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดก็ต่อเมื่อไม่มีสถานการณ์วุ่นวายเท่านั้น ในช่วงทรงตัว การลงทุนภายในประเทศยังคงเป็นกลไกสำคัญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนำโดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ในตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ นายปฏิมา จีระแพทย์ | กรรมการผู้จัดการ คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย โทร (662) 656 7000 Email : patima.jeerapaet@colliers.com นายแอนโทนี พิคอน | ผู้จัดการอาวุโส คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย โทร (662) 656 7000 Email : antony.picon@colliers.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ