กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ส่งศิษย์รุ่นน้องแอ็คชั่นเบอร์1อีกคนอย่าง เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุงมารับบท “ภูติสางกา” มาประกบบทบาทในฐานะศัตรูคู่ปรับ ที่พร้อมระเบิดความมันส์ในส่วนของแอ็คชั่นศิลปะการต่อสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อที่สุด งานนี้นอกจากไม่มีอะไรที่ทำให้ จาพนม ผู้กำกับพระเอกแอ็คชั่นฮีโร่ต้องหนักใจแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีไซน์คิวบู๊แอ็คชั่นยากๆที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นใน “องค์บาก3” ศิษย์ร่วมสำนักอย่างเดี่ยวล้วนสนองตอบความต้องการของพี่จาได้หมด ไม่ว่าจะเป็น “ภูติยุทธ์” ท่วงท่าการต่อสู้ที่เดี่ยวต้องถ่ายทอดและนำเสนอเพื่อปะทะรับมือกับ “นาฏยุทธ์” ท่วงท่าการต่อสู้ที่ผสมผสานกับท่าการรำโขนของจา แต่มีสิ่งเดียวที่สร้างความอึดอัด และลำบากใจให้กับเดี่ยวมากที่สุดตลอดการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก 3 นั่นคือการที่ต้องทนให้ทีมเมคอัพหน้า-ผมมะรุมมะตุ้มล้อมหน้าล้อมหลังปรับลุคส์แปลงโฉมเปลี่ยนเดี่ยวให้กลายเป็นภูติสางกา นักฆ่าอีกาพญายมที่ถูกส่งมาฆ่าจา พนมที่รับบทเป็นเทียนโดยไม่สามารถลุกไปไหนได้ตลอดระยะเวลากว่า 6 ชั่วโมงเต็ม ก่อนที่จะเข้าฉากเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ทุกครั้ง แถมต้องตื่นมาตั้งแต่ตี 3 กว่าจะแต่งเสร็จก็โน่นเลย10โมงเช้าถึงได้มีโอกาสเดินทางไปยังโลเกชั่นเพื่อเตรียมถ่ายทำ งานนี้ทำเอาเดี่ยวถึงกับบ่นอุบต่อให้เล่นแอ็คชั่นเสี่ยงตายลงน้ำลุยไฟที่ไหนก็ไม่หงุดหงิดใจเท่ากับการที่ต้องทนให้ทีมเมคอัพ ทีมเพ้นท์ ทีมสัก ทีมเสื้อผ้าหน้าผม เซ็ทอัพมาราธอนขนาดนี้
“ครับ กว่าจะถ่ายได้แต่ละวัน ก็ต้องตื่นกันแบบตั้งแต่ตี 3 เพื่อจะมาทำเพ้นท์ร่างกายแล้วก็ดูการแต่งตัว นานมากครับ จำได้วันแรกที่ทำประมาณ 6 ชั่วโมง เกือบ 7 ชั่วโมง กว่าจะได้ถ่ายก็เลยไปจนถึงบ่ายโมงครับ ก็คือต้องนอน กว่าจะจับมารวมตัวกันได้นี่แบบยากเย็นแสนเข็ญมากครับ ด้วยความที่หนังองค์บาก3 เป็นภาพยนตร์พีเรียด ทำให้เราต้องมีเรื่องการแต่ง ซึ่งถ้าเลือกได้ ต่อไปขอไม่อยากเล่นหนังพีเรียดแล้วครับ (หัวเราะ) คือมันลำบากทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าเฉพาะการแต่งตัวแล้วก็การถ่ายทำยากมาก คิวแอ็คชั่นที่ยาก และต้องแอ็คชั่นในชุดที่ค่อนข้างเป็นอุปสรรคในการเล่น ยังไม่รวมถึง โลเกชั่น หรือช่วงถ่ายทำที่มีมรสุม เจอฝนตลอด ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญทั้งหมด อย่างการแต่งตัวทำไมต้องใช้เวลานาน ก็คือ ด้วยลุคส์ด้วยดีไซน์ อย่างตัวภูติสางกา เกือบทุกส่วนของร่างกายที่จะต้องมีสิ่งมาเติมแต่งทุกอย่างแม้แต่ฟัน ตา ผม หู แขน ขาแล้วก็บนตามอวัยวะส่วนต่างๆ ตามร่างกายของผม ก็จะมีแบบเพ้นท์สักเต็มตัวอะไรอย่างนี้ ทำให้เวลาที่ใช้ถึงต้องมีอย่างต่ำ 6-7 ชั่วโมงก่อนถ่ายทำ แล้วไม่ได้มีคนเดียวด้วยครับ ทุกคนเลยไม่ว่าจะเป็นอาหนิงนิรุตติ์ อาชุมพร ขนาดจ๊ะจ๋า เองยังต้องหลายชั่วโมงเลยครับผมหรือแม้แต่พี่จาเอง”
เห็นดาร์คทอลแอนด์แฮนด์ซั่มขนาดนี้ หนุ่มเดี่ยวยังต้องถูกทีมเมคอัพจับลงผิวที่คมอยู่แล้วเข้มยิ่งๆ ขึ้นไปอีก รวมทั้งต้องแต่งหน้าเขียนขอบตาให้ดูลึกลับดุดันขึ้นไปอีก ยิ่งเมื่อสวมชุดภูติสางกาด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับคาแรคเตอร์ความเป็นนักฆ่าอีกาพญายม นี่ขนาดยังไม่รวมกับแอ็คติ้งของท่วงท่าการเดินขยับเขยื้อนส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งคอแขนรวมถึงการกลอกตาไปมา และเมื่อผสมผสานท่าการต่อสู้ภูติยุทธ์ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่การเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วโดยไร้ร่องรอยด้วยแล้ว ต้องยอมยกนิ้วให้กับสปิริทและความสามารถของเดี่ยว ชูพงษ์ในฐานะคู่ปรับที่ยากต่อการรับมือของเทียนที่รับบทโดยจา พนมจริงๆ เลย
เตรียมพบกับเดี่ยวและ “องค์บาก3” ที่สุดแห่งภาพยนตร์แอ็คชั่นศิลปะการต่อสู้ระดับตำนานที่คนทั้งโลกรอคอย 5 พ.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์