กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาหรือใกล้ทางน้ำไหลของพื้นที่ภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในระหว่างวันที่ 25-31 ก.ค. 50
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ พบว่า อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ทั่วทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขาหรือที่ใกล้ทางน้ำไหลของพื้นที่ภาคใต้ตอนบน บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา เพิ่มความระมัดระวังภัยที่เกิดจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ลมกระโชกแรง และดินโคลนถล่ม ในช่วงวันที่ 25 -31 ก.ค. 2550 สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรงทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง เบื้องต้น กรมป้องกันฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสั่งการไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 — 12 พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่คาคว่าจะได้รับผลกระทบดังกล่าว ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากฝนตกหนัก โดยให้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น ผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น และหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมเครื่องจักรกล ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และขอประชาชนให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศแจ้งเตือน ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของขึ้นที่สูงและเตรียมการอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา กรมปภ.ได้สำรวจไปยังจังหวัดต่างๆเบื้องต้นพบว่าระหว่างวันที่ 21-24 กรกฎาคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 3 จังหวัด 3 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 5 ตำบล 22 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พังงาและเชียงราย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 820 คน 164 ครัวเรือน อพยพราษฎรไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย 70 คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย นอกจากนี้ยังพร้อมสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ เรือท้องแบน รถบรรทุกตลอดจนอาหารและน้ำดื่มสะอาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังได้เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อได้ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ปภ.เขตและสำนักงาน ปภ.จังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบหรือสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป