กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ปิดดอนเมือง !!! สั่งโหน่งโกนหัว ส่ง “พระเท่งขี่เครื่องบิน”
“สหมงคลฟิล์ม” จับมือ “หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม” เปิดโปรเจ็คต์ “พระเท่งนักเลงโหน่ง”
เป็นฉากเด็ดช็อตจำที่ไม่เพียงติดตา แต่ยังเป็นที่พูดถึงต่อเนื่องไปจนถึงเวลาหนังออกฉายแน่ๆ สำหรับ “ฉากพระเท่งขี่เครื่องบินเพื่อเอาตัวรอดจากการที่เครื่องบินที่โดยสารมากำลังจะตก รวมทั้งช่วยชีวิตผู้โดยสารที่ติดมากับเครื่อง” ซึ่งเป็นไอเดียที่กลายมาเป็นพล็อตหนังตลกเรื่องล่าสุดที่ “เท่ง เถิดเทิง” ยอดตลกอัจฉริยะแห่งเอเชียจะกำกับ และเพื่อให้การกลับมาแท็คทีมฮาร่วมกันเป็นหนที่ 3 ของ2นักแสดงตลกระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “เท่ง เถิดเทิง” และ “โหน่งชะชะช่า” มาพร้อมกับความสนุกสนานอารมณ์ดีสมศักดิ์ศรียิ่งกว่า 2 ผลงานภาพยนตร์ก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จเหยียบร้อยล้านอย่าง “โหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง” และ “เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย” หลังจากที่ทั้งคู่ห่างหายจากการโลดแล่นและสร้างรอยยิ้มร่วมกันมา 3 ปีเต็ม ตอนนี้ทั้งคู่พร้อมแล้วกับโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ล่าสุดอย่าง “พระเท่งนักเลงโหน่ง” จากการควงแขน กอดคอ โอบเอวและลงขันร่วมกันของ 2 ค่ายเพื่อนซี้อย่าง “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม” ร่วมกันเป็นครั้งที่ 6
โดยงานนี้ต้องยอมซูฮกในไอเดียและความครีเอทแบบสุดๆ ของ “เท่ง-โหน่ง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังลูกบ้าอันล้นเหลือของ 2 นักแสดงตลกระดับแม่เหล็กแถวหน้าของเมืองไทยจนพูดได้ว่าคงไม่มีงานเปิดตัวโปรเจ็คต์ภาพยนตร์เรื่องไหนที่จะกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วเมือง เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เท่า ตั้งแต่การเลือกเปิดตัวกลางลานจอดเครื่องบิน สนามบินดอนเมือง โดยให้ตลกซูเปอร์สตาร์อย่างโหน่ง ชะชะช่าขึ้นไปแอ็คท่าบนปีกเครื่องบินที่ความสูงเท่ากับตึก 1 ชั้นครึ่งทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ากลัวความสูง อากาศก็ร้อน แดดก็เปรี้ยง แต่งานนี้สปิริทมีเกินร้อยเลยทั้งโพสต์ ทั้งแอ็คท่าสารพัดนึกว่าปีกเครื่องบินเป็นแคทวอล์คซะงั้น โดยงานนี้รุ่นน้องอย่างโหน่งพูดถึงการร่วมงานในครั้งนี้
“ก็ต้องบอกว่าอากาศวันนี้ถือว่าร้อนครับ แดดแรงมาก ก็เป็นครั้งแรกของผมกับของพี่เท่งด้วย นี่ถ้าไม่ใช่หนังพี่เท่งผมไม่มานะ (หัวเราะ) เดี๋ยวพอถึงหนังผม พี่เท่งต้องไปบ้างนะ หนังผมลงทะเล ถ่ายกลางทะเล อย่างในพระเท่งนักเลงโหน่งก็ถือว่าพิเศษครับ ทุกครั้งที่เท่งเจอโหน่ง โหน่งเจอเท่งไม่มีธรรมดาอยู่แล้ว อย่างในเรื่องนี้พี่เท่งยังไม่บอกอะไรเราเลย เพราะเป็นความลับ เราก็ถามว่าเอาเรามาฮาหรือเปล่า ไม่ได้เอามาเป็นเหมือนพี่หม่ำนะ ฉากเดียวตายไม่เอานะ คือเรามีเครื่องบินส่วนตัว มีทนายความส่วนตัว มีหมอส่วนตัว มีนักการเมืองเป็นลูกน้อง เราเป็นประเภทเศรษฐี มีอิทธิพล ไม่กลัวใคร แต่มีเหตุให้เสี่ยโหน่งกับพระเท่งต้องเดินทางไปบนเครื่องบินลำเดียวกัน ก็จะมีสารพัดเหตุการณ์ ที่โลดโผนบนเครื่องบิน”
หลังจากนั้นก็มาถึงไฮไลท์สำคัญที่นักเลงโหน่งต้องโกนหัวพระเท่งโดยมีแบคกราวด์เป็นเครื่องบินลำโตทั้งคู่ก็ไม่ได้ทำให้สื่อมวลชนนับร้อยชีวิตต้องผิดหวัง เมื่อโหน่งปะทะเท่ง มีหรือจะไม่ฮา เริ่มต้นด้วยการแสดงความรักใคร่กลมเกลียวสนิทสนม แค่เห็นลีลาและวิธีการโกน (หัวและหนวด) ไปจนถึงการเช็ด ล้าง จุ่ม (ศรีษะ) ขอยืนยันว่าจุ่ม เพราะโหน่งแกเล่นจับเอาหัวกลมๆของพี่เท่งลงไปจุ่มในถังน้ำแบบเต็มๆ เมื่อโกนเสร็จหนุ่มเท่งก็ต้องเปลี่ยนชุดห่มจีวรณ์มาในลุคส์ของพระเท่ง ขณะที่โหน่งมาพร้อมชุดสูทในมาดของนักเลงโหน่ง งานนี้ต้องขอบอกว่าความเป็นตลกมืออาชีพและการเข้าขากันของ 2 ตลกจากแก๊งสามช่าไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
เท่ง : ก็คือเพื่อความสมจริงก็ต้องโกนจริงครับ ใส่วิกก็ดูไม่เหมือน โกนจริงไปเลย แต่ตอนนี้แสบหนังหัวไปหมดแล้ว ไอ้โหน่งมันแกล้ง (หัวเราะ)
โหน่ง : ตอนแรกพี่เท่งจะเอาเบอร์หนึ่งโกน ผมบอกโกนเกลี้ยงไปเลย มันดูขลังดี (หัวเราะ)
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย นั่นคือการเดินทางเข้าสู่ตัวเครื่องบินเพื่อไปยังห้องนักบิน สำหรับเก็บภาพข่าวและบรรยากาศการขี่เครื่องบินในแบบฉบับพระเท่งนักเลงโหน่ง ถึงแม้ห้องนักบินจะแคบไปหน่อย แถมอากาศก็ร้อนเหลือใจ แต่งานนี้ทั้งนักแสดงและนักข่าวต่างไม่มีท้อ แถมได้หัวร่อคำโตเมื่อเห็นลีลาการขี่เครื่องบินของพระเท่ง ส่วนนักเลงโหน่งก็ใช่ย่อยเล่นโผล่ตัวออกมาจากช่วงหัวของห้องนักบินซะงั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะรวมตัวกันถ่ายภาพพร้อมทีมงานและผู้บริหารจากสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล อวิกา-จาตุศม-ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ และทางฝั่งหัวฟิล์มท้ายฟิล์ม อาทิ พาณิชย์ สดสี โปรดิวเซอร์ สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ร่วม, บัวไร มือเขียนบทโดยที่เท่ง เถิดเทิงได้พูดถึงผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในครั้งนี้
เท่ง : สำหรับเรื่องนี้ก็คิดที่จะทำมานานแล้ว ด้วยจังหวะเวลาที่ลงตัวก็เลยเริ่มลุย คือคิดบทมาหลายร่างมาก ร่างหนึ่งยังไม่โดน จนมาลงตัวที่ร่างห้า ก็พยายามวางตัวละคร ให้แต่ละคาแรกเตอร์ชัดเจน อย่างเรื่องนี้ก็มีเสี่ยโหน่งหรือนักเลงโหน่งที่มีเครื่องบินส่วนตัว มีตุ๊กกี้ด้วย ส่วนเราเป็นพระที่อาศัยเครื่องบินลำนี้เดินทาง แล้วก็มีเหตุที่เครื่องบินต้องตก สาเหตุที่ว่าพระทำไมต้องขับเครื่องบิน มันก็จะมีเหตุ มีที่มาที่ไป มีคำตอบอยู่ในภาพยนตร์ คือบนเครื่องมีคนเจ็บอยู่ที่ไม่เจ็บเลยคือพระ แล้วถ้าพระไม่ขับก็ตายหมู่ แต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้พระขับเครื่องบินได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นการลบหลู่ เพราะทุกคำพูดเราได้มีการปรึกษาพระมหาสมปอง หรือพระหลายๆ องค์ ส่วนการถ่ายทำก็น่าจะอยู่ราวๆ สามสี่เดือน มีถ่ายบนเครื่องบินก็ประมาณ 7-8 ฉากได้”
แน่นอนว่าเมื่อมีความคืบหน้าของโปรเจ็คต์พระเท่งนักเลงโหน่ง ทางทีมข่าวบันเทิงจะรีบเกาะติดกองถ่ายมารายงานแฟนๆ อย่างแน่นอน