ผลการพิจารณาของศาลปกครอง และความคิดเห็นของซีอีโอดีแทค

ข่าวทั่วไป Friday February 16, 2007 12:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ดีแทค
สืบเนื่องจากที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด หรือ ดีแทค ยื่นฟ้อง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2550 อันเนื่องมาจากได้รับความเดือดร้อนจากการที่ ทีโอที ไม่เชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมของ ดีแทค กับโครงข่ายโทรคมนาคมของ ทีโอที ซึ่งเป็นการละเลยต่อหน้าที่และฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการละเมิดต่อดีแทค
คำฟ้องของดีแทคขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ดังนี้
1. ให้ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยดำเนินการให้ผู้ฟ้องคดีเข้าถึงการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ถูกฟ้องคดี โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีจัดทำ Office Data และ Translator เพื่อให้เลขหมายโทรคมนาคมใหม่ที่ กทช. อนุมัติจัดสรรให้ผู้ฟ้องคดีจำนวน 1,500,000 เลขหมาย ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่เชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ฟ้องคดีกับโครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งเป็นการละเลยต่อหน้าที่และฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ซึ่งศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องและได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อผู้ใช้เลขหมายที่ผู้ฟ้องคดีได้รับการจัดสรรจาก กทช. สามารถติดต่อกับเลขหมายโทรคมนาคมของทีโอทีได้
2. ให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายดังนี้
2.1 ค่าธรรมเนียมเลขหมายที่ได้ชำระให้แก่ กทช. เป็นรายเดือน ๆ ละ 3,000,000 บาท นับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2549 ซึ่งเป็นเวลาเริ่มเปิดใช้บริการเลขหมายดทรคมนาคมที่ได้รับการคัดสรรจาก กทช. แก่ประชาชนเป็นต้นไปจนกว่าผู้ถูกฟ้องคดีจะดำเนินการให้เลขหมายดังกล่าวเปิดใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งคำนวณถึงวันฟ้องเป็นเงิน 3,000,000 บาท
2.2 ค่าเสียโอกาสจากการที่ประชาชนไม่มาขอรับบริการจากผู้ฟ้องคดีในส่วนของเลขหมายใหม่ โดยคำนวณจากรายรับเฉลี่ยต่อเลขหมายต่อวัน เป็นเงิน 15,000,000 บาทต่อวัน นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าผู้ถูกฟ้องคดีจะดำเนินการให้เลขหมายใหม่ดังกล่าวเปิดใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
2.3 ค่าเสียหายต่อชื่อเสียงที่ผู้ถูกฟ้องคดีทำให้สาธารณชนไม่เชื่อมั่นในการให้บริการของผู้ฟ้องคดี โดยคิดเป็นร้อยละ 10 จากรายจ่ายค่าโฆษณาต่อปี เพื่อแก้ไขภาพพจน์ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของผู้ฟ้องคดีเป็นเงิน 70,000,000 บาท
ในกรณีนี้ศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาเช่นกัน
3. ห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีเรียกเก็บค่าตอบแทนภายใต้ข้อตกลงเชื่อมโยงโครงข่าย แต่ให้เรียกเก็บเฉพาะค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมในอัตราที่ผู้ถูกฟ้องคดีกำหนดและได้รับอนุมัติจาก กทช. ซึ่งใช้กับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกราย
ในประเด็นนี้ศาลพิเคราะห์ว่ากรณีพิพาทว่าด้วยเรื่องการเรียกเก็บค่าตอบแทนภายใต้ข้อตกลงเชื่อมโยงโครงข่าย อาจจะมีการนำเสนอสู่การวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทและคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 และสามารถใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลต่อไป ศาลจึงได้แจ้งคำสั่งศาลไม่รับคำฟ้อง เฉพาะประเด็นนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท จะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเข้าพบเพื่อชี้แจงครั้งแรกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการไต่สวนและไกล่เกลี่ยไม่เกิน 1 ปี
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าวว่า “เรามองว่านี่เป็นข่าวดี และไม่รู้สึกแปลกใจกับคำสั่งศาล เพราะตรงกับสิ่งที่เราคิด และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงได้นำเรื่องแอ็คเซ็สชาร์จเข้าบรรจุไว้ในคำร้องที่ยื่นต่อศาล เพราะเราคาดว่าศาลจะตัดสินให้กรณีพิพาทนี้เข้าไปอยู่ภายใต้อำนาจการพิจารณาของกทช. และที่ผ่านมาเราก็ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าเรื่องดังกล่าวควรอยู่ภายใต้อำนาจของกทช. ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่ากทช. จะให้ความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย เราเคารพในการตัดสินของกทช. ในขณะเดียวกัน เราก็เคารพในบทบาทของทีโอทีที่ต้องทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ดังนั้น คำสั่งศาลที่ออกมาในครั้งนี้ น่าจะเป็นการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนแล้วว่ากทช. เป็นผู้ที่มีอำนาจทางกฎหมายในการหาทางออกให้กับกรณีของเอซีและไอซี สำหรับกลไกในการพิจารณา เราเชื่อมั่นว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี ซึ่งหากคู่กรณีไม่พอใจในคำตัดสินก็สามารถพึ่งพากระบวนการทางศาลได้อีกครั้ง”.
สอบถามเพิ่มเติม
ลูกค้า
1678 DTAC Call Center
สื่อมวลชน
MEDIA RELATIONS UNIT - DTAC
สิริพร 081-612-9809 พิมพกานต์ 081-614-9828 สุชลี 081-710-9879 พรนานา 081-623-9895 มัชฌิมา 081-655-2173

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ